
เคยมีความคิดนี้หรือไม่ว่า ทำไมแอปพลิเคชันในมือถือของเรารู้ใจเราเหลือเกิน? ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำร้านอาหารที่เราอยากกิน โฆษณากระเป๋าที่กำลังอยากได้ไปจนถึงการเสนอสินเชื่อเงินกู้หรือโปรบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับเราในขณะนั้น ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลงานชั้นยอดของ "โมเดลแอปจีน" และการผสาน AI เข้ากับข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้
น่าสนใจว่าเมื่อแอปพลิเคชันรู้จักเราดีกว่าที่เรารู้จักตัวเองขนาดนี้ อำนาจในการตัดสินใจในชีวิตประจำวันของเรายังเป็นของเราจริงหรือ ? และนี่คือสาเหตุที่ทำให้หลายประเทศเริ่มหวั่นวิตกถึงอิทธิพลของเทคโนโลยีจีนที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก
ย้อนกลับไปราวทศวรรษที่ผ่านมา “จีน” ได้พลิกโฉมวงการเทคโนโลยีโลกด้วยการพัฒนา “SuperApp” แอปพลิเคชันที่รวมทุกบริการไว้ในที่เดียวจนสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ทั้งวิธีการพูดคุยโต้ตอบในโซเชียลมีเดียไปจนถึงการประเมินความน่าเชื่อถือทางการเงินของเรา
โดยต้นฉบับที่เป็นผู้นำในเรื่องนี้ อันดับแรก “WeChat” จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงแอปแชทธรรมดาที่พัฒนาจนกลายเป็นระบบนิเวศดิจิทัลขนาดใหญ่ รวมบริการสำหรับผู้ใช้ ตั้งแต่สั่งอาหาร จ่ายบิล จองตั๋ว ไปจนถึงการลงทุนในกองทุนรวม ต่อเนื่องด้วยฟินเทคของ Alibaba อย่าง “Alipay” แอปชำระเงินผ่านมือถือที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีระบบนิเวศด้านการเงินครบจบในแอปเดียว ได้เพิ่มภาษีให้จีนขึ้นแท่นนวัตกรรมฟินเทคระดับโลก
แอปพลิเคชันจีนสองค่ายยักษ์ค่อย ๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนกว่าพันล้านคนในประเทศและภูมิภาค เปรียบเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่คอยอำนวยความสะดวกในทุกด้านของชีวิต จนปฏิเสธไม่ได้ว่า “โมเดลแอปจีน” ได้กลายเป็นต้นแบบให้กับบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกในการพัฒนา SuperApp ของตัวเองไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ในการขยายระบบนิเวศหรือผสานธุรกิจระหว่างเครือ แม้กระทั่ง Elon Musk ที่เฝ้าฝันจะเปลี่ยน X (Twitter) เป็นแอปสารพัดนึกในช่วงที่ผ่านมา
อ่านเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามความสำเร็จของ “โมเดลแอปจีน” ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่ล้วนเป็นผลจากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้อย่างละเอียด ซึ่งการวิเคราะห์ประเมินผลได้แม่นยำและเฉพาะบุคคลจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าผู้สร้างแอปไม่ได้ทำการเก็บสะสม “ข้อมูล” (Data) ขนาดมหาศาลที่เกือบจะทุกมิติของชีวิตจนเราทุกคนไม่ทันฉุกคิดว่า ร่องรอยการใช้งานแอปต่าง ๆ หรือข้อมูลที่ขึ้นชื่อว่าควรจะเป็น ‘ส่วนตัว’ ไม่เคยเป็นของเราตั้งแต่ต้น และเราในฐานะผู้ใช้ได้กลายเป็นสารตั้งต้นของแอปฯ โดยปริยาย ข้อมูลเกือบจะทุกมิติของชีวิตกลายเป็นอาหารขับเคลื่อนอัลกอริธึม
เหตุผลหลัก ๆ ที่ “ข้อมูลผู้ใช้” กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของแอปพลิเคชัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค AI ที่ยกระดับการประมวลผลของข้อมูลไปอีกขั้น ความชาญฉลาดของอัลกอริธึมสามารถเชื่อมโยงและเรียนรู้พฤติกรรมของเราได้อัตโนมัติ นำเสนอสินค้าบริการที่ตรงไลฟ์สไตล์พร้อมกับประสบการณ์การใช้ที่ราบรื่น เป็นที่มาให้หลายแอปไม่เพียงแต่ฝั่งจีนอย่าง TikTok, Taobao, Temu, Weibo แต่รวมไปถึงโซเชียลมีเดียตะวันตกอย่าง Facebook, Instagram ล้วนใช้วิธีการเดียวกันในการจัดแจงเนื้อหาสำหรับผู้ใช้รายคน
ข้อมูลจากทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ติดตามการดำเนินงานของบรรดาแอปจีนล่าสุด เปิดเผยว่า แอปเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงการรักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้เพื่อสอดแนมกิจกรรมในแอปอื่น ๆ การแจ้งเตือน อ่านข้อความส่วนตัว แถมยังเปลี่ยนการตั้งค่าบางอย่างโดยที่เราไม่รู้ตัว และเมื่อติดตั้งแล้วก็ยากที่จะลบออก
ยกตัวอย่างมัลแวร์ในแอป Pinduoduo ดราม่าแอป Temu ล่าสุด ถูกตรวจพบว่ามีการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ Android โดยผู้เชี่ยวชาญภายในบริษัทกล่าวว่าช่องโหว่ดังกล่าวถูกใช้เพื่อสอดส่องผู้ใช้และคู่แข่ง ซึ่งอ้างว่าเพื่อกระตุ้นยอดขาย ข้อเท็จจริงดังกล่าวปรากฏขึ้นท่ามกลางการตรวจสอบแอปที่พัฒนาโดยจีนอย่าง TikTok อย่างเข้มข้น เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล
ความกังวลใหญ่ ๆ ถัดมา สืบเนื่องจากความสามารถของ AI ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้แอปพลิเคชันเหล่านี้บูรณาการข้อมูลและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะใน “โลกการเงิน” ที่ปัจจุบันปลายทางของผู้พัฒนา SuperApp หลายเจ้ามุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการด้านการเงินให้กับผู้ใช้ โดยอาศัยการวิเคราะห์ "เครดิตดิจิทัล" ที่สร้างขึ้นจากข้อมูลและพฤติกรรมออนไลน์ของเรา เกิดเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่สามารถตัดสินใจปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ใช้ได้ภายในไม่กี่วินาที
โดยปัจจุบันแอปสินเชื่อเงินด่วน “Digital Lending” ก็ได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่เข้ามาช่วยให้คนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Underserved ที่ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินหรือไม่ผ่านขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร และมากไปกว่านั้นที่ภาคธนาคารเองก็ก้าวเข้ามาพัฒนาการให้บริการทางการบนแอปพลิเคชันที่หลากหลาย (Embed Finance) โดยรูปแบบที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เช่น การรวมโปรดักต์ด้านการเงิน เช่น สินเชื่อ ประกันภัย หรือการลงทุนเข้ากับข้อเสนอของลูกค้าผ่าน Application Programming Interfaces (API) ที่เชื่อมโยงกับพันธมิตรทางการเงิน
ความสะดวกสบายในการขอสินเชื่อออนไลน์นำไปสู่คำถามที่น่าขบคิดว่าอำนาจในการควบคุมชีวิตทั้งไลฟ์สไตล์ไปจนถึงการบริหารจัดการเงินของเรากำลังถูกส่งผ่านไปให้อัลกอริธึมโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า ? และแอปเหล่านี้ถูกพัฒนาโดยผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ?
แม้ว่าความตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์กำลังทวีความสำคัญขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นการให้สิทธิ์แอปพลิเคชันในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงขอบเขตการเก็บรวบรวมข้อมูลและความเสี่ยงที่แฝงมากับการใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้
เนื่องจากนโยบายความเป็นส่วนตัวมักถูกเขียนในรูปแบบที่เข้าใจยากและขาดความโปร่งใส อีกทั้งเงื่อนไขการขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลก็มักคลุมเครือ ทำให้ผู้ใช้ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าข้อมูลส่วนตัวของตนถูกนำไปใช้หรือแบ่งปันในลักษณะใดบ้าง
ปรากฏการณ์นี้ได้สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวของประชาชนในระดับโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา คู่ขัดแย้งตลอดกาลที่กำลังปราบปรามบรรดาแอปจีนที่ให้บริการในสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติที่กังวลว่าข้อมูลผู้ใช้จะถูกเข้าถึงโดยทางการจีนแผ่นดินใหญ่ นำไปสู่มาตรการกีดกันที่เข้มงวดตลอดจนการออกกฎหมายแบน TikTok ที่เราเห็นในปัจจุบัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงข้อมูลจาก Techcrunch , ASPI , AP
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -