สาวแคชเชียร์ปั๊มแก๊สสังเวยคมมีดคืนสงกรานต์ ถูกหนุ่มกะเหรี่ยงพนักงานเติมแก๊สเรียกไปคุยปรับความเข้าใจในห้องทำงาน หลังโดนเจ้าของปั๊มตำหนิอู้งานบ่อย คิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนไปฟ้อง โต้เถียงปะทะคารมดุเดือด โมโหชักมีด จ้วงแทงสาวตายสยอง ชิงกระเป๋าใส่เงินสดกว่า 1.1 หมื่นบาทเผ่นหนี ตำรวจระดมทีมพลิกแผ่นดินล่า คาดซ่อนตัวกับพรรคพวกตามไซต์งานก่อสร้าง
หนุ่มกะเหรี่ยงพนักงานปั๊มแก๊ส จ้วงแทงเสมียนสาวดับชิงเงินไปเที่ยวสงกรานต์ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 เม.ย. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดา ควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ผกก.สภ.ดอนหัวฬ่อ และชุดสืบสวน สภ.ดอนหัวฬ่อ ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีฆ่ากันตาย กรณี
เมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 13 เม.ย. ร.ต.อ.รัชพล รัชวการ รอง สว. (สอบสวน) สภ.ดอนหัวฬ่อ รับแจ้งมีหญิงถูกแทง ภายในปั๊มบริการแก๊สรถยนต์ ริมถนนศุขประยูร หมู่ 1 ขาเข้าเมืองชลบุรี ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี ไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สภ.ดอนหัวฬ่อ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภาค 2 แพทย์เวร รพ.ชลบุรี และกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ พบร่าง น.ส.กรกนก วิเศษชาติ อายุ 44 ปี นอนหายใจรวยรินเลือดทะลักอยู่ในห้องพัก ด้านหลังปั๊มดังกล่าว สภาพถูกของมีคมแทงลำคอ 2 แผล หน้าอก 5 แผล กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือ แต่ น.ส.กรกนกอาการสาหัสมากและเสียชีวิตในเวลา ต่อมา ในที่เกิดเหตุพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 5 นิ้วหักครึ่ง อีกส่วนยังปักคาที่หน้าอกผู้เสียชีวิต นำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ชลบุรี
ต่อมาลูกสาวเจ้าของปั๊มแก๊สเดินทางมาที่เกิดเหตุและให้ข้อมูลกับตำรวจว่า น.ส.กรกนก ผู้ตาย เป็นแคชเชียร์ หรือพนักงานเก็บเงินของปั๊ม ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายศรุต เวียงธีรพันธ์ อายุ 25 ปี ชาวกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา เข้ามาทำงานเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นพนักงานเติมแก๊ส เหตุจูงใจคาดว่าขณะที่ ผู้ตายจะเอาเงินมาเก็บเข้าตู้เซฟ ผู้ก่อเหตุพบเห็นได้เดินตามเข้าไปใช้ของมีคมแทงเข้าหน้าอกจนเสียชีวิตและชิงกระเป๋าใส่เงินสดที่จะนำมาเก็บเข้าตู้เซฟหลบหนีไป แต่ยังไม่ทราบยอดเงินที่คนร้ายได้ไป ว่ามีจำนวนเท่าใดกันแน่ คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะหาเงินกลับบ้านช่วงสงกรานต์
...
พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ. จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและประมวลคำให้การของพยานค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้ก่อเหตุคือนายศรุต เวียงธีรพันธ์ ส่วนเหตุจูงใจ คาดว่า ผู้ก่อเหตุเพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน แต่โดนนายจ้าง ตำหนิบ่อยครั้งว่าชอบอู้งาน ผู้ก่อเหตุคงจะคิดว่าผู้ตาย เป็นคนนำเรื่องไปฟ้องนายจ้าง ทำให้มีความแค้นใจ ก่อนเกิดเหตุได้เรียกผู้ตายมาเคลียร์กันในห้องทำงาน แล้วเกิดการโต้เถียงปะทะคารมกัน ผู้ก่อเหตุโมโห ใช้มีดแทงผู้ตายแล้วหลบหนีไป พร้อมกระเป๋าใส่เงินสด มีเงินประมาณ 1.1 หมื่นบาท ต้องรอจับกุมให้ได้ก่อนจะได้รู้แน่ชัดว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ตำรวจเร่งลงพื้นที่ติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว คาดผู้ก่อเหตุยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่ เพราะมีพรรคพวกเป็นกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ทำงานตามไซต์งาน ก่อสร้างอาจให้ที่พักพิง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่