วันเสาร์ที่ไม่ค่อยสบายวันนี้ เพราะ ฝุ่นพิษ มลอากาศพิษ ยังปกคลุมทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล จากการแก้ปัญหาอย่างไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ผมขอชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “รถไฟใต้ดิน” กันนะครับ เรื่องรถไฟใต้ดินที่ผมชวนคุย ไม่ใช่รถไฟใต้ดินความเร็วต่ำที่นั่งกันจนเมื่อยก้นนะครับ แต่เป็น “รถไฟใต้ดินความเร็วสูง” ที่รัฐบาลจีนเพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ที่ กรุงปักกิ่ง นครหลวงของจีน
อ่านข่าวแล้วก็ชื่นชม รัฐบาลจีน ผู้นำจีน ผู้ว่านครกรุงปักกิ่ง ที่มี วิสัยทัศน์กว้างยาวไกล เป็นผู้นำที่เก่ง มีการวางแผนแก้ปัญหาล่วงหน้า คู่ขนานไปกับการพัฒนาเมือง บางประเทศปัญหาเกิดขึ้นตรงหน้า ยังแก้ปัญหาไม่เป็น ปล่อยให้ประชาชนรับกรรมกันไป
รถไฟใต้ดินความเร็วสูงสายใหม่ ของ กรุงปักกิ่ง สายนี้ เป็นรถไฟใต้ดินสายแอร์พอร์ตลิงก์ วิ่งเชื่อมระหว่าง สนามบินนานาชาติใหม่แห่งที่ 2 ของกรุงปักกิ่ง ชื่อ Beijing Daxing International Airport กับ สถานีรถไฟใต้ดิน Caoqiao ในใจกลางกรุงปักกิ่ง มีระยะทางประมาณ 46 กม. เป็นรถไฟใต้ดินอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้คนขับ วิ่งความเร็วสูงสุด 160 กม.ต่อชั่วโมง เป็นรถไฟใต้ดินที่วิ่งเร็วที่สุดในจีน อาจจะเร็วที่สุดในโลก เพราะปกติรถไฟใต้ดินจะวิ่งด้วยความเร็ว 80 กม.ต่อชั่วโมง
ผู้โดยสารใช้เวลาเพียง 19 นาที จาก สถานี Caoqiao ใจกลางกรุงปักกิ่งเดินทางไปยัง สนามบินนานาชาติ Daxing แห่งใหม่ ที่อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง 46 กม.
รถไฟใต้ดินความเร็วสูงสายนี้ยังเป็นรถไฟใต้ดินสายแรกของจีนที่มี “ตู้โดยสารชั้นธุรกิจ” โดยเฉพาะรถไฟแต่ละขบวนจะมีตู้โดยสาร 8 โบกี้ รับผู้โดยสารได้ขบวนละ 1,500 คน ตู้โดยสารทุกตู้จะมีพื้นที่วีลแชร์สำหรับผู้พิการด้วย ซึ่งเป็นความศิวิไลซ์ทางจิตสำนึกที่ไทยยังไม่มี ที่นั่งของผู้โดยสารทุกที่นั่งจะมีช่องเสียบ USB ให้ด้วย
...
รถไฟใต้ดินความเร็วสูงสายนี้จะเปิดให้บริการในปลายเดือนกันยายน พร้อมกับการเปิด สนามบิน Beijing Daxing International Airport สนามบินแห่งที่ 2 ของกรุงปักกิ่ง
เขียนถึง สนามบินแห่งที่ 2 ของกรุงปักกิ่ง แล้วก็ต้องเล่าต่ออีกนิด เป็นสนามบินใหม่ที่ยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ อาคารสนามบินมีพื้นที่ 700,000 ตารางเมตร ออกแบบเป็น 5 แฉกเหมือน “ปลาดาว” ที่สวยงาม จึงมีชื่อเล่นเรียกกันว่า สนามบิน “ปลาดาว” และ มีรันเวย์มากถึง 7 รันเวย์ สามารถ รองรับเที่ยวบินได้ปีละกว่า 620,000 เที่ยวบิน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 100 ล้านคนต่อปี ใช้เงินลงทุนไป 13,800 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นค่าเงินบาทตอนนี้ก็ตกประมาณ 440,000 กว่าล้านบาท
ที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ จีนใช้เวลาก่อสร้างสนามบินขนาดมหึมาอันสวยงามแห่งนี้เพียง 4 ปีเศษเท่านั้น เริ่มก่อสร้างในปี 2014 กำหนดเสร็จเดือนมิถุนายนนี้ และ กำหนดเปิดใช้เป็นทางการวันที่ 30 กันยายนนี้ ถ้าเป็นประเทศไทยสร้างสัก 10 ปีก็ไม่รู้จะเสร็จหรือไม่
ไม่ต้องไปเทียบระดับสนามบินด้วยกัน เทียบกับโครงการเล็กๆของไทย เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดง 26 กม. ที่วิ่งผ่าน สนามบินดอนเมือง ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ก่อสร้างมาแล้ว 6 ปีแล้วยังไม่เสร็จ เริ่มตั้งแต่ปี 2556 คาดว่าจะไปเสร็จกลางปี 2563 โน่น
เรื่องที่ น่าเจ็บปวด สำหรับ คนไทยเจ้าของเงินภาษี ก็คือ นอกจากก่อสร้างล่าช้ามากแล้ว ยังผลาญเงินภาษีของเราเป็นว่าเล่น ระยะทาง 26 กม. ราคาประมูล 59,888 ล้านบาท วันนี้บานปลายเป็น 93,980 ล้านบาท มีการเพิ่มงบให้ถึง 4 ครั้ง เรื่องอย่างนี้ สตง. ป.ป.ช.ยุคนาฬิกาหรู ไม่คิดจะไปตรวจสอบบ้างหรือ
ก็ประเทศเราเป็นอย่างนี้ เลยไม่น่าแปลกใจ อันดับคอร์รัปชันไทยแลนด์ยุค คสช.จะตกลงไปอยู่อันดับ 99 ของโลก แย่กว่าเดิม 3 อันดับ ได้เพียง 36 คะแนน จาก 100 คะแนน นี่ขนาดไทยแลนด์เรา มีนายกรัฐมนตรีที่ประกาศปราบคอร์รัปชันอย่างเข้มแข็ง มีรัฐธรรมนูญฉบับปราบคอร์รัปชัน แทนที่คอร์รัปชันจะลดน้อยลง กลับเพิ่มบานเบิก.
“ลม เปลี่ยนทิศ”