ตามเหตุตามปัจจัย เมื่อเวลาเที่ยง 16 นาที วันพฤหัสฯที่ 27 เม.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า พระอาทิตย์จะตรงหัว อากาศในกรุงเทพฯจะร้อน...ที่สุด ว่ากันว่าจะถึง 40 องศาเซลเซียส
นักข่าวทีวีเตือนคนที่ทำงานอยู่กลางแจ้ง...ให้ระวังโรคลมแดด
แต่เวลาอาทิตย์ตรงหัวที่ว่าในกรุงเทพฯ ดูจะไม่ร้อนมากจริง มองไปหน้าบ้าน แดดไม่จ้า ผมเห็นฟ้าหลัว...เมฆ ลม...เป็นตัวแปรทำให้ความร้อนลดลง
ทุกครั้งที่ฝนตกฟ้าก็มักคะนอง สะเทือนเลื่อนลั่น คนเดินกลางฝนก็หวั่นไหว กลัวฟ้าผ่า
นึกถึงฟ้าผ่า...ผมก็นึกถึง “ขวานฟ้า” ที่มีคนเชื่อว่ามากับฟ้าผ่า เมื่อรู้ว่าฟ้าผ่าตรงไหนก็ตามไปขุด...ตรงนั้น เจอก้อนหินเกลี้ยงกลมมน บาง รูปร่างเหมือนขวานก็เอามาเป็นเครื่องราง เชื่อกันว่าอยู่ยงคงกระพัน
ผมสะดุดตา “ขวานฟ้า” ครั้งแรก ในงานนิทรรศการของเก่า...ที่วิทยาลัยครูยะลาราวปี 2515-16 มีป้ายบอกชื่อเจ้าของ คุณมงคล วัฒนายากร ผู้จัดการแบงก์ ก็ตามไปคุยถึงเบตง
คุณมงคลได้ขวานฟ้า...มาจากชาวบ้าน บางคนเอาแช่ในตุ่มน้ำกินเป็นมงคล บางคนก็ใช้เป็นหินลับมีด
นอกจากขวานฟ้า คุณมงคลยังมีวัตถุโบราณ เช่น หม้อบ้านเชียงสภาพดีๆ อีกหลายชิ้น
“ขวานฟ้ายะลา” เป็นงานเขียนเรื่องแรกของผมที่ลงหนังสือ พิมพ์รายวัน จำได้ฝังใจ แต่จำรายละเอียดไม่ได้ เพราะวันเวลาผ่านมาเนิ่นนานเต็มที
มารื้อฟื้น...ความรู้เรื่องนี้อีกครั้งจากหนังสือร้อยแปดเรื่องไทย เรื่องชวนสงสัยที่ไม่มีใครเคยตอบ สำนักพิมพ์สารคดี (พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2545)
อาจารย์ ส.พลายน้อยบอกว่า ความเชื่อเรื่องขวานฟ้ามิใช่แต่ไทยเราเท่านั้น แม้ชาติอื่นชาวมลายูโบราณ ชาวเกาะต่างๆ ก็เชื่อแบบเดียวกัน
ชาวมลายูเรียกขวานฟ้าหรือขวานหินนี้ว่า บาตูลินตา หะลินตาหรือบาตูบเตอ คำเหล่านี้ล้วนแปลว่า “สายฟ้า” ชาวเกาะบอร์เนียวเหนือเรียกขวานฟ้าว่า กิกิ กุนตอ แปลว่าฟันฟ้า
ชาวบอร์เนียวเหนือเชื่อว่า เป็นฟันที่ร่วงหลุดลงมาจากฟ้า เพราะเทวดาคำรามเสียงดัง จนฟันร่วง
ใครที่มีไว้จะถือเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ นักเลงไก่ชนจะเอาขวานฟ้าไปถูที่เดือยไก่ มั่นใจว่าไก่จะชนะ เพราะเดือยไก่ตัวนั้นเมื่อตีไปที่ไก่คู่ต่อสู้จะแทงเจาะลึกรุนแรงเหมือนสายฟ้าฟาด
เรื่องเสียงฟ้าร้องคนไทยรุ่นเก่าเล่าให้ลูกหลานฟังว่า เป็นเสียงพระอินทร์ตีกลอง คนอินเดียว่า เป็นเสียงพระอินทร์คำราม ด้วยความพิโรธ
คนเป็นไข้ทรพิษเอาขวานฟ้าไปแช่น้ำให้ดื่ม เป็นยารักษาโรคหาย
เอาขวานฟ้าแช่น้ำไปพรมผืนนา ป้องกันศัตรูพืชได้ ทำให้ปริมาณข้าวเพิ่มขึ้น
ความเชื่อคนรุ่นเก่าเหล่านี้ค่อยๆคลี่คลายลงในสมัยใหม่ นักวิชาการได้สำรวจตรวจสอบ ได้ข้อยุติเป็นที่ประจักษ์ว่า ไม่ใช่ขวานที่หล่นมาจากฟ้าหรือฟันของเทวดา
แต่เป็นเครื่องมือทำมาหากินของคนในยุคหิน
หากเอาความเชื่อเรื่องขวานฟ้าของคนโบราณ...ไปใช้ในรายการทีวี ถามว่า จริง ไม่จริง คำตอบจากผู้รู้ก็ต้องออกมาว่า ...ไม่จริง
ความร้อนจากแสงอาทิตย์เป็นเรื่องจริง อำนาจของฟ้า เช่นฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เป็นเรื่องจริง ฟ้าผ่าตรงไหน ห้ามไม่ได้ ป้องกันไม่ได้
เกิดอยู่ใต้ฟ้าไม่กลัวฝน ก็ต้องระวังตัวกลัวฟ้าผ่าเอาไว้ปะเหมาะเคราะห์ร้ายถึงตายได้ทีเดียว.