ออกตัวว่าเป็น “แม่หมอสมัครเล่น” แต่ลุกขึ้นมาทำนายดวงเมืองแต่ละที เล่นเอาขนลุกซู่ไปทั้งประเทศ เพราะแม่นเหลือเชื่อจริงๆ!! “โหรฟองสนาน จามรจันทร์” ทำนายไว้ตั้งแต่ต้นปี 2559 ให้ระวังโรคระบาด, ภัยอาเพศ และภัยพิบัติใหญ่ เพราะ “มฤตยูจร” เข้าทับลัคนาดวงเมืองเป็นรอบที่สาม นึกว่าเมืองไทยผ่านการสูญเสียครั้งใหญ่มาแล้วจะพ้นเคราะห์ ที่ไหนได้เชื้อร้ายโควิด-19 กลับมาอาละวาดทั่วโลก ไม่ต่างจากยุคห่าลงปีระกา ในสมัยปลายรัชกาลที่ 3 ที่โรคอหิวาต์ระบาดหนัก ส่งผลให้คนตายหลายหมื่นคน คราวนั้นก็เป็นฝีมือของมฤตยูจรที่มาทับลัคนาดวงเมืองรอบแรก!!

คำถามยอดฮิตคือ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะหลุดพ้นจากวิกฤติโควิด–19 โหรดังฟันธงเปรี้ยงว่า โควิดมีแนวโน้มจะอยู่อย่างต่ำไปถึง 1 พ.ค.นี้ จึงค่อยๆเบาลง จนมีวัคซีนมาใช้หลังกันยายน แต่เตือนให้ระวังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ความรุนแรงในเรื่องอื่น

สัญญาณดีมาให้เห็นจาก “ดาวคู่โรคระบาดและดาวคู่ติดเชื้อ” เริ่มหยุดทำมุมร้ายต่อกัน คู่แรกคือ “พระราหูจรที่มิถุน” เล็งกับ “พฤหัสบดีจร ที่ธนู” เป็น “คู่โรคระบาด” มาตั้งแต่ 30 ต.ค.2562 ค่อยๆย้ายจากการเล็งกันตั้งแต่ 17 มี.ค.2563 เวลา 21.13 น. ส่งผลให้เห็นพัฒนาการด้านดี ในการรับมือโควิด-19 ทีละเล็กละน้อย ตามองศาดาวที่แยกห่างจากกัน

...

ขณะที่อีกหนึ่ง “ดาวคู่ติดเชื้อ” โหมกระพือคือ “พระอังคารจรที่ธนู” จะหยุดเล็ง กับ “พระราหูจรที่มิถุน” ตั้งแต่ 22 มี.ค.2563 เวลา 16.10 น.เป็นต้นไป จึงคาดว่าจะได้เห็นสถานการณ์ติดเชื้อรายใหม่ค่อยๆ พัฒนาการดีขึ้นทีละน้อย ประจวบเหมาะกับ “ดาวคู่วิจัยทางการแพทย์” คือ “พระอังคารจรร่วมพฤหัสบดีจรที่มังกร” ตั้งแต่ 22 มี.ค.-1 พ.ค.2563 ทำให้มีเกณฑ์ค้นพบผลงานวิจัยใหม่ๆชวนตะลึง

เมื่อลงล็อกอย่างนี้แล้ว มีแนวโน้มที่โลกและเมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตเมษเหมือนกัน จะค่อยๆ เข้มแข็งขึ้นตั้งแต่ 22 มี.ค. ถึง 1 พ.ค.2563 โดยช่วงวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป เป็นระยะที่ “พระราหู” ตัวแทนจีนเป็นศรีจร เป็นไปได้ว่าจีนคงให้ประโยชน์กับไทยและโลกมาก และให้จับตา 1 พ.ค.-16 มิ.ย.นี้ “พระอังคารจรที่มังกร” จะแยกจากศัตรูเก่า “พระเสาร์จร” ส่งผลให้ความเจ็บป่วยทรมานค่อยๆลดลง

ย้อนรอยเกณฑ์โรคระบาดใหญ่ทางโหร “แม่หมอสมัครเล่น” เห็นเค้าลางร้ายอะไรบ้างถึงกล้าเตือนภัยตั้งแต่ไก่โห่ จนถูกทักท้วงว่ามโนไปไกล

เกณฑ์ร้ายแรกคือ “มฤตยูจร” เจ้าของภัยอาเพศ–ภัยพิบัติใหญ่ที่เกิดขึ้นไม่คาดฝัน มาทับลัคนาดวงเมืองและโลก ตั้งแต่เดือน มี.ค.2559 ถึง ก.ค.2565 คอยอยู่เป็นลางภัยอาเพศ โดยเมื่อกลับไปค้นประวัติศาสตร์พบว่าในอดีตที่เมืองรัตนโกสินทร์เคยเจอมฤตยูจรทับลัคนาดวงเมืองในรอบแรก ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 3 เกิดเหตุการณ์โรคอหิวาต์ระบาดหนักเช่นกัน โดยเกิดที่ปีนังก่อน แล้วระบาดมากรุงเทพฯ เรียกกันว่า “ห่าลงปีระกา” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 40,000 คน จนเกิดตำนาน “แร้งวัดสระเกศ” กินซากศพที่กองพะเนิน และคราวนั้นยังสูญเสีย “เจ้าพระยาบดินทรเดชา” (สิงห์ สิงหเสนี) เพราะอหิวาต์ด้วย

...

เกณฑ์ร้ายซ้ำสองรอบนี้ ตั้งเค้าลางตั้งแต่ 30 ต.ค.2562 เมื่อ “พระราหูจร” เล็งกับ “พระพฤหัสบดีจร” ตามหลักที่ “อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร” ให้ไว้ว่า ดาวคู่นี้เป็น “คู่โรคระบาด” ซึ่งคาดว่าการติดเชื้อโควิด-19 น่าจะเริ่มระยะนี้ โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ย.2562 จีนค้นเจอผู้ป่วยรายที่หนึ่งที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นชาวหูเป่ย อายุ 55 ปี เพียงแต่ยังหาต้นตอคือผู้ติดเชื้อหมายเลขศูนย์ที่ติดเชื้อก่อนหน้านั้นไม่พบ

ซ้ำด้วยเกณฑ์ที่สามทางโหรคือ “พระอังคารจรเข้าราศีพิจิก” ซึ่งเป็นภพมรณะ ดวงเมืองและโลก ระหว่าง 25 ธ.ค.2562 ถึง 8 ก.พ.2563 และทำมุมพิเศษถึง “พระราหูจร” เข้าตำรา “คู่โรคติดเชื้อ” อันเป็นระยะที่จีนเริ่มแจ้งองค์การอนามัยโลก (WHO) ขณะที่บางประเทศยังประเมินสถานการณ์ต่ำไป แต่ไทยเราโชคดีที่มีบุคลากรทางการแพทย์ชั้นยอด และระบบสาธารณสุขรองรับดี โดยกรมควบคุมโรคเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสจากจีน ตั้งแต่ 4 ม.ค.2563 ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศช่วงสิ้นเดือนมกราคม

ตอกย้ำความชัวร์ด้วยเกณฑ์ร้ายที่สี่ เริ่มตั้งแต่ 8 ก.พ.2563 เมื่อ “พระอังคารจรย้ายเข้า ราศีธนู” ทำมุมร้ายเล็งกับ “พระราหูจร” ประกบร่างเป็น “คู่โรคติดเชื้อไวไฟ” คราวนี้ก็ไม่มีใครเบรกโควิด-19 อยู่แล้ว เดือดร้อนระเบิดเถิดเทิงไปทั่วโลก

ถึงแม้ทำนายว่า วันที่ 1 พ.ค.นี้ วิกฤติโควิด–19 จะดูดีขึ้น แต่ก็มีพายุลูกใหม่ตั้งเค้ามาอีกระลอก โชคดีที่อาจไม่หนักเท่าเก่า เพราะได้บุคลากรทางการแพทย์เข้มแข็ง บ่งชี้จาก “พฤหัสบดีมนตรีจร” สามารถเป็นที่พึ่งของเมืองได้

“ระหว่าง 17 ก.ค.-10 ก.ย.2563 แม้ “ดาวคู่โรคระบาด” จะกลับมาเล็งกันอีกรอบ แต่เมื่อดูดวงเมืองแล้วคาดว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้มแข็งของไทย จะได้ทบทวนวิธีรักษา และรับมือกับโควิด-19 พร้อมประกาศศักดาถึงผลงานไปทั่ว ประเทศไทยจะรอดได้เพราะบุคลากรทางการแพทย์ช่วย คาดว่าปลายปีหลังกันยายนนี้จะมีวัคซีนออกมาใช้ แต่อย่าลืม “มฤตยูจร” ยังอยู่ยาวไปถึงกรกฎาคม 2565 พร้อมสร้างสถานการณ์ชวนตาค้างตลอดเวลา โดยเฉพาะปลายปีนี้อาจต้องระวังภัยทางทะเล หรือภัยทางน้ำเพิ่มอีกทาง”

...

พอถามถึงเศรษฐกิจจะทรุดหนักขนาดไหน หลังถูกฟาดงวงด้วยโควิด–19 โหรดังให้มา 3 คำคือ ระวังเรื่องหนี้–ถูกหลอก–โกงเอิกเกริก

“อีกสองปรากฏการณ์ “จันทร์ล่าราหูจร” และ “ราหูค้นทรัพย์” ในดวงเมือง จะเผยโฉมให้เห็นชัดตั้งแต่ 10 ก.ย.2563 ยาวถึง 29 มี.ค. 2565 อาจส่งผลให้ประชาชนก่อหนี้สินด้วยความประมาท เพราะความโลภ อยากได้ หรือเก็งกำไร ตามตำราว่าพระราหูกับพระจันทร์เป็นคู่คะนองหนี้ เมื่อตีความจากปรากฏการณ์ “จันทร์ล่าราหู” บ่งชี้ว่า “พระจันทร์” คือ “ตัวแทนประชาชน” จะคะนองหนี้เพราะความอยากได้ เกิดการเก็งกำไรอุตลุด หรือไม่ ก็ถูกคนชั่วหลอกลวงเอาผลประโยชน์เข้าล่ออย่างเอิกเกริกไม่น่าเชื่อ ซ้ำเติมด้วยดวงเมืองแตกเกิดปรากฏการณ์ “ราหูค้นทรัพย์” เป็นผลมาจาก “พระราหูจรเข้าไปอยู่ในราศีพฤษภ” ดินแดนการเงินการทำมาหากิน ของประเทศ เมืองรัตนโกสินทร์จะอ่วมหนักเกิดสิ่งไม่พึงประสงค์เรื่องการเงิน และเศรษฐกิจของประเทศ เพียงแต่ระยะแรกอาการไม่ออก เพราะช่วงครบรอบวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย.2563 ถึง 21 เม.ย.2564 เป็นระยะที่ “พระราหูเป็นศรี” กับดวงเมือง โหมให้เกิดความโลภความเสี่ยง, เก็งกำไรอุตลุด, คิดถึงแต่ทางได้ไม่คิดถึงทางเสีย และมุทะลุคล้ายมีอะไรมาบังตา จึงขอเตือนไม่ควรก่อหนี้ไม่ควรเล่นแชร์ หรือลงทุนแบบสุ่มเสี่ยง เพราะหลังจากนั้นตั้งแต่ 21 เม.ย.2564 ถึง 29 มี.ค.2565 เป็นระยะที่ “พระราหูยุติการเป็นศรีจร” มีแนวโน้มที่ปัญหาหนี้ และการหลอกลวงฉ้อโกงในบ้านเมือง จะทวีความรุนแรงขึ้น”

สถานการณ์ทางการเมืองจะพลิกล็อกถล่มทลายขนาดไหน และอนาคตของรัฐบาลจะรุ่งหรือร่วง มีคำตอบร้อนๆ จากแม่หมอสมัครเล่น

“ใครเป็นรัฐบาลช่วงนี้ ถึงมีนาคม 2566 มีภาระหนักมากที่จะต้องพาประเทศชาติเดินหน้าไปให้ได้ ทั้งผลจากสงครามการค้า, รับภาระการลงทุนขนาดใหญ่ และการขยายเมือง ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างหนี้มหาศาล ส่วนฝ่ายค้านก็ดวงตกทำอะไรไม่ขึ้น ถามถึง นายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ช่วงที่ต้องระมัดระวังพิเศษคือ 17 ก.ค.-13 พ.ย.2563 ต้องแบกภาระหนักคนเดียว, สู้แทบถอดใจ, อึดอัดใจ ให้ระวังการพลัดพรากสูญเสีย และทรยศหักหลัง แต่หากพ้นช่วงนี้ได้จะมีบางอย่างเกิดขึ้นไม่คาดคิด ที่หนุนให้เข้มแข็งขึ้น”

งานนี้ โหรดังยังเตือน “กองทัพและทหาร โดยเฉพาะทหารบก” ถึงคราวต้องอยู่อย่างอาภัพ อยู่แบบไร้แสงถึงจะถูกโฉลก อย่าอยู่แบบซ่า เพราะ “พระอังคารกำลังเป็นกาลกิณีจร” ตรงข้ามกับ “ตำรวจ” ช่วงวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย.2563 ถึง 21 เม.ย.2564 “พระราหู” ให้คุณเต็มที่ เป็นจังหวะดีมากในการปฏิรูปตำรวจ จะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นกับวงการสีกากี

โหรดังทิ้งท้ายให้ขนลุกซู่ว่า จบโควิด–19 ก็ยังมีศึกใหม่ให้รับมือต่อ จับตาเดือน ก.ค.2565 ถึง ก.ค.2572 รอพบ “มฤตยูจร” เขย่าเศรษฐกิจของเมืองและโลกเป็นระลอก คาดจะเกิดสงครามเศรษฐกิจ ร้อนฉ่าแน่!! เหมือนคราวชาติตะวันตกล่าเมืองขึ้น และจีนต้องเสียเกาะฮ่องกง เป็นหนังตัวอย่างในอดีต...ห้ามกะพริบตาเด็ดขาด.

ทีมข่าวหน้าสตรี