น.ส.ไช่ อิง-เหวิน วัย 63 ปี เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันสมัยที่ 2 สมัยสุดท้าย เมื่อ 20 พ.ค. หลังนำพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพี) ชูนโยบายต่อต้านจีนจนชนะการเลือกตั้งถล่มทลายเมื่อเดือน ม.ค. โดย น.ส.ไช่กล่าวสุนทรพจน์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนมาถึงจุดหักเหครั้งประวัติศาสตร์ ทั้งสองฝ่ายมีหน้าที่หาทางอยู่ร่วมกันในระยะยาวและป้องกันไม่ให้ความเป็นปรปักษ์และความขัดแย้งทวีขึ้น

ไช่ อิง-เหวิน ยังเน้นย้ำคำว่าสันติภาพ ความเสมอภาค ประชาธิปไตยและการเจรจา ไต้หวันจะไม่ยอมรับหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีนที่จะลดความสำคัญของไต้หวัน และบ่อนทำลายสถานะที่เป็นอยู่ระหว่างจีนและไต้หวัน ขอยึดมั่นในหลักการนี้แน่วแน่ ไต้หวันจะยังคงพยายามสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน อีกทั้งยินดีเจรจากับจีน ส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาคมากขึ้น จะต่อสู้เพื่อให้ไต้หวันได้เข้าร่วมองค์กรระหว่างประเทศ ส่งเสริมความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยุโรป และประเทศอื่นๆ ที่มีแนวทางเดียวกัน

ด้านหม่า เซี่ยวกวง โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนแถลงตอบโต้ว่า จีนยึดมั่นในหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางนโยบายไต้หวันของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่มีที่ว่างให้ฝ่ายแบ่งแยกดินแดนไต้หวันเคลื่อนไหวแยกเอกราช การรวมชาติเป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้ทางประวัติศาสตร์ในการฟื้นคืนชีพอันยิ่งใหญ่ของชาติจีน จีนมีเจตจำนงแน่วแน่ มั่นใจเต็มที่ และมีความสามารถเพียงพอปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพด้านดินแดน ขณะที่ไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งสารแสดงความยินดีถึงไช่ อิง-เหวิน ด้วย

ทั้งนี้ จีนใช้หลักการหนึ่งประเทศ สองระบบกับฮ่องกงหลังอังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนจีนในปี 2540 และเสนอใช้นโยบายเดียวกันกับไต้หวัน แต่พรรค การเมืองหลักๆของไต้หวันปฏิเสธ จีนยังเห็นว่าไช่ อิง-เหวิน เป็นพวกแบ่งแยกดินแดน คิดประกาศเอกราช ส่วนไช่ อิง-เหวิน ระบุว่า ไต้หวันเป็นรัฐอิสระ มีชื่อเป็นทางการว่าสาธารณรัฐจีน และไม่ต้องการอยู่ใต้การปกครองของรัฐบาลจีน

...

หลังไช่ อิง-เหวิน ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 จีนเพิ่มการข่มขู่ด้วยการซ้อมรบใกล้ช่องแคบไต้หวันหลายครั้ง ทั้งส่งเครื่องบินรบเข้าไปในน่านฟ้าไต้หวันและส่งเรือรบแล่นรอบๆไต้หวัน จีนยังขัดขวางไม่ให้ไต้หวันเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน จะใช้กำลังทหารบุกยึดรวมชาติถ้าจำเป็น และระหว่างการประชุมทางออนไลน์สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ของ WHO ประจำปีเมื่อ 19 พ.ค. จีนยังประท้วงสหรัฐฯ และชาติอื่นๆ ที่สนับสนุนไต้หวัน โดยชี้ว่าจะเป็นการบ่อนทำลายการรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระดับโลก.