กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ (NWS) รายงานถึงสภาพอากาศจากภัยพิบัติทั้งพายุหิมะกับทอร์นาโดครั้งประวัติศาสตร์ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ เมื่อ 16 ก.พ. ทำให้อุณหภูมิลดฮวบจนหนาวติดเยือกแข็ง มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 21 รายทั้งที่รัฐเทนเนสซี รัฐเท็กซัส รัฐเคนตักกีและรัฐหลุยเซียนา ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯเองก็ประหลาดใจกับการก่อตัวของพายุทอร์นาโดอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนไม่ได้ประกาศแจ้งเตือน กระทั่งขึ้นฝั่งแล้ว ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะที่รัฐเท็กซัสกว่า 4 ล้านคน และอีก 250,000 คนที่รัฐโอเรกอน รวมไปถึงตอนเหนือกับตอนกลางของเม็กซิโกอีก 4 ล้านคน
ขณะที่รัฐเนบราสกาก็ไม่มีไฟฟ้าใช้ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นสุดขั้ว -35 องศาเซลเซียส ต่ำสุดในรอบ 25 ปี รัฐมินเนโซตา อุณหภูมิ -38 องศาเซลเซียส และที่รัฐเซาท์ดาโกตา อุณหภูมิ -26 องศาเซลเซียส ส่วนที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ หิมะตกท่วมสูง 46 ซม. ทำให้ทางโรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน กรมอุตุฯคาดการณ์ว่าพายุหิมะยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องไปถึงวันศุกร์ 19 ก.พ. และอาจยังกระทบถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย เพราะมีการปิดศูนย์ฉีดวัคซีนเพื่อไม่ให้ประชาชนเสี่ยงออกมาข้างนอกกับสภาพอากาศที่เลวร้าย และทางรัฐบาลสหรัฐฯคาดว่าการจัดส่งและแจกจ่ายวัคซีนอาจล่าช้าออกไปหลายวัน.