สิ่งมีชีวิตในโลกนี้ไม่ได้มีแต่เลือดที่เป็นสีแดงเท่านั้น ยังมีสัตว์มากมายที่มีสีเลือดต่างกันไป เช่น กลุ่มสัตว์ที่อาศัยอยู่บนเกาะนิวกินี โดยเฉพาะกิ้งก่าเลือดสีเขียวสายพันธุ์ Prasinohaema prehensicauda ที่นักชีววิทยาวิวัฒนาการจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยหลุยเซียนา ในสหรัฐอเมริกา ให้ความสนใจและพยายามอย่างมากที่จะค้นหาประโยชน์ของเลือดสีเขียวของกิ้งก่าจากการศึกษาสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) และวิเคราะห์โครงสร้างทางพันธุกรรมของกิ้งก่า Prasinohaema prehensicauda ชี้ให้เห็นว่ามันมีวิวัฒนาการที่แตกต่างกันถึง 4 ครั้งของสายพันธุ์จิ้งเหลน แต่สิ่งสำคัญคือพบว่ากิ้งก่าเลือดสีเขียวไม่ได้เป็นเครือญาติใกล้ชิดกับสายพันธุ์อื่นๆ และมันอาจมีวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษที่มีเลือดสีแดง เนื่องจากพบว่าในเลือดของกิ้งก่ามีความเข้มข้นสูงของสารบิลิเวอร์ดิน (biliverdin) ซึ่งเป็นรงควัตถุหรือสารเม็ดสีในน้ำดีที่เป็นสีเขียว ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเลือด กล้ามเนื้อ กระดูก และเมือกบางๆปกติแล้วระดับบิลิเวอร์ดินที่สูงจะทำให้เกิดโรคดีซ่านในสัตว์ส่วนใหญ่ แต่กิ้งก่าเลือดสีเขียวเหล่านี้เจริญเติบโตได้แม้จะมีระดับบิลิเวอร์ดินเข้มข้น นักชีววิทยาวิวัฒนาการเผยว่าการค้นพบนี้อาจนำไปสู่หนทางรักษาโรคดีซ่านก็เป็นได้ ซึ่งในปัจจุบันมีสมมติฐานถึงความเป็นไปได้ที่สารสีเขียวเป็นพิษนี้จะเป็นพัฒนาการทางสรีรวิทยาของสัตว์ เพื่อลดหรือป้องกันการติดเชื้อปรสิตในเลือด เช่น โรคมาลาเรีย นั่นเอง.