(ภาพ : นายจัสติน ทรูโด)

วัดวชิรธรรมาวาส แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ จัดสวดมนต์ข้ามปีตั้งแต่เวลา 21.00 น. 31 ธันวาคม 2561 ถึง 00.30 น. 1 มกราคม 2562 โดยท่านเจ้าคุณพระวิบูลย์ธรรมาภาณฯ และพระสงฆ์รวม 350 รูป จาก 8 วัด ท่านใดสนใจเป็นเจ้าภาพน้ำปานะถวายพระในคืนนี้ และเป็นเจ้าภาพหินคลุกถมทางเข้าวัด ติดต่อหลวงพ่อสมศักดิ์ 08-6102-4576 ครับ

กำหนดการเดิม วันนี้ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ต้องเดินทางไปราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อร่วมงาน Al Janadriya ในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระมหากษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อัล ซาอุด ซึ่งจะมีในวันพรุ่งนี้ ณ กรุงริยาด ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย แต่ห้วงปลายปีอย่างนี้ มีภารกิจหลายอย่างที่กำหนดไว้มานาน ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปในงานได้ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐจึงฝากขอโทษทางสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

จันทร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติกล่าวหามกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ว่าทรงอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียซึ่งวิจารณ์รัฐบาลซาอุฯ ดูเหมือนว่าในวุฒิสภาสหรัฐฯจะมีกลุ่มที่ต้องการทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุฯ เพราะนอกจากจะมีมติกล่าวหามกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานแล้ว ยังมีการสั่งยุติอำนาจของทำเนียบขาวในสงครามเยเมนอีกด้วย

ท่านที่ติดตามสงครามเยเมน ผมขอรับใช้เพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ ว่าเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุฯ และกลุ่มกบฏฮูตีซึ่งฝักใฝ่อิหร่านลงนามข้อตกลงหยุดยิงที่เมืองท่าโฮไดดาห์ ทั้งคู่ไปตกลงและลงนามร่วมกันที่กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน ข้อตกลงนี้ไม่ใช่เรื่องเด็กเล่นขายของนะครับ เพราะมีนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาตินั่งร่วมเป็นสักขีพยาน พวกเราซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่อยากเห็นการต่อสู้ระหว่างกองกำลังพันธมิตรอาหรับและกลุ่มกบฏฮูตีหยุดลง เมื่อทราบว่าลงนามข้อตกลงก็ดีใจกันยกใหญ่

...

แต่ก็ดีใจได้ไม่นานครับ เพราะหลังจากลงนามร่วมกันไม่กี่ชั่วโมงก็มีการสู้รบกันอีก พวกกบฏฮูตีตายไป 22 คน ส่วนทหารของรัฐบาลเยเมนและพันธมิตรตาย 7 คน ทำให้ข้อตกลงนี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ และหากทั้ง 2 ฝ่ายไม่ยึดข้อตกลงอย่างเคร่งครัด ผมเชื่อว่าต่อไปในอนาคต สงครามระหว่างกองกำลังพันธมิตรอาหรับและกลุ่มกบฏฮูตีจะขยายบานปลายมากกว่านี้แน่นอน

พ.ศ.2557 นายสตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาขณะนั้น ลงนามขายยานลำเลียงรถหุ้มเกราะ 928 คันให้ซาอุฯ เป็นมูลค่า 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งเป็นข้อตกลงอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแคนาดา ต่อมามีเสียงตำหนิติเตียนซาอุฯ ด้านสิทธิมนุษยชนจากนักการเมืองฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหว ทำให้นายกฯ แคนาดาคนใหม่คือ นายจัสติน ทรูโด อึกๆ อักๆ กึกๆ กักๆ จะยกเลิกการส่งยานลำเลียงรถหุ้มเกราะก็จะโดนปรับฐานละเมิดสัญญามูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์แคนาดา ครั้นจะส่งไปให้ซาอุฯ ตามสัญญาก็จะโดนโจมตี

หลายคนที่โจมตีรัฐบาลของนายทรูโดบอกว่า เมื่อส่งยานฯ ไปให้ซาอุฯ แล้ว ยานฯ พวกนี้อาจถูกนำไปใช้กับพลเรือนหรือนำไปใช้ในสงครามเยเมน เมื่อปีที่แล้วนายทรูโดจึงตัดสินใจลดจำนวนยานฯ จาก 928 คันเหลือ 724 คัน พอมาปีนี้ดูเหมือนว่าแคนาดาจะปฏิบัติตัวเป็นคอหอยลูกกระเดือกกับสหรัฐฯ อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูมากไปหน่อย แคนาดาจึงแสดงท่าทีออกมาว่า อาจยกเลิกการส่งมอบยานฯ ทุกคันให้ซาอุฯ และยอมเสียค่าปรับแทน

การแบ่งฝ่ายชัดซัดกันของมหาอำนาจเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ แคนาดาก็จับกุมนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินและบัญชีของบริษัทหัวเว่ยตามคำสั่งของสหรัฐฯ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดากับจีนสะเทือนเลื่อนลั่นมาแล้ว คราวนี้ แคนาดาก็ยอมทำตามสหรัฐฯ ผิดสัญญากับซาอุฯอีก.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com