พ.ศ.2544 มีเหตุการณ์เครื่องบิน 2 ลำ ชนตึกอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่นิวยอร์กสหรัฐฯ ตามด้วยเหตุการณ์ไล่ล่าอุซามะ บินลาเดน ที่อัฟกานิสถาน ปีถัดมา คือ พ.ศ.2544 สหรัฐฯก็มาตั้งคุกลับในเมืองไทย เพื่อใช้เป็นที่คุมขังผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการก่อการร้าย
คุกลับของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯในไทย บริหาร โดยหัวหน้าสายลับผู้หญิงชื่อ นางจีนา แฮสเปล เมื่อจับผู้ต้องสงสัยได้ นางแฮสเปลก็จะให้เจ้าหน้าที่เอาน้ำราดลงไปที่ตัวและหัวเพื่อให้เหยื่อหายใจไม่ออก ด้วยความรักตัวกลัวตาย ผู้ต้องสงสัยก็มักจะสารภาพ ผู้ต้องสงสัยทำผิดจริงหรือไม่ นางต้องการเพียงให้ได้ผลงานว่า “ฉันจับผู้ก่อการร้ายได้มาก” นางจึงทรมานเพื่อให้เหยื่อสารภาพกันทุกคน เมื่อสารภาพแล้ว เหยื่อก็เปลี่ยนจากสถานะผู้ต้องสงสัย กลายเป็นนักโทษ
คนที่โดนจับและถูกนำตัวไปใส่คุกลับจะไม่ได้ออกมาสู่โลกภายนอกอีก เพราะซีไอเอไม่อยากให้คนที่เคยโดนทรมานเอาวิธีการปฏิบัติงานของพวกตนไปพูดเผยแพร่ข้างนอก มีเพียงสิ่งเดียวที่พอเป็นหลักฐานของการทรมานเหยื่อก็คือ วีดิโอที่ถูกถ่ายไว้ในระหว่างปฏิบัติงานซีไอเอที่ถูกส่งไปสำนักงานใหญ่ของซีไอเอที่สหรัฐฯ
การทรมานเหยื่อในคุกลับของซีไอเอในเมืองไทยทำทั้งหมด 83 ครั้ง คนที่โดนมรมานที่ผู้อ่านท่านอาจจะชินชื่อเสียงเรียงนามกันก็มี อาบู ซาบูยาดห์ อาบัด อัล ราฮิม อัล นาสฮิริ ฯลฯ
การทำลายล้างผู้คนในซีกโลกอิสลามของสหรัฐฯมักจะกระทำกันแรงในยุคที่ประธานาธิบดีมาจากพรรครีพับลิกัน พอถึงยุคที่พรรคเด็มโมแครตครองอำนาจ ก็จะมีการรื้อฟื้นเพื่อสอบสวนสิ่งที่ได้ทำไปในยุคที่รีพับลิกันบริหารประเทศ เทปวีดิโอจากคุกลับในประเทศไทย โดนเปิดเผยในยุคที่โอบามาได้เป็นประธานาธิบดี และมีการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิด แต่ด้วยฤทธิ์และบารมีของนางแฮสเปล ทำให้มีการทำลายหลักฐานต่างๆอย่างเร่งด่วน รวมทั้งม้วนวีดิโอเหล่านั้นด้วย
...
การสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯจึงไม่สามารถเอาตัวนางแฮสเปลมาดำเนินคดีและลงโทษได้ หลังจากนั้นนางแฮสเปลก็เติบโตในหน้าที่การงานจนถึง พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นยุคที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี เธอก็ได้ขึ้นมาจนถึงตำแหน่ง “รองผู้อำนวยการซีไอเอ”
13 มีนาคม 2561 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เขียนทวิตเตอร์ปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศ และประกาศว่า จะตั้งนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการซีไอเอเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายทิลเลอร์สัน
ทวิตเตอร์ของทรัมป์ทำให้ตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอว่าง ทรัมป์จึงเสนอชื่อของนางแฮสเปลขึ้นเป็น ผอ.ซีไอเอแทน คนที่จะเป็นผู้อำนวยการซีไอเอต้องไปให้การต่อคณะกรรมาธิการการข่าวกรองของวุฒิสภา และวุฒิสภาต้องให้การรับรองการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการซีไอเอ
ตอนนี้มีการต้านนางแฮสเปลกันเยอะ โดยเฉพาะคนที่เคยเป็นเชลยศึกมาก่อน อย่างนายจอห์น แมคเคน สมาชิกวุฒิสภาของพรรครีพับลิกันที่เคยถูกจับกุมคุมขังในคุกในสงครามเวียดนาม
ผมเชื่อว่า ถ้านางแฮสเปลเป็น ผอ.ซีไอเอ ทรัมป์ก็จะให้มีรื้อฟื้นเรื่องการสร้างคุกลับในต่างประเทศและจะให้มีการนำวิธีการทรมานผู้ต้องสงสัยกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งทรัปม์และนางแฮสเปลจะทำให้สถานการณ์โลกร้อนแรงและจะมีความขัดแย้งกันมากขึ้น
การอนุญาตให้สหรัฐฯมาตั้งคุกลับในราชอาณาจักรนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยไชโยเป็นอย่างมาก ชาวโลกมองว่าเราเป็นคอหอยลูกกระเดือกกับสหรัฐฯในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย สักวันหนึ่งในอนาคต เราอาจกลายเป็นประเทศกระสุนตกจากผู้ก่อการร้ายก็ได้.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com