ใครก็รู้ว่าฮิตเลอร์เกลียดยิว แต่ผู้นำประเทศมหาอำนาจในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังมีอีกหลายคนที่เกลียดยิว เพียงแต่ว่าเป็นผู้นำของประเทศผู้ชนะสงครามจึงไม่ถูกนำมายำใหญ่ตามสื่อมวลชน คนที่เกลียดยิวไม่แพ้ฮิตเลอร์คือ อิออซิฟ วิสซาริโอโนวิช ดจูกัชวีลี ผู้นำสหภาพโซเวียต เขียนชื่อนี้หลายท่านไม่รู้จัก นี่คือชื่อจริงของโจเซฟ วิสซาริโอโนวิชสตาลิน เป็นความเชื่อของพวกโซเวียตที่ชอบเปลี่ยนชื่อและนามสกุลจนกว่าจะได้ชื่อนามสกุลที่ชอบ ซึ่งตอนหลังก็ระบาดไปสู่ผู้นำประเทศในซีกโลกคอมมิวนิสต์ทั่วไป แม้แต่ท่านโฮจิมินห์ผู้นำของเวียดนามก็เช่นเดียวกันเรื่องสตาลินน่าศึกษาครับ แม้ว่าท่านจะเป็นผู้นำในอดีตและเสียชีวิตไปแล้ว แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นภาพซ้อนของผู้นำอีกหลายคนทั่วโลก สตาลินไม่ใช่คนรัสเซีย แต่เป็นคนจอร์เจีย เกิดในหมู่บ้านเมืองกอรี บนเทือกเขาสูงคอเคซัส ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เคยพาผมและพี่ชายไปเยือนบ้านเกิดสตาลินเมื่อ พ.ศ. 2548 พร้อมทั้งเชิญนักประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์ให้เราฟังด้วย ทำให้ทราบว่าประถมวัยของสตาลินมีผลต่อความเป็นไปของชาวโซเวียตและของโลกพ่อของสตาลินเป็นช่างรองเท้าที่มีบรรพบุรุษเป็นทาสติดที่ดิน ขี้เหล้า ชอบตีเมียและลูกเพื่อระบายอารมณ์ แม่สตาลินแท้งลูกชายก่อนคลอดถึง 2 คน แม่จึงรักและทะนุถนอมสตาลินลูกชายคนที่ 3 มาก พอพ่อเมาก็ตีแม่และสตาลินจนแม่ต้องอุ้มสตาลินไปซ่อนไว้ตามบ้านญาติ จากนั้นก็กลับมาสู้กับสามี บางครั้งแม่ต้องใช้มีดป้องกันตัวจากพ่อจนกลายเป็นชีวิตประจำวันของครอบครัวนี้คือ เมา ตบตี พาลูกไปซ่อน แม่กลับมาสู้กับพ่อ พอพ่อสร่างเมา แม่ก็เอาลูกกลับมานอน ประกอบกับชีวิตในเมืองกอรีอัตคัตขัดสน ผู้คนยากจนข้นแค้น มีแต่เรื่องลักวิ่งชิงปล้นตามท้องถนน และมีอาชญากรรมรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เรื่องต่างๆ อย่างนี้นี่ล่ะครับ ที่สั่งสมทำให้สตาลินกลายเป็นคนรุนแรงก้าวร้าว และหยาบคายชาวยิวในเมืองกอรีขยันกว่าพวกจอร์เจีย ช่างตัดรองเท้าชาวยิวก็ทำงานได้ดีกว่า เนี้ยบกว่า สุดท้ายก็แย่งลูกค้าจากพ่อของสตาลินไปจนหมด เมื่อความอดอยากมาเยือน พ่อก็ต้องไปยืมเงินคนยิวมาใช้จ่าย คนยิวก็เรียกดอกเบี้ยสูงมาก พอผิดนัดชำระดอกเบี้ย คนยิวก็จะเข้ามายึดข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ภาพถูกยึดสิ่งของ เป็นภาพที่สตาลินเห็นในวัยเด็กกระทั่งวัยรุ่น สตาลินจึงเกลียดยิวมาก เกลียดเท่าหรืออาจจะมากกว่าฮิตเลอร์ด้วยซ้ำตอนสตาลินอายุ 6 ขวบ พ่อเมาเหล้าแล้วไปทะเลาะกับตำรวจ ตำรวจจึงบังคับให้พ่อออกไปจากเมืองแทนการติดคุก แม่จึงต้องทำงานคนเดียว ทำงานหนักเท่าใดเงินก็ไม่พอยาไส้ สุดท้ายก็ต้องขายบ้านและเร่ร่อนย้ายไปอยู่ตามบ้านเช่าแม่จึงต้องพาลูกชายสุดที่รักไปอยู่วัดให้เรียนที่สามเณราลัยแห่งกอรี เพื่อให้มีกินและให้ได้โตขึ้นเป็นนักบวชสตาลินเรียนหนังสือเก่ง สอบได้ที่ 1 ตลอด จึงได้รับทุนเข้าเรียนต่อที่สามเณราลัยแห่งเมืองทิฟลิส ที่นี่สตาลินเริ่มเขียนบทความไปลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น โดยใช้นามปากกาว่าโคบาสตาลินคงไม่รู้ตัวครับว่าทำไมจึงใช้นามปากกาว่าโคบาซึ่งเป็นชื่อโจรจอร์เจียที่ปล้นคนรวยเอาเงินมาช่วยคนจน ในสมองของสตาลินมีแต่เรื่องจะช่วยคนจน เรื่องที่จะทำให้คนเท่ากัน ตอนนั้น แนวความคิดลัทธิมากซ์กำลังเริ่มระบาดแล้ว และมีบทความของวลาดิมีร์ เลนิน ผู้นำกลุ่มลัทธิมากซ์แพร่ขยายกระจายอยู่ทั่วไปพรุ่งนี้มาต่อครับ.คอลัมน์ที่เกี่ยวข้องสิ่งที่อยู่ใต้สมองของสตาลิน (2)นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com