โควิด-19 ไวรัสมรณะ ไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราชกิจจาฯประกาศแล้ว “โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14” มีผลบังคับใช้ 1 มี.ค. ด้าน สธ.เผยพบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย เท่ากับยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 14 ราย ดีเดย์ 2 มี.ค.นี้ แจกหน้ากากอนามัย 1 แสนชิ้น ที่กระทรวงสาธารณสุข “อนุทิน” ขอความร่วมมือลูกหลานเลี่ยงทำกิจกรรมทางการเมือง สกัดโรค อย่าให้ต้องใช้ ก.ม.บังคับ ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด หลังยอดผู้ติดเชื้อตายใกล้แตะ 3 พันศพ ติดเชื้อกว่า 85,000 ราย เกือบ 60 ประเทศในทุกทวีปทั่วโลก โดย “เกาหลีใต้-อิหร่าน” อ่วมหนัก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) ยังคงทวีความรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในไทยที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน
ให้ “โควิด–19” เป็นโรคติดต่ออันตราย
โดยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ก.พ. ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้โรคติดเชื้อโควิด-19 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.2563 เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการควบคุมป้องกันและกักกันผู้ต้องสงสัยหรือเข้าข่ายว่าป่วยได้ รวมถึงสามารถใช้กฎหมายเอาผิดได้หากมีการขัดคำสั่ง เช่น กรณีเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงก็ให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิด แต่ขณะนี้เราจะใช้มาตรการขอความร่วมมือมากกว่า พร้อมกันนี้ ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนคนละ 3 ชิ้น จำนวนทั้งสิ้น 1 แสนชิ้น แต่ขออย่าเวียนเทียนมารับ หรือรับไปจำหน่ายต่อ ขอให้นึกถึงประชาชนที่ต้องการใช้จริงๆ ส่วนเรื่องยารักษาโรค ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้จัดหาไว้หมดแล้ว สามารถรองรับสถานการณ์ได้ สำหรับประชาชน ขอให้ดูแลสุขภาพของตนเองเป็นสำคัญ กินร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเวลาเข้าพื้นที่ชุมชน และพกเจลล้างมือติดตัว หลีกเลี่ยงการเดินไปทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง หากมีความจำเป็นต้องระมัดระวังตัวเองให้มาก และเมื่อกลับมาถึงแล้วขอร้องให้ตรวจสอบอาการของตัวเอง หากพบมีการไอ จาม มีไข้ให้รีบพบแพทย์
...
หวั่นเกินกำลัง สธ.หากติดเชื้อมากๆ
นอกจากนี้ นายอนุทินยังกล่าวถึงการจัดชุมนุมของนิสิตนักศึกษาที่ ม.เกษตรฯด้วยว่า เป็นเรื่อง ที่ทุกคนจะต้องตระหนักถึงความอันตราย และต้องเข้าใจว่าขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะมีการแพร่ระบาดของโรค การรวมตัวกันของคนหมู่มากจะทำให้การระบาดมากขึ้น และตนได้กราบเรียนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงว่าหากจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรก็ตาม ในกฎหมายได้ให้อำนาจแต่ละฝ่ายไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขทำได้เพียงแค่แจ้งเตือนและขอความร่วมมือช่วงนี้ให้มากที่สุด อย่าถึงขั้นบังคับเลย จึงอยากขอเตือนว่าการร่วมชุมนุมกันโดยมีคนเยอะขนาดนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดของโรค และจะทำให้การควบคุมการระบาด เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะว่าถ้ามีใครติดโรค จะต้องติดตามไปตรวจผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด คนหนึ่งอาจจะต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด 30-40 คน ถ้าโดนกันเป็น 100 เป็น 1,000 คน กำลังความสามารถของกระทรวงสาธารณสุขไม่พอแน่นอน จึงอยากขอวิงวอนให้ทำกิจกรรมในรูปแบบอื่น
ยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 ราย
ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดโรคติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย เป็นผู้ป่วยเพศชาย อายุ 21 ปี อาชีพพนักงานขาย สัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ เริ่มป่วยวันที่ 24 ก.พ.2563 เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2563 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งขณะนี้รับไว้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ด้วยอาการไข้ ไอ ขณะนี้ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ทั้งครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนแล้ว จึงมีผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 14 ราย รักษาหายแล้ว 28 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 42 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่มาจากการเฝ้าระวัง 28 ราย เป็นคนจีน 16 ราย คนไทย 12 ราย และเป็นผู้ป่วยที่มาจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 14 ราย คือเป็นคนจีน 9 ราย คนไทย 5 ราย ทำให้ขณะนี้ไทยมีรายงานผู้ป่วยอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก
2 มี.ค.นี้ ประชุม สสจ.ทั่วประเทศ
นพ.สุขุมกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 2 ราย ที่สถาบันบำราศนราดูร คือผู้ป่วยที่มีอาการวัณโรคร่วมด้วย และขณะนี้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว แต่ยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และรอร่างกายฟื้นตัว ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-28 ก.พ. มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,798 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 86 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 2,712 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,529 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตาม ฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,269 ราย อย่างไร ก็ตาม ในวันที่ 2 มี.ค.นี้จะมีการประชุมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย
เตรียมนำเข้าชุดตรวจเชื้อในสัตว์เลี้ยง
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึงกรณีพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสุนัขของผู้ป่วยโควิด-19 ในฮ่องกงว่า ขณะนี้ไทยกำลังมีการนำเข้าชุดตรวจหาเชื้อไวรัสในสุนัขและแมวเข้ามา เพื่อตรวจหาเชื้อในกรณีที่จำเป็นต่อไป ส่วนกรณีที่มีความกังวลเรื่องติดโรคจากการสัมผัสธนบัตรนั้น ขออย่ากังวลและขอให้ยึดหลักใส่หน้ากากและหมั่นล้างมือบ่อยๆจะดีกว่า
สหรัฐฯเลื่อนประชุม นายกฯงดไป
สำหรับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในส่วนของหน่วยงานอื่นๆนั้น วันเดียวกัน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกำหนดการเดิม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ หรือ ASEAN-U.S. Special Summit เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 13-16 มี.ค. โดยขณะนี้นายกฯได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า สหรัฐอเมริกาแจ้งเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ในวันที่ 14 มี.ค.ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่สลับ ซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลนายกฯต้องยกเลิกการเดินทางไปสหรัฐฯ
...

ศธ.คุมเข้มบุคลากรหากไปนอก
ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้ลงนามคำสั่งประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยการให้บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษาทุกระดับชั้นชะลอการอนุมัติ หรืออนุญาตการเดินทางไปฝึกอบรม ประชุม สัมมนาศึกษาดูงาน และปฏิบัติ การวิจัยระหว่างประเทศ การไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวในประเทศที่มีความเสี่ยงแล้ว หรือกรณีที่ได้รับการอนุมัติหรืออนุญาตให้เดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงก่อนการประกาศฉบับนี้ ก็ให้งดหรือเลื่อนการเดินทางออกไป จนกว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศยกเลิกประเทศที่มีความเสี่ยง กรณีมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจหลีกเลี่ยงให้แจ้งเหตุจำเป็นต่อผู้มีอำนาจอนุมัติหรืออนุญาตเพื่อพิจารณาการเดินทางไปต่างประเทศ หรือแวะผ่านประเทศที่มีความเสี่ยง โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง พร้อมขอความร่วมมือเมื่อกลับมาจากประเทศที่มีความเสี่ยง ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่โรงพยาบาล และพักเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลา ส่วนคนในครอบครัวหรือสัมผัสผู้ต้องสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อการติดต่อโรคนี้ให้งดเข้าชั้นเรียน หรือหยุดมาปฏิบัติงาน เพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วัน โดยไม่ถือเป็นการขาดเรียน หรือขาดการปฏิบัติงาน หากพบนักเรียนในโรงเรียน ป่วย ให้แยกเด็กนักเรียนเพื่อเฝ้าระวังและดำเนินการอย่างเหมาะสม รวมถึงผู้จงใจปิดบังข้อมูลการเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยง หรือไม่ยอมเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ อาจมีความผิดและได้รับโทษตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อแห่งชาติ พ.ศ.2558
...
ตรวจไข้ นร.ก่อนเข้าสอบโอเน็ต
ขณะเดียวกันในช่วงเช้ามีการสอบโอเน็ต ม.6 ประจำปีการศึกษา 2562 ในหลายสนามสอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กทม.พบว่านักเรียนร้อยละ 80 มีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี สวมหน้ากากอนามัยมาสอบ สำหรับสนามสอบอื่นๆ ก็ได้มีการคัดกรองโดยตรวจวัดไข้นักเรียนก่อนสอบอย่างเข้มงวด กรณีพบเด็กมีไข้จะจัดห้องสอบแยกไว้ เช่น ที่ ร.ร.สุรศักดิ์มนตรี ประสานขอความร่วมมือจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดไข้นักเรียนตั้งแต่ประตูหน้าโรงเรียน และมีผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่งแจ้งว่า ลูกมีไข้ทางโรงเรียนจึงได้คัดแยกห้องสอบต่างหาก ขณะที่ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา พญาไท ประสาน รพ.จุฬาฯ ให้จัดส่งบุคลากรทางการแพทย์คัดกรองและดูแลนักเรียน กรณีเกิดเจ็บป่วยในระหว่างสอบ
กต.เตือนเดินทาง ตปท.ไม่สะดวก
ด้านนายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า คนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้ อาจไม่สะดวกในการเดินทาง จากมาตรการควบคุมโรคและมาตรการของประเทศต่างๆ จึงขอย้ำคำแนะนำให้คนไทยที่มีแผนการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลานี้ ควรพิจารณาเหตุผลความจำเป็น และข้อกำหนดเกี่ยวกับการเดินทางของประเทศปลายทาง และประเทศที่ต้องเดินทางผ่าน รวมถึงความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ก่อนตัดสินใจเดินทาง หากจำเป็นต้องเดินทาง หรือพำนักอยู่ในต่างประเทศ ขอให้ดูแลสุขภาพให้ดี และปฏิบัติตามมาตรการของประเทศเจ้าบ้านในเชิงป้องกัน หรือเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ควรมีข้อมูลช่องทางติดต่อที่อาจจำเป็นต้องใช้ กรณีต้องเปลี่ยนแปลงการเดินทาง เช่น สายการบิน โรงแรมที่พัก เมื่อเดินทางถึงประเทศปลายทาง ควรปฏิบัติตามระเบียบหรือคำแนะนำของหน่วยงานท้องถิ่นโดยเคร่งครัด
...
“จุรินทร์” จี้เร่งผลิตหน้ากากอนามัย
ที่ จ.สุโขทัย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงหน้ากากอนามัยขาดตลาดว่า คณะรัฐมนตรีหารือกันได้กำหนดแผนรองรับแก้ไขปัญหา 2 ทาง คือ 1.การประกาศเป็นสินค้าควบคุมออกมาใหม่เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ชิ้นเดียวก็ต้องขออนุญาต คือต้องขออนุญาตทั้งหมด เป็นการสกัดการนำออก เพราะในประเทศเรายังไม่พอใช้ และเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 35 ล้านชิ้นต่อเดือน กระจายอยู่ในประเทศ ซึ่งกรมการค้าภายในต้องบริหารจัดการ โดยจัดร้อยละ 30 ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแบ่งไปใช้ในโรงพยาบาลต่างๆให้เพียงพอสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลทั้งหมด ที่เหลือต้องจัดให้กับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญต้องนำมากระจายให้ทั่วถึงในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านธงฟ้า และร้านค้าย่อยทั่วประเทศ 2.รัฐบาลมีนโยบายกำหนดให้มีการผลิตหน้ากากทางเลือก ผลิตด้วยผ้าทั่วไป ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการโดยหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ผลิตหน้ากากผ้าที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองแล้วว่าสามารถใช้ป้องกันโควิด-19 ได้ ตั้งเป้าจะทำ 50 ล้านชิ้น
พิจิตรยันไม่มีคนติดเชื้อไวรัส
นพ.วิศิษฐ์ อภิสิทธิ์วิทยา ผอ.รพ.บางมูลนาก จ.พิจิตร กล่าวถึงข่าวลือคนที่เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกับปู่ย่าฮอกไกโดเข้ารักษาตัวที่ รพ.บางมูลนาก ว่า เป็นข่าวคลาดเคลื่อน ทางโรงพยาบาลทำการตรวจรักษาและดูแลผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น 6 ราย ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ คือได้กักตัวอยู่ในบ้านไม่ติดต่อสัมผัสกับผู้อื่น ทุกคนมีวินัยปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รายงานตัวกับโรงพยาบาลทุกวัน จากการตรวจเบื้องต้นไม่พบเชื้อแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่าทั้ง 6 คน เป็นชาวบางมูลนาก 1 ในนั้นเป็นเจ้าของร้านขายน้ำ เดินทางกลับจากเมืองซัปโปโร เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ไม่ได้เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกับปู่ย่าที่บินมาจากเมืองฮอกไกโดแต่อย่างใด
ทั่วโลกติดเชื้อตายเกือบ 3 พันราย
สำหรับสถานการณ์ในต่างประเทศ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 29 ก.พ. สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 3,000 ราย ติดเชื้อกว่า 85,000 ราย ในเกือบ 60 ประเทศ ในทุกทวีปทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในจีน ซึ่งจนถึง 29 ก.พ.พบผู้เสียชีวิตในจีนแล้ว 2,835 ราย ติดเชื้อ 79,251 ราย โดยจีนติดเชื้อเพิ่ม 427 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 47 ราย ส่วนใหญ่อยู่ที่มณฑลหูเป่ยโดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่น ต้นตอและศูนย์กลางการแพร่ระบาด

WHO ยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด
ขณะที่นายแพทย์เทดรอส อดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงที่กรุงเจนีวา เมื่อ 28 ก.พ.ว่า WHO ได้ยกระดับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกเป็นระดับ “ร้ายแรงมาก” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด แต่ยังมีโอกาสควบคุมได้ถ้าสามารถตัดห่วงโซ่การแพร่ระบาดได้ เขายังระบุว่าการแพร่ระบาดใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ หลังไนจีเรียในภูมิภาคซับซาฮาราในแอฟริกาพบผู้ติดเชื้อรายแรก แต่เตือนว่าความหวาดกลัวและข่าวสารที่ผิดๆ เรื่องโควิด-19 เป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดในการต่อสู้โควิด-19 แต่ WHO ยังไม่ประกาศให้เป็นการระบาดใหญ่ (แพนเดมิก) ซึ่งหมายถึงมีการติดเชื้อจากคนสู่คนโดยง่ายพร้อมกันในหลายพื้นที่ทั่วโลก

เกาหลีใต้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งอื้อ
ส่วนเกาหลีใต้ซึ่งเชื้อโควิด-19 กำลังระบาดหนักที่สุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (เคซีดีซี) เผยว่าเมื่อ 28 ก.พ.ว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุดกว่า 700 ราย รวมเป็น 3,150 ราย ส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่เมืองแทกูศูนย์กลางการแพร่ระบาด และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวมเป็น 17 ราย คาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกมากหลังรู้ผลการตรวจหาเชื้อในหมู่สมาชิกโบสถ์ชินชอนจีกว่า 210,000 ราย ขณะที่รัฐบาลขอให้ประชาชนระวังตัว ผู้ที่มีอาการไข้หรือระบบทางเดินหายใจให้กักตัวอยู่ในบ้าน แต่ยังไม่มีแผนปิดเมืองแทกู ซึ่งมีประชากร 2.5 ล้านคน ขณะเดียวกัน นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ก็เรียกร้องในที่ประชุมคณะกรรมการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) แห่งพรรคกรรมกร ให้ทุกฝ่ายเพิ่มมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ทุกวิถีทาง แม้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ โดยเตือนว่าถ้าเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 แพร่เข้าเกาหลีเหนือได้ จะมีผลกระทบที่ร้ายแรงมาก
คาดระบาดในอิตาลีตั้งแต่ ม.ค.
ที่อิตาลี ศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 รายเป็น 21 ราย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 239 รายในวันเดียว จากเดิม 650 รายเป็น 889 ราย ส่วนใหญ่อยู่ที่ภูมิภาคลอมบาร์ดีและเวเนโตทางภาคเหนือ ทางการสั่งปิดโรงเรียน งานด้านวัฒนธรรมและการแข่งกีฬาถูกยกเลิกทั้งหมด ขณะที่นายแมสซิโม กัลลี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยชีวการแพทย์แห่งอิตาลี ชี้ว่าการแพร่ระบาดในอิตาลี อาจเกิดขึ้นมาหลายสัปดาห์แล้ว บางทีอาจตั้งแต่ต้น ม.ค.ด้วยซ้ำ
แฉอิหร่านตายถึง 210 ศพ
สำนักข่าวบีบีซีภาคภาษาเปอร์เซียรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในระบบสาธารณสุขอิหร่าน ซึ่งมีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในตะวันออกกลางว่า มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอิหร่านแล้วอย่างน้อย 210 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเตหะรานและเมืองกอม ซึ่งพบการระบาดรายแรก ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสูงกว่าที่ทางการอิหร่านระบุล่าสุดว่าเพิ่มขึ้น 9 รายเป็น 43 ราย ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 205 ราย เป็น 593 ราย หลายเท่า ส่วนสมาชิกสภาเทศบาลกรุงเตหะรานคนหนึ่งเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อในอิหร่านอาจพุ่งสูงถึง 10,000-15,000 ราย ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลัง WHO ชี้ว่าจากอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก บ่งชี้ว่าอาจมีการแพร่ระบาดในอิหร่านกว้างขวางรุนแรงกว่าที่คิด อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขอิหร่านยืนยันในความโปร่งใสและกล่าวหาว่ารายงานของบีบีซีโกหก และปฏิเสธรับความช่วยเหลือจากทั้ง WHO และสหรัฐฯ
สหรัฐฯพบติดเชื้อไร้ที่มาอีก 4
ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯเผยว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 โดยไม่ทราบแหล่งที่มาของเชื้ออีก 2 รายรวมเป็น 4 รายในประเทศ โดย 2 รายล่าสุดอยู่ที่รัฐโอเรกอนและวอชิงตัน ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศหรือสัมผัสผู้ติดเชื้ออื่น ส่วนผู้ติดเชื้อโดยไม่ทราบแหล่งที่มา 2 รายแรกอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าโรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในชุมชนสหรัฐฯ หลังพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 62 ราย นอกจากนี้ นายแอนโธนี ฟาอูซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติสหรัฐฯ เผยในสภาผู้แทนฯสหรัฐฯว่า ดูเหมือนว่าโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดทั่วโลกจะยังไม่หายไปในปีหน้า และควรคาดหมายว่าจะมีการระบาดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขายังระบุว่าสหรัฐฯมีอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ไม่เพียงพอ ทำให้ในเวลาต่อมา รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับบรรดาผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) 10 ประเทศที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา ในวันที่ 14 มี.ค.นี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากหลังหารือกับอาเซียนแล้ว

ผู้ดีตายรายแรกบนเรือสำราญ
ด้านกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นแถลงว่า พบชาวอังกฤษเสียชีวิตจากโควิด-19 รายแรกบนเรือสำราญ “ไดมอนด์ พริ๊นเซส” ที่ถูกกักโรคอยู่นอกชายฝั่งเมืองโยโกฮามาตั้งแต่ 3 ก.พ. พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 3,700 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 7 ราย โดยส่วนใหญ่ 6 รายอยู่บนเรือลำนี้ซึ่งพบผู้ติดเชื้อกว่า 700 ราย ด้านนายกรัฐมนตรีบอรีส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อในประเทศแล้ว 20 รายแถลงว่า การยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือความสำคัญอันดับแรกของรัฐบาลอังกฤษ
ญี่ปุ่นยกเลิกเทศกาลซากุระ
ญี่ปุ่นยังประกาศยกเลิกเทศกาลชมดอกซากุระบานประจำปีที่กรุงโตเกียวและนครโอซากาในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 และคาดว่าเมืองอื่นๆ จะสั่งยกเลิกเช่นกัน แต่ประชาชนสามารถชมดอกซากุระบานจากริมถนนได้ ขณะที่การแข่งขันกีฬาหลายประเภทในญี่ปุ่นเมื่อ 29 ก.พ.จัดขึ้นโดยไม่มีผู้เข้าชม
รัสเซียเนรเทศคนต่างชาติ
สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของรองนายกเทศมนตรีกรุงมอสโกว่า ทางการกรุงมอสโกได้เนรเทศชาวต่างชาติ 88 คนที่ฝ่าฝืนมาตรการกักโรคเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 โดยทั้ง 88 คนนี้เป็นส่วนหนึ่งของชาวต่างชาติหลายร้อยคนที่ถูกกักโรคในรัสเซียซึ่งพบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 5 ราย ส่วนนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติรัสเซียขอถอนตัวจากการแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลกที่สหรัฐฯ ในเดือนหน้าด้วย
เม็กซิโกติดเชื้อ 3 รายแรก
สถานการณ์ในประเทศอื่นๆ เม็กซิโกพบผู้ติดเชื้อ 3 รายแรก เป็นชาย 2 คน ที่เดินทางกลับจากอิตาลี นับเป็นประเทศละตินอเมริกาประเทศที่ 2 ถัดจากบราซิลที่พบผู้ติดเชื้อ 2 รายแรก ส่วนออสเตรเลีย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อแล้ว 25 รายสั่งห้ามชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางมาจากอิหร่านเข้าประเทศ ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 รายรวมเป็น 39 ราย โรงแรมหรู 2 แห่งในอาบู ดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกสั่งปิดและกักตัวผู้เข้าพัก หลังพบนักกีฬาปั่นจักรยานอาชีพ 2 รายสงสัยติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 เลบานอนสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมดถึง 8 มี.ค. และสั่งห้ามชาวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางมาจากจีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน เข้าประเทศ เวียดนามมีแผนระงับการยกเลิกวีซ่าให้ชาวเกาหลีใต้ ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ยกเลิกการจัดงานแสดงรถยนต์นานาชาติ “เจนีวา มอเตอร์โชว์” ในสัปดาห์หน้า