โจรใต้เหิมหนักบุกยิงถล่มแฟลตตำรวจขณะตำรวจนอนหลับพักผ่อน แต่โดนยิงโต้กลับ เผ่นหนีเข้าป่ากระเจิง ตำรวจไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงตัวอาคารเสียหายเล็กน้อย อีกรายใช้เอ็ม 16 และเอชเคยิงถล่มบ้านพักนายดาบตำรวจกว่า 10 นัด ปาระเบิดขวดหมายเผาซ้ำ แต่ไฟไม่ลุกลาม ลูกชายนอนเฝ้าบ้านคนเดียวรอดตายเฉียดฉิว ทหารเข้าระงับเหตุไว้ทัน คนร้ายพากันหลบหนี

โจรใต้ก่อเหตุอุกอาจลอบยิงถล่มบ้านพักตำรวจรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ต.ค. พ.ต.อ.ธวัช สุนทรพจน์ ผกก.สภ.ยะหา จ.ยะลา ร.ต.อ.อิษวัต ยิ่งคง รอง สว. (สอบสวน) พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จ.ยะลา และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงแฟลตตำรวจบ้านพงลูกา หมู่ 3 ต.ยะหา ตั้งอยู่ห่างจาก สภ.ยะหา ราว 2 กม. พบว่าจุดที่คนร้ายลงมืออยู่ในป่าสวนยางพาราด้านหลังแฟลตตำรวจ และจากการตรวจสอบโดยละเอียดไม่พบหลักฐานใดๆ ส่วนแฟลตตำรวจพบร่องรอยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดเจาะผนังคอนกรีตด้านหลังจำนวน 5 จุด ทำให้ปูนกะเทาะได้รับความเสียหายเล็กน้อย

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะตำรวจ สภ.ยะหา นอนหลับพักผ่อนกันอยู่ในแฟลตดังกล่าว จู่ๆมีคนร้ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 คน ลอบเข้ามาทางด้านหลังแฟลตเป็นสวนยางพาราของชาวบ้าน พร้อมใช้ปืนสงครามยิงถล่มเข้าใส่แฟลตหลายสิบนัด ตำรวจตกใจตื่นคว้าปืนยิงตอบโต้ เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นนานหลายนาที คนร้ายเห็นท่าไม่ดีอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป หลังเสียงปืนสงบตำรวจเข้าเคลียร์พ้นที่พบว่าตำรวจไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มโจรใต้ที่เคลื่อนไหว อยู่ในพื้นที่ลอบเข้ามาก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

...

วันเดียวกัน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้มอบหมายให้ น.ส.อุบล ศรีสุวรรณ ผอ.สน.การให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต. นำคณะเดินทางไปยังโรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ ต.สะเตง อ.เมืองยะลา เยี่ยมอาการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนบริเวณสวนสาธารณะกาญจนาภิเษก หมู่ 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บ 5 นาย ประกอบด้วย ร.ต.อ.รณวรรษ ทองคำ อายุ 55 ปี รอง สวป. ส.ต.ท.อดิศักดิ์ ยิ้มเจริญ อายุ 25 ปี ส.ต.ท.ธีรศักดิ์ ขาวพร้อม อายุ 26 ปี ส.ต.ต.ฟาริด แวมายิ อายุ 26 ปี และ ส.ต.ต.ฮัซซาน แตบาตู อายุ 21 ปี พบว่าทั้งหมดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

เหตุรุนแรงอีกรายเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ต.ค. ร.ต.อ.เอกรัตน์ เจียรเจริญ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้ปืนยิงถล่มใส่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 1 ต.ดอนรัก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐมณ์พงศ์ เพ็ชรพิรุณ ผกก. และตำรวจชุดเก็บกู้ระเบิด พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ด้านล่างเป็นปูนส่วนชั้นบนเป็นไม้ ฝาผนังมีร่องรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนหลายแห่ง กระจกหน้าต่างแตกเสียหาย โดยมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และปลอกกระสุนปืนเอชเค ตกกระจายอยู่ตรงพื้นหน้าบ้านกว่า 10 ปลอก ขวดบรรจุน้ำมันเบนซินแตกกระจายอยู่ตรงพื้นปูนหน้าบ้าน 2 ขวด และอีก 3 ขวด ตกอยู่บริเวณข้างบ้าน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ ด.ต.อนุสรณ์ ขันติกุลานนท์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ฝ่ายปกครองศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค 9 ขณะเกิดเหตุ ด.ต.อนุสรณ์ไม่อยู่บ้าน มีเพียงนายสุรศักดิ์ ขันติกุลานนท์ อายุ 27 ปี ลูกชาย อยู่บ้านเพียงลำพัง คนร้ายคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน บุกเข้าไปที่หน้าบ้านพร้อมใช้ปืนสงครามยิงถล่มเข้าใส่บ้านกว่า 10 นัด จากนั้นหนึ่งในคนร้ายใช้ระเบิดขวดที่เตรียมมาปาเข้าใส่บ้าน 2 ขวด หมายเผาบ้านซ้ำ แต่ขวดน้ำมันตกบริเวณพื้นปูนเกิดไฟลุกไหม้ในวงจำกัด ไม่ได้ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของตัวบ้าน ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ทหารที่ออกลาดตระเวนได้ยินเสียงปืนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนร้ายเห็นท่าไม่ดีทิ้งระเบิดขวดที่เหลือแล้ววิ่งหลบหนีไป เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบต้องการสร้างสถานการณ์