ออกหมายจับแล้ว 4 ล็อกตัวได้ 2 คน ทีมช่วยเหลือ “แป้ง นาโหนด” นักโทษตัวแสบแหกตรวนหลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช สาวรับจ้างเฝ้าคนไข้หนึ่งในผู้ต้องหาเปิดปากสารภาพได้รับว่าจ้างมาเฝ้านักโทษ อีกฝ่ายสัญญาจะให้เงิน 2 แสนกับบ้านอีกหลังเลยร่วมมือช่วยเหลือ แต่สุดท้ายได้เงินแค่ 2 พัน แฉมีลูกน้องแอบเอาคีมไปให้พยายามตัดกุญแจโซ่ตั้งแต่วันแรกแต่ไม่สำเร็จ ออกอุบายให้ผู้คุมคลายล็อกข้อเท้าจนปลดพันธนาการได้แล้วพากันหลบหนี ชุดสืบสวนพบข้อมูลใช้รถ 3 คัน เป็นกระบะ 2 คัน กับเก๋ง 1 คัน เผ่นหนีไป จ.กระบี่ จะให้ลูกพี่พาไปพม่าแต่ถูกปฏิเสธเลยย้อนกลับถิ่น จ.พัทลุง ก่อนหนีต่อไปกบดานที่ จ.สตูล ตำรวจปูพรมลุยค้น 4 จุดเป้าหมายได้ตัวผู้ว่าจ้างคนเฝ้าไข้แต่ยังปฏิเสธ เรือนจำตั้งค่าหัว 1 แสน ให้ผู้แจ้งเบาะแส นายกฯกำชับ ผบ.ตร.-รมว.ยุติธรรม เร่งจัดการ จากเหตุการณ์นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี ฉายา “แป้ง นาโหนด” นักโทษอุกฉกรรจ์ต้องคดีร้ายแรงหลายคดี หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ขณะรักษาอาการป่วยอยู่ที่ตึกอายุรกรรม รพ.มหาราชนคร ศรีธรรมราช ปลดโซ่ตรวนที่พันธนาการกับเตียงคนไข้หลบหนีออกไปเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 22 ต.ค. เบื้องต้นคาดว่านายเชาวลิตวางแผนล่วงหน้ามานาน แกล้งทำเป็นป่วยก่อนจะมีพรรคพวกมาช่วยเหลือพาหนี มีเป้าหมายออกไปฆ่าล้างแค้นบุคคล 2 รายที่มีส่วนทำให้ตัวเองต้องติดคุกความคืบหน้าการตามล่าตัวนักโทษตัวแสบ ที่ บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ช่วงเช้าวันที่ 23 ต.ค. พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องวางแนวทางการสืบสวน แบ่งกำลัง 5 ชุด ในการติดตามล่าตัวนายเชาวลิต หนึ่งในชุดปฏิบัติการนำโดย พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ณ อุบล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตรวจสอบภาพวงจรปิดใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช พบรถต้องสงสัยเป็นกระบะมิตซูบิชิไทรทัน 4 ประตู สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน กจ 9049 ไม่ทราบหมวดจังหวัด คาดว่าเป็นทะเบียนปลอม ขับเข้ามาจอดข้างตึกอายุรกรรม ก่อนจะขับออกไปในช่วงเวลาเดียวกับที่นักโทษหลบหนี ไล่ตรวจสอบตามเส้นทางในช่วงเช้ามืดพบว่ารถคันดังกล่าวขับมุ่งหน้าไปตามถนนเอเชียสาย 41 เป็นเส้นทางที่สามารถออกไปสู่ จ.พัทลุง จ.ตรัง และ จ.กระบี่ ได้มีรายงานว่า ชุดสืบสวนทราบข้อมูลรถยนต์ที่พานายเชาวลิตหลบหนีมี 3 คัน ประกอบด้วยรถกระบะมิตซูบิชิไทรทัน 4 ประตูสีขาว รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ และรถกระบะอีซูซุ สีขาว ส่วนคนที่ช่วยเหลือพานายเชาวลิตหลบหนีตอนนี้รู้ตัวแล้ว 2 คนคือ นายจักรี หรือบิ๊ก แป้นน้อย อายุ 41 ปี นั่งรออยู่ในรถ และนายจีระวุฒิ หรือปอย ชุมศรี อายุ 31 ปี ที่ปรากฏตัวในภาพวงจรปิดเดินนำหน้านายเชาวลิตออกมาจากลิฟต์ หลังจากเดินออกมาจากตึกอายุรกรรมแล้วนายเชาวลิตไปขึ้นรถกระบะมิตซูบิชิ 4 ประตูขับมุ่งหน้าเข้า จ.ตรัง และไป จ.กระบี่ เพื่อไปหาลูกพี่ที่เป็นผู้มีอิทธิพลให้ช่วยพาหนีไปประเทศเมียนมา แต่ถูกปฏิเสธ ต้องย้อนกลับพื้นที่บ้านเกิด จ.พัทลุง ก่อนจะหลบหนีต่อไปกบดานที่ จ.สตูล ตำรวจพยายามกดดันครอบครัวให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้มามอบตัว มีรายงานด้วยว่า ก่อนที่ผู้คุมจะพานายเชาวลิตไปพบแพทย์ที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช มีอดีตนักการเมืองใน จ.พัทลุง และตำรวจนายหนึ่งไปเยี่ยมนายเชาวลิตที่เรือนจำด้วย ขณะเดียวกันชุดสืบสวนนำตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม หมื่นรักษ์ อายุ 32 ปี ชาว อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องสงสัยมีส่วนร่วมก่อเหตุมาสอบปากคำ เจ้าตัวให้การว่า มีอาชีพรับจ้างเฝ้าดูแลคนไข้ที่มารักษาตัวใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช คิดค่าจ้างวันละ 400 บาท เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ได้รับการติดต่อจากญาตินายเชาวลิตว่าจ้างให้มาเฝ้าคนไข้ เมื่อมาถึงทราบเพียงว่าเป็นผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว แต่ไม่รู้ว่าเป็นนักโทษมีคดีร้ายแรง เข้าใจว่าเป็นผู้ต้องหาคดีธรรมดา ยอมรับไปซื้อโทรศัพท์มือถือมาให้นายเชาวลิต 2 เครื่อง และรู้ว่านายเชาวลิตเตรียมตัวจะหลบหนีในวันที่ 20 ต.ค. แต่ไม่สบโอกาสเพราะตรวนรัดข้อเท้าที่โยงกับโซ่และผูกกับเตียงรัดแน่นเกินไป ผู้ต้องหาออกอุบายบอกเจ้าหน้าที่ว่าเจ็บข้อเท้า ขอเปลี่ยนขนาดให้ใหญ่กว่าเดิม เจ้าหน้าที่มาเปลี่ยนให้และวันถัดไปก็สบโอกาสหลบหนีน.ส.วิลาวัลย์ยังให้การถึงขั้นตอนการเข้าถึงตัวนายเชาวลิตของลูกน้อง มีการนำปืนไปให้ พร้อมทั้งกุญแจผีสำหรับไขโซ่ข้อเท้า รวมถึงการประสานงานการจ่ายเงินค่าแรงเฝ้าไข้ มีผู้เกี่ยวข้องอีก 3 คนคือนายจีระวุฒิ หรือปอย นายจักรี หรือบิ๊ก และนางยุวเรศ หรือหมวย กลศึก อายุ 26 ปี แบ่งหน้าที่กันทำ ยอมรับว่านายเชาวลิตนำโทรศัพท์มือถือของตนไปใช้และประสานงานให้มีการหลบหนี สัญญาว่าหากสำเร็จจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 แสนบาท และให้บ้านที่ จ.ภูเก็ต อีก 1 หลัง แต่ความจริงแล้วตอนนี้ได้เงินเพียง 2,000 บาทที่นางหมวยโอนให้เท่านั้นนอกจากนี้ น.ส.วิลาวัลย์ ยังให้ข้อมูลสำคัญกับเจ้าหน้าที่ว่า นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ใช้คีมตัดเหล็กพยายามตัดกุญแจโซ่ตรวน แอบทำใต้ผ้าห่มคืนวันที่ 20 ต.ค. แต่ไม่สำเร็จ วันรุ่งขึ้นได้แจ้งผู้คุมขอเปลี่ยนโซ่ข้อเท้าและผู้คุมนำมาเปลี่ยนให้ พันธนาการแบบหลวมมาก จนกระทั่งตอนดึกคืนวันที่ 21 ต.ค. นายปอยที่แฝงตัวปะปนกับญาติคนอื่นๆมาเฝ้านายเชาวลิตอยู่ด้วย ได้ลงไปรับกุญแจจากนายบิ๊กที่ด้านล่างนำมาส่งให้ จากนั้นนายเชาวลิตใช้ผ้าห่มคลุมทับไขกุญแจปลดโซ่ตรวนได้สำเร็จ แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินลงลิฟต์ไปด้านล่างด้วยกัน ส่วนตนด้วยความตกใจยังอยู่ด้านบนจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องหลังสอบปากคำ พล.ต.ต.สมชายกล่าวว่า น.ส.วิลาวัลย์ มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือพานักโทษหลบหนี ควบคุมตัวไว้ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติศาลออกหมายจับร่วมกับผู้ช่วยเหลือคนอื่นๆอีก 3 คน ขอความร่วมมือประชาชนหากทราบเบาะแสการหลบหนีของนักโทษอุกฉกรรจ์รายนี้ให้แจ้ง 191 ได้ตลอด 24 ชม. เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชมีรางวัลนำจับให้ 100,000 บาทที่ บก.ภ.จ.พัทลุง เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช นำทีมสืบสวนทั้ง 2 จังหวัดประชุมร่วมกับตำรวจกองปราบปราม พล.ต.ต.ตานิตย์กล่าวว่า ได้ประชุมบูรณาการร่วมกันของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าคดีนี้มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง หลบหนีอย่างไร ใช้ยานพาหนะกี่คัน วันนี้มีเป้าหมายตรวจค้น 4 เป้าหมาย ส่วนพยานที่เกี่ยวข้องในคดีของนายเชาวลิต ตำรวจให้การดูแลและคุ้มกันเป็นอย่างดีมาต่อเนื่อง นายเชาวลิตมีคดีใน จ.พัทลุง 3 คดี ประกอบด้วย คดีปล้นทรัพย์ชิงตัวผู้ต้องหาและพยายามฆ่าตำรวจสืบสวนภาค 8 ท้องที่ สภ.นาขยาด ศาลตัดสินไปจำคุก 20 ปี 6 เดือน คดี 2 และ 3 เป็นคดีพยายามฆ่าในร้านอาหารท้องที่ สภ.เมืองพัทลุง สืบพยานโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว จะพิจารณาคดีช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จากนั้นไปดูที่เกิดเหตุบนชั้น 6 ตึกอายุรกรรม รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช พล.ต.ท.สุรพงษ์เผยว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครศรี ธรรมราช อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนให้นายเชาวลิตหลบหนี 4 คน ประกอบด้วย น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม หมื่นรักษ์ คนเฝ้าไข้ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย กลศึก ผู้ติดต่อว่า จ้างคนเฝ้าไข้ นายจักรี หรือบิ๊ก แป้นน้อย และนายจีระวุฒิ หรือปอย ชุมศรี ทั้งสองเป็นคนพานายเชาวลิตหลบหนี ส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 นายที่ควบคุมตัวนายเชาวลิต อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน ต่อมาในช่วงเย็น ตำรวจ บก.ภ.จ.พัทลุง ร่วมกับตำรวจกองปราบฯ นำหมายศาลกระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 4 จุด จุดแรกบ้านของนายจักรี หรือบิ๊ก แป้นน้อย หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับ บ้านเลขที่ 125 หมู่ 5 ต.พญาขัน อ.เมืองพัทลุง ไม่พบตัวนายจักรีและไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 40/3 หมู่ 7 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง ของนายเชาวลิต นักโทษที่หลบหนี ไม่พบตัวและไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน ส่วนจุดที่ 3 เข้าตรวจค้นบ้าน น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย กลศึก ผู้ติดต่อว่าจ้างคนเฝ้าไข้ บ้านเลขที่ 244 หมู่ 8 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พบ น.ส.ยุวเรศอยู่ในบ้าน เจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีส่วนร่วมในการพาและวางแผนการหลบหนีของนายเชาวลิต ตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ภ.จ.พัทลุง ตรวจสอบประวัติ น.ส.ยุวเรศเคยต้องคดีอุ้มฆ่าหญิงสาวอายุ 29 ปี ห่อศพในผ้าห่มโยนทิ้งป่าริมคลองชลประทาน ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง เมื่อเดือน ก.ค.65 ปมเหตุจากปัญหาเรื่องหนี้สิน แต่สู้คดีจนศาลยกฟ้อง ส่วนสามีถูกศาลตัดสินจำคุกและจุดที่ 4 เข้าตรวจค้นบ้านนายเบญจา เหล็มปาน อายุ 35 ปี อดีตลูกน้องของนายเชาวลิต บ้านเลขที่ 187 หมู่ 6 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา พบนายเบญจาอยู่ในบ้าน เจ้าตัวเผยว่า มีคนติดต่อให้มาร่วมก่อเหตุในคดีดังกล่าว แต่โชคดีที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ก่อนทำให้อีกฝ่ายติดต่อไม่ได้เลยไม่ได้มีส่วนร่วม ตำรวจนำตัวไปสอบปากคำประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไปขณะเดียวกันกรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ว่า นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี นักโทษที่หลบหนีมีคดีความผิดคดีปล้นทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ พ.ร.บ.อาวุธปืน กำหนดโทษรวม 21 ปี 3 เดือน 25 วัน พ้นโทษ วันที่ 6 พ.ค.86 ถูกย้ายพฤติการณ์มาจากเรือนจำกลางพัทลุง เมื่อวันที่ 7 ส.ค.66 เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพล หลังเกิดเหตุอธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งการให้ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชและเจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามจับกุมโดยประสานความร่วมมือและสนธิการปฏิบัติการร่วมกับตำรวจและทหารในพื้นที่ มอบหมายให้รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายปฏิบัติการลงไปบัญชาการ พร้อมสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวโดยด่วนทั้งนี้การที่ผู้ต้องขังหลบหนีระหว่างคุมขังจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัยจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ขอความร่วมมือญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขังเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว หากผู้ใดพบเห็นแจ้งเบาะแสได้ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เบอร์โทร. 0-7580-3905 หรือ 09-6641-1495 ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช มีรางวัลนำจับให้ 100,000 บาท ประวัติอาชญากรรมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” มีประวัติครอบครองปืนพก .357 ปืนพก 9 มม. ปืนยาวเดี่ยวไรเฟิล วันที่ 5 ม.ค.50 ฆ่าผู้อื่น ฆ่าตำรวจ คดีที่ 10/2550 เหตุเกิด สภ.เมืองพัทลุง วันที่ 3 ธ.ค.50 ครอบครองปืนไม่มี ทะเบียน วันที่ 21 เม.ย.51 พยายามฆ่าผู้อื่น พื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง วันที่ 1 พ.ค.51 พยายามฆ่าผู้อื่น พื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง วันที่ 18 ก.พ.52 มีอาวุธปืน กระสุนปืน วัตถุระเบิด ใช้เฉพาะสงคราม วันที่ 12 มี.ค.52 คดีบุกรุกในเวลากลางคืน พื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง วันที่ 11 ต.ค.54 คดี พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง วันที่ 3 ธ.ค.59 คดีฆ่าผู้อื่น พื้นที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช วันที่ 27 พ.ค.60 คดีฆ่าผู้อื่น พื้นที่ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 2 ก.ย.62 พยายามฆ่าตำรวจ ภาค 8 พื้นที่ สภ.นาขยาด จ.พัทลุง และวันที่ 9 ก.ย.62 พยายามฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าตำรวจทางหลวงจังหวัดพัทลุง เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง นอกจากนี้มีคดียาเสพติดและฟอกเงินอีกด้วยนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รรท.อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หากผลตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า 2 ผู้คุมราชทัณฑ์มีส่วนเกี่ยวข้องวางแผนหลบหนีของนายเชาวลิต หรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบจะต้องถูกแจ้งข้อหามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ จะดูเรื่องวินัยร้ายแรงอาจสั่งพักราชการไว้ก่อน หรืออาจให้ออกจากราชการ ปกติหากผู้ต้องขังป่วยจะต้องไปที่โรงพยาบาล เรือนจำต้องจัดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 นาย ประกบผู้ต้องขัง 1 คน ยืนยันจะตรวจสอบอย่างละเอียดเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เผยว่า กำชับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ ต้องไปสืบให้ได้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อถามว่าจะดำเนินการกับผู้ร่วมขบวนการที่มีส่วนร่วมในการพานักโทษหลบหนีอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ถ้าทำอย่างนั้นต้องเอาผิดอยู่แล้ว โดยไม่ต้องถาม ถ้าผิดต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่