เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ทวิตเตอร์ อิงค์แถลงนโยบายเพิ่มเติมในการจำกัด “คำพูดแสดงความเกลียดชัง” ให้รวมถึงการใช้ภาษาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์บนพื้นฐานของเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ และชาติกำเนิดด้วย แม้จะสนับสนุนให้แสดงออกอย่างเสรี แต่การละเมิดการคุกคามและพฤติกรรมที่แสดงความเกลียดชังยังคงมีอยู่ บริษัทได้ขยายกฎในการต่อต้านพฤติกรรมที่แสดงความเกลียดชังให้รวมถึงภาษาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์บนพื้นฐานของศาสนาหรือวรรณะในเดือน ก.ค.2562 และขยายกฎให้รวมภาษาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์จากอายุ ความพิการ หรือโรค ในเดือน มี.ค.ปีนี้
โดยทวีตที่มีคำพูดแสดงความเกลียดชังที่เข้าข่ายทุกประเภทจะถูกลบออกและจะมีการรายงานต่อบริษัทกลุ่มสิทธิพลเมือง คัลเลอร์ ออฟ เชนจ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรขององค์กรผู้สนับสนุนที่ผลักดันให้ทวิตเตอร์ลดคำพูดที่แสดงความเกลียดชังทางออนไลน์ ได้เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น หลังจากกดดันเรื่องนี้มานานหลายปี แต่ยังวิจารณ์ทวิตเตอร์ที่ไม่สามารถอัปเดตนโยบายดังกล่าวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 3 พ.ย. แม้จะมีคำเตือนซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดที่รุนแรงและลดทอนความเป็นมนุษย์ และกล่าวอีกว่าทวิตเตอร์ปฏิเสธที่จะชี้แจงการฝึกอบรมผู้ดูแลเนื้อหาและประสิทธิภาพของปัญญาประดิษฐ์ในการระบุเนื้อหาที่ละเมิดนโยบาย
ขณะที่โฆษกหญิงของทวิตเตอร์กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนไว้ตั้งแต่เริ่มต้นที่จะเพิ่มหมวดหมู่ใหม่เกี่ยวกับนโยบายการใช้งานหลังจากผ่านการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถบังคับใช้กฎที่ปรับปรุงได้อย่างสม่ำเสมออย่างมีประสิทธิภาพ.