17-19 พ.ค. 61 สนง.นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม + หน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่น จันทบุรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม + สำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชน มรภ.รำไพพรรณี จัดประชุมประจำปีภาคีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมกลุ่มจังหวัด พ.ศ.2561 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด “ไทยแลนด์ 4.0 กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ” 10.45-12.15 น. 18 พ.ค.61 ที่โรงแรมรัตนปุระ บีช รีสอร์ท อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

หลายคนสงสัยว่าการทำงานของ ดร.มหาธีร์ ในวัย 92 ปีจะราบรื่นหรือไม่ เพราะจากประสบการณ์ในอดีต ดร.มหาธีร์มีปัญหากับคนที่ตัวเองปั้นทุกคน ไม่ว่าจะกับอันวาร์ อิบราฮิม ที่ปั้นมาจนได้เป็นรองนายกฯ และ รมว.คลัง มีปัญหากันรุนแรงขนาดจับอันวาร์เข้าคุกเข้าตะราง จากนั้น ก็ปั้นอับดุลลาห์ บาดาวี เป็นนายกฯ คนที่ 5 ได้เพียงพักเดียว ดร.มหาธีร์ก็ออกมาโจมตีอับดุลลาห์ว่าขายอธิปไตยมาเลเซียให้กับสิงคโปร์

พ.ศ.2549 ดร.มหาธีร์โจมตีอับดุลลาห์เรื่องลิดรอนเสรีภาพสื่อ กล่าวหาอับดุลลาห์ว่าทรยศต่อความเชื่อมั่นของตัวเอง ดร.มหาธีร์บ่นว่าอุตส่าห์เลือกอับดุลลาห์เป็นนายกฯ ต่อจากตน ทว่าเลือกผิด ตอนแรกจะเลือกนาจิบ ราซัค แต่กลับมาเลือกอับดุลลาห์แล้วก็ผิดหวัง

ตอนนั้น อับดุลลาห์กำลังเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ พอได้ฟังสิ่งที่ ดร.มหาธีร์พูด ก็ประกาศข้ามประเทศว่าตัวเองหนุนอับดุลลาห์

หลายคนมองว่า ดร.มหาธีร์เป็นคนแก่ที่เอาแต่ใจและคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง พอนาจิบออกมาประกาศหนุนอับดุลลาห์ ดร.มหาธีร์ก็เปลี่ยนเรื่องโจมตีอับดุลลาห์ว่ามีพฤติกรรมชอบโกหก ทุกครั้งที่ ดร.มหาธีร์โจมตีอดีตลูกน้องของตนเอง ก็จะใช้คำว่าประชาชนคิดอย่างนั้น คิดอย่างนี้ เหมือนกับเชื่อมั่นว่าท่านโจมตีรัฐบาลในนามของประชาชน

...

พ.ศ.2552 อับดุลลาห์ไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานพรรคอัมโน และมอบอำนาจให้รองนายกฯนาจิบ ตอนนาจิบเป็นนายกฯ ใหม่ๆ ดร.มหาธีร์ก็เออออห่อหมกด้วยทุกเรื่อง แต่ตอนหลังก็วิจารณ์การบริหารงานของนาจิบจนเกิดการแตกหัก นาจิบและนักการเมืองคนอื่นของอัมโนและของกลุ่มพรรคแนวร่วมแห่งชาติมองว่า ดร.มหาธีร์เป็นคนแก่ที่ไม่มีทางกลับฟื้นคืนชีพมามีอำนาจได้อีก ก็พูดจาดูหมิ่นถิ่นแคลนเหน็บแนม ดร.มหาธีร์หลายเรื่อง นาจิบถึงขนาดท้าทายว่า ให้ ดร.มหาธีร์ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาแข่งกันดีกว่า ดร.มหาธีร์จึงตั้งพรรคภูมิบุตรสามัคคีแห่งมาเลเซียเมื่อ 8 กันยายน พ.ศ.2559 ท่ามกลางเสียงเยาะเย้ยหยามหยันจากผู้คนหลายฝ่าย

เมื่อเสียงของ ดร.มหาธีร์ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็มีใบสั่งจากรัฐบาล ไปยังสำนักงานจดทะเบียนองค์กร หรือ Registry of Society ให้ยุบพรรคภูมิบุตรฯ ของ ดร.มหาธีร์เป็นการชั่วคราวเมื่อ 5 เมษายน 2561 ยุบพรรคชั่วคราวก่อนการเลือกตั้งเพียงไม่กี่วัน ทำให้ต้องไปอยู่ในพรรคแนวร่วมแห่งความหวัง เรื่องนี้ทำให้ประชาชนคนมาเลเซียมองนาจิบในแง่ลบมาก หลายคนจึงอยากจะสั่งสอนนาจิบที่ใช้อำนาจรังแกคนอื่น ซึ่งเป็นคนที่เคยมีบุญคุณกับตนเองเสียด้วยซ้ำ

ปกติคนมาเลเซียเชื้อสายจีนหนุนฝ่ายค้านผ่านพรรคกิจประชาธิปไตย ส่วนชาวมลายูส่วนใหญ่จะหนุนพรรคอัมโน แต่การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2561 ชาวมลายูในเมืองและชาวมลายูกึ่งเมืองหันมาหนุนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังคงมีชาวมลายูชนบทเท่านั้นที่เลือกพรรคแนวร่วมแห่งชาติและพรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มาเลเซียที่ประชาชนคนส่วนใหญ่เลือกฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นกลุ่มพรรคแนวร่วมแห่งความหวัง ชัยชนะของกลุ่มพรรคแนวร่วมแห่งความหวังครั้งนี้มาจากความเชื่อมั่นของประชาชนคนมาเลเซียที่มีต่อ ดร.มหาธีร์ เดิมพวกฝ่ายค้านพยายามเฟ้นหาคนที่มีบารมีที่จะต่อสู้กับพรรครัฐบาล ทว่าหาได้ยากเต็มที การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งที่ 13 ยกอันวาร์มาสู้ ก็ยังแพ้

ผู้อ่านท่านที่เคารพ เปิดฟ้าส่องโลกจะติดตามการเมืองมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีพรมแดนประชิดติดกับเรามารับใช้เป็นระยะ สำหรับวันนี้ ต้องขอลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย