ทุกวันนี้มลพิษต่างๆในโลกของเราส่วนใหญ่เกิดมาจากการกระทำของมนุษย์ โดยเฉพาะไนโตรเจนไดออกไซด์ที่เป็นกระบวนการเผาไหม้ ถูกปล่อยออกจากยานพาหนะ หรือจากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล เปรียบว่ามีมนุษย์ที่ไหนก็เกิดมลพิษที่นั่นก็ว่าได้ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์การบินอวกาศกอดเดิร์ด หน่วยงานขององค์การนาซา ในสหรัฐอเมริกา จึงตั้งข้อสังเกตว่าไนโตรเจนไดออกไซด์บนดาวเคราะห์ที่อาศัยอยู่ได้ อาจบ่งบอกถึงการมีอยู่ของความเจริญด้านอุตสาหกรรม
ดังนั้น หากมีอารยธรรมชั้นสูงนอกโลกที่เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่ในระบบดาวฤกษ์ใกล้เคียง เราอาจตรวจพบได้โดยมองหาสัญญาณมลพิษทางอากาศที่ถูกปล่อยออกมา ปัจจุบัน นักดาราศาสตร์พบดาวเคราะห์มากกว่า 4,000 ดวงที่โคจรรอบดาวฤกษ์ดวงอื่นๆ บางดวงอาจมีสภาพที่เหมาะสมกับสิ่งชีวิต แต่ในดวงดาวที่อยู่อาศัยได้เหล่านี้ สิ่งมีชีวิตบางส่วนอาจพัฒนาไปจนถึงจุดที่ก่อให้เกิดอารยธรรมทางเทคโนโลยี ทว่าก็อยู่ไกลมาก นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถมองหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตหรืออารยธรรมโดยการส่งยานอวกาศไปยังโลกที่ห่างไกลเหล่านี้ จึงต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไนโตรเจนไดออกไซด์ก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติได้เช่นกัน นักวิทยาศาสตร์จึงต้องวิเคราะห์ดาวเคราะห์นอกระบบอย่างรอบคอบเพื่อดูว่ามีไนโตรเจนไดออกไซด์ที่อาจเกิดจากสังคมเทคโนโลยีหรือไม่ ถ้ามีสัญญาณของเทคโนโลยีในโลกอันไกลโพ้น นั่นหมายความว่าเราคงไม่ได้อยู่เพียงลำพังในจักรวาลนี้.
(ภาพ : NASA/Jay Freidlander)