เส้นตาย TikTok อยู่ในมือ Donald Trump จะเกิดอะไรขึ้นต่อ ? ถ้าโซเชียลมีเดียจีนถูกแบนในสหรัฐฯ

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เส้นตาย TikTok อยู่ในมือ Donald Trump จะเกิดอะไรขึ้นต่อ ? ถ้าโซเชียลมีเดียจีนถูกแบนในสหรัฐฯ

Date Time: 18 ม.ค. 2568 10:13 น.

Video

ลายเส้นสะท้อนตัวตนเบียร์ “The Brewing Project“ | BrandStory Special EP x เมรัยไทยแลนด์

Summary

  • หากไม่มีการแทรกแซงทางกฎหมายหรือฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีคนใหม่ TikTok อาจถูกแบนในสหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่า TikTok จะไม่สามารถดาวน์โหลดหรือใช้งานในประเทศได้อีกต่อไป โดยผลลัพธ์สุดท้ายอาจขึ้นอยู่กับ Donald Trump และเป้าหมายช่วยทำดีลใหม่ระหว่าง ByteDance กับผู้ซื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ

Latest


ชะตาล่าสุด TikTok แอปจีนที่มีผู้ใช้สหรัฐฯ 170 ล้านคน

ภายใต้ข้อตกลงเดิม ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok จำเป็นต้องหาผู้ซื้อรายใหม่ไม่เช่นนั้นจะถูกปิดกิจการในวันที่ 19 มกราคม อย่างไรก็ตามยังไม่มีการรายงานถึงข้อตกลงจากผู้ซื้อรายใหม่ที่ชัดเจน แม้จะมีกระแสข่าวว่า Elon Musk อาจจะเป็นผู้อุปถัมภ์แอปจีนรายนี้คนต่อไป

ทว่าสถานการณ์ล่าสุดอาจสร้างความหวังให้กับการมีอยู่ของแอป TikTok ในสหรัฐ โดยมีรายงานว่าอดีตประธานาธิบดี Joe Biden เลือกที่จะไม่บังคับใช้กฎหมายห้ามดังกล่าวและปล่อยให้ Donald Trump ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้ตัดสินใจแทน

ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กับคณะทำงานของประธานาธิบดี Donald Trump ที่แสดงความเต็มใจปกป้อง TikTok อาจดำเนินการเพื่อชะลอการบังคับใช้กฎหมายห้ามดังกล่าวออกไปนานถึง 90 วันโดยอ้างถึงเส้นตายเดิมซึ่งตรงกับช่วงเสาร์อาทิตย์และต่อเนื่องด้วยกับช่วง Martin Luther King Jr. federal holiday ในวันจันทร์ที่ 20 มกราคมซึ่งเป็นวันหยุดราชการของประเทศ

ด้าน Donald Trump ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 มกราคมเช่นเดียวกัน ได้ระบุว่าเขาอาจเลื่อนการแบนออกไปนานถึง 90 วันโดยผ่านการดำเนินการของฝ่ายบริหาร เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเจรจาขณะที่ด้านของศาลฎีกาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการแบน หากศาลมีคำสั่งห้าม ศาลอาจเลื่อนหรือหยุดการแบนจนกว่าจะมีการตัดสินขั้นสุดท้าย

Donald Trump ความหวังการดำรงอยู่ต่อไปของ TikTok 

ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ByteDance สู้กับทางการสหรัฐฯ ผ่านทางชั้นกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง โดยศาลยังยืนหยัดต่อกฎหมาย Protecting Americans From Foreign Adversary Controlled Applications Act ที่มองว่า TikTok เป็นภัยความมั่นคง โดยช่วงต้นสัปดาห์นี้ ByteDance ยังปฏิเสธที่จะไม่ขายกิจการให้กับใคร

ทว่าผู้ที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จีนกำลังประเมินทางเลือกที่เป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่เสนอกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ให้กับผู้ที่มีความเป็นไปได้อย่าง การเสนอกิจการในสหรัฐฯ ให้กับ Elon Musk เข้าซื้อในฐานะพันธมิตรที่โดดเด่นของ Trump และมีบทบาทในรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงมหาเศรษฐีหลายรายที่สนิทสนมกับ Trump รวมถึง Oracle และ Amazon ซึ่งเป็นบริษัทที่ TikTok ทำธุรกิจด้วยอยู่แล้ว ก็ถูกเสนอชื่อให้เป็นผู้แข่งขันเช่นกัน

หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลชุดใหม่ของ Trump ที่เข้าข้าง TikTok แล้วอาจสั่งให้กระทรวงยุติธรรมยุติการบังคับใช้กฎหมายด้วยการลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารซึ่งจะระงับการบังคับใช้กฎหมาย หรืออีกทางเลือกหนึ่งคืออนุญาตให้ใช้กฎหมายนี้ต่อไป แต่บอกกระทรวงยุติธรรมยุติการบังคับใช้กฎหมาย

เดิมทีพรรครีพับลิกันเคยพยายามแบน TikTok ในช่วงดำรงตำแหน่งครั้งแรก แต่เปลี่ยนจุดยืนมาได้ใช้แอปดังกล่าวในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยล่าสุด โดยให้เครดิตว่า TikTok มีส่วนสำคัญในการเผยแพร่แนวคิด America First และช่วยให้พรรครีพับลิกันขยายการเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ได้

Michael Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่ของ Trump กล่าวว่ารัฐบาลชุดต่อไปตั้งใจที่จะหาวิธีขยายกำหนดเวลาและใช้มาตรการต่างๆ เพื่อหาวิธีที่จะ “รักษา” TikTok ไว้โดยไม่คำนึงถึงคำตัดสินของศาล นอกจากนี้รัฐบาลจะแจ้งกับ Apple และ Google ว่าจะไม่ถูกลงโทษหากยังอนุญาตให้เข้าถึง TikTok ต่อไป ซึ่งหมายความว่ากฎหมายจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป แต่จะกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็น

มากไปกว่านั้น Trump ยังได้รับการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริหารด้านเทคโนโลยีรายใหญ่และการสนับสนุนจากมหาเศรษฐี Jeff Yass ซึ่งถือหุ้นใหญ่ใน ByteDance และยังเป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ของพรรครีพับลิกันอีกด้วย โดยมีรายงานระบุต่อเนื่องอีกว่า Shou Chew ซีอีโอของ TikTok ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ Trump ในวันที่ 20 มกราคมเช่นเดียวกัน

จะเกิดอะไรขึ้นต่อหากแบน TikTok สำเร็จ

ภายหลังวันที่ 19 มกราคมนี้ สิ่งที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น คือ ผู้ใช้ชาวอเมริกันจะไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน TikTok ได้ทั้งใน Google Play Store และ App Store ของ Apple ซึ่งสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ได้แจ้งให้บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมที่จะลบแอปดังกล่าวออกทันทีหากผลการพิจารณาเป็นไปตามแผนการเดิม แม้ว่าผู้ใช้ที่เลือกจะเก็บแอปไว้ แต่ TikTok จะไม่เปิดให้ใช้งานต่อสาธารณะ ผู้ใช้ชาวอเมริกันจะไม่สามารถส่งโพสต์หรือสามารถอัปเดตระบบใหม่ๆ ได้อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้แอปมีข้อบกพร่องและต้องยุติการใช้งานในท้ายที่สุด แพลตฟอร์มจะยังคงใช้งานได้อย่างน้อยชั่วคราวเท่านั้น

VPN

ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีวิดีโอจำนวนมากที่เผยแพร่บน TikTok ซึ่งบอกว่าผู้ใช้อาจใช้งาน TikTok ต่อได้ผ่าน VPN นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งแอปที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตได้โดยการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ ซึ่งอาจละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ และมีความเสี่ยงในตัวของมันเอง

อย่างไรก็ตามทางการได้คาดการณ์ไว้แล้วเช่นกันจึงเสนอให้แบน "บริการโฮสติ้งอินเทอร์เน็ต" ไม่ให้ผู้คนเข้าถึงแอปได้ ยกตัวอย่าง หลังจากที่อินเดียแบน TikTok ในปี 2020 อินเดียก็สั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตปิดกั้นการเข้าถึงแอปดังกล่าวทั้งหมดและแม้ว่าผู้คนจะใช้ VPN ก็ตาม ระบบจะมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถตัดสินได้ว่าบุคคลนั้นอยู่ในสหรัฐฯ หรือไม่ จากนั้นก็แสดงหน้าจอที่ระบุว่าแอปดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศของตน

บทความที่เกี่ยวข้อง 

อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg , BBC 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ