ประเทศที่ยังคงความสัมพันธ์กับไต้หวันน้อยลงไปทุกขณะ โดยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นิการากัวในภูมิภาคอเมริกากลาง ได้ตัดความสัมพันธ์กับไต้หวันที่มีมายาวนานกว่า 30 ปี เพื่อยอมรับนโยบาย “จีนเดียว” ของสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศนิการากัวออกแถลงอย่างเป็นทางการว่า ในวันนี้นิการากัวได้ถอนความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน และระงับการติดต่อหรือความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการทั้งหมด ซึ่งในขณะเดียวกัน รัฐบาลนิการากัวขอประกาศว่า ได้รับรู้ ว่าในโลกนี้มีเพียงแค่จีนเดียว สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม และเป็นตัวแทนของจีนและไต้หวัน ซึ่งเป็นดินแดนจีนที่แยกให้ขาดกันไม่ได้ขณะที่นางหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกแถลงการณ์ต่อมาหลังจากการร่วมประชุมกับรัฐมนตรีคลังนิการากัว พร้อมลูกชาย 2 คนของนายแดเนียล ออร์เทกา ประธานาธิบดีนิการากัว ที่เมืองเทียนจิน โดยระบุว่า การตัดสินใจของนิการากัว ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง สอดคล้องกับกระแสโลกและปณิธานของประชาชน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า กรณีนี้ได้ทำให้ชาติที่ยังคงสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน ลดเหลือเพียง 14 ชาติ จากเดิม 21 ชาติ นับตั้งแต่นางไช่ อิง เหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน เข้ารับตำแหน่ง เมื่อเดือน พ.ค.2559 ซึ่งชาติที่ตัดสัมพันธ์ไต้หวันก่อนหน้านี้คือหมู่เกาะคิริบาติ และโซโลมอน ในมหา สมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2562ต่อมาทางการไต้หวันได้ออกแถลงการณ์เช่นกันว่า รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลนิการากัว ตัดสินใจเช่นนี้ และเป็นการตัดสินใจของประธานาธิบดีออร์เทกา ที่ยอมทิ้งความเป็นมิตรระหว่างประชาชนสองดินแดน ในฐานะสมาชิกประชาคมโลก ไต้หวันมีสิทธิที่จะแลกเปลี่ยนและพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ และพร้อมที่จะส่งเสริมการทูตเชิงปฏิบัติได้จริง เพื่อให้ไต้หวันบรรลุสถานะทางสากลดั่งที่ควรจะได้รับ ขณะที่รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวการเมืองไต้หวันด้วยว่า จังหวะการเปลี่ยนความสัมพันธ์ครั้งนี้ เข้าข่ายเชิงยั่วยุ เพราะมีขึ้นวันที่ไต้หวันจะเข้าร่วมการประชุมเพื่อประชาธิปไตย วันที่ 9-10 ธ.ค. ตามคำเชิญของสหรัฐฯด้านนายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประ เทศสหรัฐฯ โจมตีการตัดสินใจของนิการากัวว่าไม่ได้สะท้อนถึงเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง และก่อนหน้านี้การเลือกตั้งที่ประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เทกา ได้รับชัยชนะ ก็ถูกวิจารณ์ว่าขาดความชอบธรรม เนื่องจากมีคู่แข่งทางการเมืองถูกควบคุมตัว ทั้งนี้ สหรัฐฯขอเรียกร้องให้ประเทศที่ให้คุณค่าแก่สถาบันประชาธิปไตยขยายความร่วมมือกับไต้หวัน.