“ได้แต่ร่ำเรียน แต่ไม่รู้จัดวิเคราะห์แยกแยะ จึงไม่เข้าใจเหตุผล” กากบาท ประจำวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2563 ท่ามกลางข่าวใหญ่ในหลายเรื่อง
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน
ตึงเครียดทั่วโลก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ ผบก.ทุกหน่วยยกระดับและเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล รวมถึงโบสถ์ มัสยิด สถานที่สำคัญทางศาสนา และจุดล่อแหลมต่างๆ
ผบ.ตร.กำชับติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวกับสถานเอกอัครราชทูตหรือหน่วยร่วมปฏิบัติอื่นๆ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อน
พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. เข้าหารือเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาและสถานทูตอิหร่านประจำประเทศไทย มาตรการรักษาความปลอดภัย ย้ำไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ไม่ประมาท
การเมืองไทยยังวุ่นไม่เลิก

...
ล่าสุดฝ่ายต้านรัฐบาลจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” จุดหลักที่สวนรถไฟในวันที่ 12 ม.ค.
ส่วนกลุ่มผู้ที่สนับสนุนรัฐบาล
จัดกิจกรรม “เดินเชียร์ลุง” ในวันเวลาเดียวกันที่สวนลุมพินี
ตำรวจ “หนังหน้าไฟ” ต้องวุ่นวายวางกำลังดูแลความปลอดภัยทั้งสองกลุ่ม
ผบ.ตร.กำชับทุกหน่วยป้องกันการเผชิญหน้ามวลชนทั้งกลุ่ม
หากพบเหตุหรือส่อก่อเหตุให้หยุดยั้งโดยเร็ว...อย่าให้ขยายวงกว้างโดยเด็ดขาด ตามมาด้วยเหตุร้อน
คนร้าย 2 คนขับขี่ จยย.ก่อเหตุยิงรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี อดีต ผบช.สตม. เหตุเกิดข้างร้านสาริกา มาสสาจ เขตพื้นที่ สน.บางรัก...ขณะเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่ได้อยู่ในรถ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.ผบ.ตร.ลงพื้นที่ทันที

รรท.ผบ.ตร.กำชับหากล้องวงจรปิดพบภาพมือปืน 2 คน ขับขี่ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและสวมหมวกกันน็อกเต็มใบมาจ่อยิงข้างรถ 8 นัด
พบรถเบนซ์สีดำ ติดฟิล์มทึบ วนเวียนชี้เป้าก่อนมือปืนลงมือยิง งานนี้ “บิ๊กโจ๊ก” จัดหนักยืนยันไม่ได้ “จัดฉาก” สร้างสถานการณ์
ระบุชัดว่าปมเหตุถูกยิงรถมาจากปมขัดแย้งโครงการไบโอเมทริกซ์และรถสายตรวจไฟฟ้าอัจฉริยะของ บช.สตม.
โยนระเบิดเข้าใส่ที่ ตร.
เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์เมามันในโลกโซเชียล แบ่งเป็น 2 ฝ่ายทั้ง “เหตุเกิดจริงหรือจัดฉาก”
งานหนักอยู่ที่ชุดสืบสวนเร่งหาตัวมือปืนเพื่อความกระจ่างโดยเร็วที่สุด...ก่อนจะบานปลายกว่านี้
เป็นเหตุสุดเหี้ยมคนร้ายบุกเดี่ยว สวมโม่งดำบุกปล้น ร้านทองออโรร่า ภายในห้างโรบินสัน กลางเมืองลพบุรี กราดยิงผู้คนเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 4 ราย มีเด็กอายุ 2 ขวบ ที่เข้ามา เที่ยวกับแม่ที่ห้างถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ปิดเมืองหาตัวคนร้าย ลั่นโหดเหี้ยมทำได้กับเด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่อง

...
“บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งตำรวจภาค 1 และกองปราบปราม ร่วมกัน “ลงแขก” ไล่ล่าคนร้าย ไฟเขียวหากคนร้ายต่อสู้-ขัดขืน “จับตาย” ได้ทันที
เพราะคนร้ายรายนี้ไม่ธรรมดา
...พร้อมให้เงินรางวัลผู้ที่แจ้งเบาะแสคนร้าย 1 แสนบาท เพื่อให้ได้ตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุด
ไม่เคยสนใจแก้ไข
ฝุ่นพิษ PM 2.5 ของกรุงเทพฯพุ่งติดอันดับที่ 6 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก
ประจานความชุ่ยของหน่วยงานที่รับผิดชอบ
เขม่าไอเสีย ของรถยนต์เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นพิษ ยังไม่รวมรถบรรทุกก่อสร้างอีกต้นเหตุของฝุ่น
เห็นรณรงค์กันได้ไม่นาน ห้ามทั้งรถบรรทุกดิน รถยนต์ รถโดยสารประจำทางที่ท่อไอเสียควันดำโขมงวิ่งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ
แต่สุดท้ายกลับมาวิ่ง ทำเอาทั้งฝุ่น เขม่าควันพิษเต็มเมือง
เซ็งแทนคนเมืองกรุง...เมื่อไรจะเอาจริงเอาจังกันเสียที...
กากบาท