พ.ศ.2516 อัฟกานิสถานเปลี่ยนแปลงการปกครองจากกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นสาธารณรัฐ จากนั้นประเทศนี้ก็กลายเป็นนรกบนดิน มีปฏิวัติรัฐประหารเกิดซ้ำซาก ประเทศไม่สามารถจะพัฒนาได้ ประชาชนที่ลำบากยากเข็ญอยู่แล้ว ก็กลายเป็นกลุ่มมนุษย์ที่ตกนรกทั้งเป็น
พ.ศ.2522 โซเวียตบุกอัฟกานิสถาน เพื่อสนับสนุนฝ่ายซ้ายให้ได้เป็นรัฐบาล สหรัฐฯกลัวว่าอัฟกานิสถานจะกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จึงส่งสายลับซีไอเอของตนคนหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า อุซามะ บินลาเดน เข้าไปสร้างเครือข่ายอัลกออิดะห์เพื่อต่อต้านโซเวียต การทำงาน ของบินลาเดนได้ผล และทำให้กองทัพโซเวียตในอัฟกานิสถานเผชิญความลำบากยากแค้นเป็นอย่างมาก
กองทัพสหรัฐฯติดหล่มสงครามเวียดนามฉันใด กองทัพสหภาพโซเวียตก็ติดหล่มสงครามกลางเมืองในอัฟกานิสถานฉันนั้น การหนุนฝ่ายซ้ายในอัฟกานิสถานอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูทำให้สหภาพโซเวียตต้องใช้สตางค์บานเบอะเยอะแยะ และทำให้ฐานะของประเทศยากจนอย่างรวดเร็ว บั้นปลายท้ายที่สุด โซเวียตก็อยู่ไม่ไหว ต้องหนีอย่างหางจุกตูดจากอัฟกานิสถานกลับยุโรปตะวันออก ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ฮิ้วของพวกตอลีบานที่กระหึ่มดังทั้งประเทศ
พ.ศ.2539-2544 กลุ่มตอลีบานยึดอำนาจการปกครองของอัฟกานิสถานได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลังจากนั้นก็ใช้หลักการศาสนาอิสลามปกครองประเทศอย่างสุดโต่ง
11 กันยายน 2544 ตึกเวิลด์เทรดในมหานครนิวยอร์กถูกโจมตี สหรัฐฯอ้างว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีคือ อุซามะ บินลาเดน ชาวซาอุดีอาระเบีย อดีตสายลับที่ตนส่งเข้าไปสร้างเครือข่ายเล่นงานสหภาพโซเวียตในอดีต พอถึงเดือนตุลาคม 2544 สหรัฐฯและอังกฤษก็ใช้เครื่องบินเข้าถล่มอัฟกานิสถาน โดยให้เหตุผลว่าต้องการกดดันให้ตอลีบานส่งตัวบินลาเดนให้ตน
ปลาย พ.ศ.2544 ผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกในสมัยนั้น เดินทางไปอยู่ตามชายแดนปากีสถานและอัฟกานิสถาน ไปพบประธานสภากลาโหมอัฟกานิสถาน ไปอยู่ในโรงเรียนที่สอนนักเรียนคณะตอลีบาน ไปดูการประท้วงสหรัฐฯของชาวปากีสถานตามเมืองชายแดน นอกจากนั้น ยังร่วมกับหลายกลุ่มนำอาหารการกินและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไปมอบให้ผู้ที่หนีภัยสงครามข้ามชายแดนมาอยู่ที่เทือกเขาไคเบอร์และเมืองเปชาวาร์ รวมทั้งยังมีโอกาสสนทนากับคณะผู้นำของตอลีบานที่ช่องชายแดนตุรคัม บริเวณเทือกเขาไคเบอร์
...
ตุลาคม 2544 สหรัฐฯกับอังกฤษโจมตีอัฟกานิสถานตามอำเภอใจ พอถึงธันวาคม 2544 กลุ่มประเทศตะวันตกก็รวมตัวกันมาซัดอัฟกานิสถาน ภายใต้กองกำลังรักษาความปลอดภัยขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ซึ่งใช้ชื่อเฉพาะในการปฏิบัติการครั้งนั้นว่า ISAF หรือ International Security Assistance Forces โจมตีอัฟกานิสถาน
บางช่วงกำลังพล ISAF จากพวกตะวันตกในอัฟกานิสถานมีมากเกือบ 5 หมื่นนาย การทิ้งระเบิด การเข้าไปซุ่มรุมฆ่าผู้คนในหลายพื้นที่ ทำให้มีคนพื้นเมืองมากมายหลากหลายชาติพันธุ์ลุกขึ้นมาตั้งกองกำลังติดอาวุธต่อต้านกองกำลังของสหรัฐฯและพันธมิตรอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
พวกตอลีบานซึ่งถูกปราบหนักตั้งแต่ พ.ศ.2544 ก็ฟื้นคืนชีพและรุกคืบขึ้นเข้ามามีอิทธิพลและยึดพื้นที่ในอัฟกานิสถานได้มากขึ้น ตามลำดับ สหรัฐฯและพันธมิตรที่ชุมนุมสุมหัวกันปฏิบัติการเต็มรูปแบบนอกทวีปยุโรปเป็นครั้งแรกตั้งแต่ตั้งกลุ่มนาโตมา เมื่อ พ.ศ. 2492 สูญเสียกำลังพลอย่างต่อเนื่อง
5 กรกฎาคม 2564 กองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรเก็บข้าวเก็บของและกระโจนขึ้นเครื่องและบินหนีหน้าตาตื่นออกไปจากฐานทัพบากรัม อย่างไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า เขียนให้เข้าใจง่ายก็คือ สหรัฐฯและ พันธมิตรนาโตยอมแพ้ ทิ้งยานพาหนะทั้งหลายไว้เต็มฐานทัพ
ทหารอัฟกันที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐฯและนาโตมายาวนานโดยที่ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า สหรัฐฯและพันธมิตรนาโตจะยอมแพ้และหนีอย่างหางจุกตูด ปล่อยให้พวกตนต้องเผชิญชะตากรรมกับกองกำลังตอลีบานอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
8 กรกฎาคม 2564 นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน สั้นๆว่า “หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตอลีบานจะเป็นผู้ชนะ และได้ครอบครองอัฟกานิสถาน”.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com