หลังจากเปิดศักราชปี 2025 ด้วยแรงเทขาย หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง "7 Magnificent" หรือ 7 หุ้นนางฟ้า ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกที่เผชิญแรงกดดันจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องการใช้จ่ายด้าน AI ที่เริ่มชะลอตัว มูลค่าหุ้นที่สูงเกินพื้นฐาน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ-การเมือง ทั้งในสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้กลุ่มหุ้นที่เคยนำตลาดในยุค AI บูม เริ่มร่วงลงพร้อมกันในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตามช่วงกลางไตรมาสสองของปีนี้ เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนจากหุ้นบางตัวในกลุ่มนี้โดยเฉพาะ Meta และ Microsoft ที่ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 12% และ 7% ตามลำดับ กลับมายืนเหนือจุดเริ่มต้นของปีได้สำเร็จ และล่าสุด Nvidia กลายเป็นรายที่สามที่พลิกกลับมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง
หุ้นยักษ์ใหญ่ชิปเพิ่มขึ้นกว่า 4% ในวันพุธ (14 พ.ค.) ที่ผ่านมา ทำให้สัปดาห์นี้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 16% ในสัปดาห์เดียวพลิกกลับมาอยู่ในแดนบวกสำหรับปี 2025 ดันมูลค่าตลาดของ Nvidia ให้กลับมาแตะระดับกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง กลายเป็นหุ้นรายล่าสุดในกลุ่มนี้ที่กลับมาเขียวท่ามกลางการฟื้นตัวของตลาดโดยรวม
โดยเบื้องหลังการฟื้นตัวของ Nvidia มาจากดีลครั้งใหญ่กับซาอุดีอาระเบีย โดย เจนเซ่น หวง ซีอีโอของบริษัทได้ประกาศว่า Nvidia เตรียมส่งมอบชิป AI ขั้นสูงกว่า 18,000 ตัวให้กับซาอุดีอาระเบีย หลังร่วมทริปเดินทางกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และผู้บริหารเทคโนโลยีรายอื่นในงานสัมมนาการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ-ซาอุฯ ที่กรุงริยาด
นักวิเคราะห์หลายรายในวอลล์สตรีทมองว่า ข้อตกลงระหว่างซาอุฯ กับสหรัฐฯ นี้ อาจช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากผลกระทบที่ Nvidia ได้รับจากข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปไปยังจีน พร้อมกับแรงหนุนจากความหวังว่าการชะลอมาตรการภาษี ภายใต้ข้อตกลงการค้าครั้งใหม่เป็นเวลา 90 วันจะช่วยหลีกเลี่ยงสงครามการค้าเต็มรูปแบบ
ภายใต้ข้อตกลงนี้ สหรัฐฯ จะลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 45% เหลือ 30% ขณะที่จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จาก 25% เหลือ 10% ทำให้ตลาดหุ้นโดยรวม รวมถึงหุ้นเทคโนโลยีฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันตลาดโดยรวมก็กำลังฟื้นตัว ดัชนี S&P 500 กลับมาอยู่ในแดนบวกเมื่อวันอังคาร (13 พ.ค.) และขยับขึ้นต่ออีกเล็กน้อยในวันพุธ ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับที่น่าทึ่ง หลังจากที่ดัชนีเคยร่วงลงถึงจุดที่เข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามในบรรดา 7 Magnificent หุ้นเทคโนโลยีบางรายยังติดลบ นำโดย Apple และ Tesla ที่ร่วงลงมากกว่า 15% และ 13% ตามลำดับในปีนี้ ส่วน Alphabet ก็ยังติดลบโดยร่วงลงมากว่า 12% จากความกังวลว่า AI อาจกระทบต่อธุรกิจค้นหาหลักของบริษัทในระยะยาวเช่นเดียวกัน
ภาพรวมผลตอบแทนหุ้นกลุ่ม 7 Magnificent (ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน)
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงข้อมูล CNBC
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -