หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือสั่งให้รื้อภาพนายคิม อิล-ซุง บิดาผู้ก่อตั้งประเทศและปู่ของตัวเอง รวมถึงภาพนายคิม จอง-อิล ผู้เป็นพ่อออกจากอาคารสถานที่ราชการทั้งหมดในกรุงเปียงยาง พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมลัทธิ “คิมจองอึน : Kimjongunism” หวังหลุดพ้นจากเงาบรรพบุรุษของตัวเองทั้งนี้ ลัทธิดังกล่าวกำลังถูกส่งเสริมในแวดวงหน่วยงานของราชการ อีกทั้งสื่อภาครัฐก็ระบุตัวตนของผู้นำคิม ในวัย 37 ปีว่า เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นคำจำกัดความที่เคยใช้ในยุคของนายคิม อิล-ซุง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ถูกมองว่าผู้นำคิมมีความมั่นใจเป็นอย่างมากกับการรวบรัดอำนาจไว้ในมือก่อนถึงวันครบรอบ 10 ปีของการขึ้นมามีอำนาจปกครองประเทศก่อนนี้หน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ชี้แจงต่อ ส.ส.ในสภาที่กรุงโซล เกี่ยวกับพัฒนาการในเกาหลีเหนือ ว่าด้วยลัทธิ “คิมอิลซุง : Kimilsungism” ที่เคยนำมาใช้เป็นแนวอุดมคติปู่ของผู้นำคิมช่วงยุค’70 ต่อมาใช้คำว่า “คิมอิลซุง-คิมจองอิล : Kimilsungism-Kimjongilism” ด้วยนโยบายจูเซ่ ที่หมายถึง พึ่งพาตนเอง โดยยึดแนวคิดของมาร์กซิสและเลนินเป็นหลักในการปกครองประเทศ เป็นอุดมการณ์ของพรรคแรงงานเกาหลี ที่ประกอบด้วยแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ อิสระทางการเมือง การพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ และการป้องกันตนเองทางทหาร.