บรรดาผู้นำของอดีตสาธารณรัฐที่แยกตัวจากสหภาพโซเวียตทั้ง 15 แห่ง นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเบลารุสครองอำนาจนานที่สุด ที่จริงมีอยู่ 2 คนที่อยู่ยงคงกระพันนานพอกัน อีกท่านหนึ่งคือนายอิสลาม คารีมอฟ ประธานาธิบดีคนที่ 1 ของสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ที่ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 1 กันยายน 2534 ทว่าท่านคารีมอฟถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ 2 กันยายน 2559 รวมระยะเวลาดำรงตำแหน่งนานถึง 25 ปีพอดีนายลูคาเชนโกเป็นประธานาธิบดีเบลารุสตั้งแต่ 20 กรกฎาคม 2537 จนถึงปัจจุบันก็เป็นผู้นำประเทศมานาน 26 ปี สองคนนี้ประชาชนคนในประเทศรักต่างกันครับ ท่านคารีมอฟเป็นประธานาธิบดียาวนานก็จริง แต่ประชาชนรัก เลือกตั้งกี่ครั้งคะแนนก็ท่วมท้น ไม่มีใครกล้าแข่ง ตอนที่ท่านเสียชีวิตและมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 2 ของประเทศเมื่อ พ.ศ.2559 อาจารย์นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัยได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการการเลือกตั้งอุซเบกิสถานให้เป็นผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนานาชาติ ต้องตระเวนไปตามเมืองต่างๆ และสังเกตการณ์ตามคูหาเลือกตั้งอาจารย์สอบถามประชาชนคนอุซเบกถึงผู้นำคนใหม่ที่ตนอยากได้ ส่วนใหญ่ตอบว่า ไม่มีผู้สมัครคนไหนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเท่ากับท่านคารีมอฟอีกแล้ว ตอนที่ไปคารวะหลุมฝังศพของท่านคารีมอฟ แม้จะไปแต่เช้าและมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของประเทศคอยดูแล แต่อาจารย์นิติภูมิธณัฐยังต้องไปยืนต่อรอแถว เพื่อคารวะหลุมฝังศพซึ่งคิวยาวมาก รอเป็นเวลานานทุกครั้งที่คุยกับคนเบลารุส เมื่อพูดถึงลูคาเชนโก คำตอบที่ได้ตรงกันข้ามกับที่คนอุซเบกพูดถึงท่านคารีมอฟ ดูเหมือนคนเบลารุสไม่ค่อยชอบนายลูคาเชนโก แต่ทุกคนก็แปลกใจว่าอ้า ทำไมแกถึงชนะเลือกตั้งมาถึง 5 สมัย ตั้งแต่สมัยที่ 1 พ.ศ. 2537–2544 จนถึงสมัยที่ 5 พ.ศ.2558–ปัจจุบัน คนต่างประเทศที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเบลารุสที่รู้จักนายลูคาเชนโกดีก็ไม่ค่อยชอบแกเบลารุสแปลว่ารัสเซียขาว เป็นประเทศเล็กที่มีพื้นที่เพียง 2 แสนตารางกิโลเมตร มีพรมแดนติดกับรัสเซีย อูเครน โปแลนด์ ลิทัวเนีย และลัตเวีย มีประชากรไม่ถึง 10 ล้าน ประเทศที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ความเป็นไปทุกอย่างของประเทศนี้ต้องพึ่งพารัสเซียเกือบทั้งหมด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รัสเซียกระเตงเบลารุสเพราะอาจจะเห็นแก่ความเป็นคนเผ่าพันธุ์สลาฟด้วยกันทว่าระยะหลัง เบลารุสกับรัสเซียมีเรื่องพลังงานที่ต้องเจรจากัน ทั้งก๊าซและน้ำมัน หน่วยข่าวกรองของรัสเซียอาจจะได้กลิ่นอะไรมาบางอย่างเกี่ยวกับเรื่อง “ใจ” ของนายลูคาเชนโก รัสเซียจึงบอกว่าได้เวลาที่จะต้องขายน้ำมันให้ประเทศคุณในราคาตลาด ไม่ใช่ในราคาอุดหนุนแบบเมื่อก่อน ส่วนก๊าซธรรมชาติซึ่งมีความจำเป็นสำหรับพี่น้องเบลารุสในหน้าหนาว รัสเซียสามารถขายได้เท่ากับราคาเดิมเมื่อปีที่แล้วเบลารุสไม่ค่อยมีสตางค์ ภายหลังก็ไปซื้อพลังงานแบบเงินเชื่อบางส่วนจากนอร์เวย์ เมื่อข่าวนี้เข้าหูสหรัฐฯ ทรัมป์แสดงอาการดีใจไชโยโห่หลายครั้ง เพราะนี่เป็นโอกาสที่จะรวบรวมประเทศทั้งหลายที่มีพรมแดนประชิดติดกับรัสเซียหรือใกล้รัสเซีย ที่เคยเป็นอดีตสาธารณรัฐของโซเวียต ให้เป็นกลุ่มก้อน เพื่อจะเล่นงานรัสเซียในอนาคต ซึ่งตอนนี้สหรัฐฯ (และตะวันตก) ได้จอร์เจียและอูเครนเป็นพวกแล้ว สองประเทศนี้ไม่ถูกกับรัสเซียถึงขนาดรบพุ่งกันจนผู้คนล้มหายตายจากเป็นจำนวนมากถ้าสหรัฐฯได้เบลารุสเป็นพวก รัสเซียก็จะถูกห้อมล้อมด้วยประเทศคู่อริมากขึ้น เมื่อบวกกับลิทัวเนียกับลัตเวียซึ่งเป็นสมาชิกของสาธารณรัฐบอลติกที่มีทัศนคติต่อรัสเซียไม่ค่อยดีนัก กลุ่มประเทศต่อต้านรัสเซียก็จะใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ลองนึกดูเถิดครับ กลุ่มประเทศเหล่านี้หลายแห่งที่มีพรมแดนติดกับสหภาพยุโรปและนาโต บางประเทศเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปและนาโตแล้วด้วยซ้ำทัศนคติของรัสเซียต่อเรื่องนี้เป็นยังไง พรุ่งนี้มารับใช้กันต่อครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com