ต่อแต่นี้เป็นต้นไป ผู้อ่านท่านที่เคารพจะได้ดูหนังสงครามที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สร้างโดยรัสเซียมากขึ้น เพราะรัสเซียมองว่ามหาอำนาจตะวันตกทั้งหลายพยายามจะบิดประวัติศาสตร์เพื่อให้ชาติของตนเองเป็นพระเอก อย่างพิธีรำลึก 75 ปีวันยกพลขึ้นบกที่ฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่เมืองพอร์ตสมัท ทางตอนใต้ของอังกฤษ และอีกวันหนึ่งก็ข้ามฝั่งมาจัดที่แคว้นนอร์มังดี ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส มีการเชิญผู้นำชาติดังๆมาหมด แต่ไม่เชิญผู้นำรัสเซีย
เชิญผู้นำชาติที่ชนะหรือแม้แต่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 มาร่วมงานกันครบ ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เอมมานูเอลมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ฯลฯ
แต่งานนี้ไม่มีวลาดิมีร์ ปูติน เสมือนหนึ่งว่ารัสเซียไม่ได้ร่วมและชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งที่รัสเซียเป็นประเทศที่รบพุ่งมากที่สุดในสงครามโลกครั้งนั้นส่วนสหรัฐอเมริกาเพิ่งเข้าร่วมสงครามในตอนสุดท้ายเพียงนิดๆหน่อยๆ ทรัมป์เองกลับใช้โอกาสนี้ตะโกนก้องร้องบอกโลกว่าตัวเองเป็นพระเอก แกโม้ว่าทหารผ่านศึกอเมริกันยังมีชีวิตอยู่อีก 60 นาย มิตรภาพระหว่างสหรัฐฯกับเพื่อนและพันธมิตรที่หล่อหลอมขึ้นมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีวันแตกสลายได้
คนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ก็อาจจะเออออห่อหมกและเคลิ้มไปกับคำพูดของทรัมป์ การที่ประธานาธิบดีของตัวเองไม่ได้รับเชิญไปร่วมพิธีรำลึกฯ ทำให้ชาวรัสเซียรู้สึกเสียหน้า เพราะคนรัสเซียตายไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 มากกว่า 27 ล้าน ซึ่งมากกว่าประชาชนของประเทศใดๆที่เข้าร่วมรบในครั้งนั้น ปูตินเองก็พยายามพูดปลอบใจคนรัสเซียว่า เราก็ไม่ได้เชิญทุกคนมาร่วมทุกงาน ทำไมข้าพเจ้าจึงต้องได้รับเชิญไปทุกที่ด้วย
...
จากการที่ตะวันตกพยายามเตะรัสเซียออกจากกลุ่มผู้ชนะสงคราม ผมเชื่อว่ารัสเซียคงจะทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ออกมาเป็นระลอก เพราะยุทธการการรบในพื้นที่ของสหภาพโซเวียตยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นทุกแห่ง ผมเองก็เคยดูมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะยุทธการที่สตาลินกราด ซึ่งเป็นการรบใหญ่ที่นองเลือดมากที่สุดในแนวรบด้านตะวันออก
ตอนนั้น เยอรมนีและพวกซึ่งมีโรมาเนีย อิตาลี ฮังการี และโครเอเชีย ชุมนุมสุมหัวช่วยกันรบกับสหภาพโซเวียต เพื่อจะเข้ามาคุมเมืองสตาลินกราด การรบอย่างดุเดือดเลือดพล่านเกิดขึ้นระหว่าง 21 สิงหาคม ค.ศ. 1942-2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1943 รบกันไม่ถึงปี ทหารโซเวียตและพลเรือนตายไปมากกว่า 1 แสน ทหารเยอรมันตายไปมากกว่า 8 แสน นี่แหละครับคือจุดพลิกผันของสงคราม ถ้าสหภาพโซเวียตไม่สู้เยอรมนีและพวกเหมือนกับคนชาติอื่น เยอรมนีชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปแล้วครับ แต่เป็นเพราะการสู้ไม่ถอยของคนรัสเซีย เยอรมนีก็จึงติดหล่มสงครามและเสียหายหนักจนฟื้นตัวไม่ได้
เยอรมนีบุกโซเวียตโดยไม่มีการประกาศสงครามเมื่อเช้าตรู่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1941 โดยโซเวียตไม่รู้มาก่อนเลย อยู่ดีๆทหารเยอรมัน 3 ล้านก็กรูกันเข้ามาบุกดินแดนของตัวเองถึง 3 กลุ่ม ปฏิบัติการของเยอรมนีในเช้าตรู่ 22 มิถุนายนนี่ละครับที่เราเรียกว่า ‘ปฏิบัติการบาร์บารอสซา’
ที่โซเวียตไม่คิดว่าเยอรมนีจะบุกเพราะมีกติกาสัญญานาซี-โซเวียต ค.ศ.1939 ว่าเยอรมนีและโซเวียตจะไม่รุกรานและจะ
ไม่ก่อสงครามระหว่างกันเป็นเวลา 10 ปี เยอรมนีเซ็นสัญญากับโซเวียตเพราะรู้ว่าตนจะใช้สงครามเพื่อครองโลก และสุดท้ายก็มาหักหลังโซเวียต
ทหารเยอรมันชำนาญการสงครามเพราะรบพุ่งมาตลอด แถมยังมีระเบียบวินัยสูง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พร้อมจะครองยุโรปและโลก การบุกสายฟ้าแลบแบบไม่ให้ทันตั้งตัวโดยมีพรรคพวกสนับสนุนบานเบอะเยอะแยะหลายประเทศ ทำให้เยอรมนียึดดินแดนของโซเวียตได้เป็นจำนวนมาก แถมยังจับทหารโซเวียตเป็นเชลยนับล้านคน
โซเวียตพลิกกลับมาชนะเยอรมนีได้อย่างไร
พรุ่งนี้มารับใช้กันต่อครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com