บทก่อนต้นเมษายน 2563 เคยเขียนเรื่อง ‘โควิด-19 ในเด็ก’ ลงบทความหมอดื้อ และได้ข้อสรุปว่าเด็กไม่ได้ติดง่ายกว่าผู้ใหญ่ ป่วยไม่หนักเท่า ตายก็น่าจะน้อยกว่า
หลังจากนั้นการติดเชื้อทั่วโลกก็แย่ลงเรื่อยๆ มีข้อมูลในเด็กมากขึ้น จึงได้พบว่าโควิด-19 อาจทำให้เกิดการกระตุ้นโรคร้ายในเด็กซึ่งปกติเป็นโรคหายาก ก่อนที่จะตื่นกังวล ข้อสรุปที่กล่าวเมื่อต้นยังคงคล้ายเดิม แต่บทนี้เพียงมาบอกกล่าวถึงอันตรายแฝงของโรคนี้ในเด็ก
นำมาจากรายงานวารสารแลนเซทลงตีพิมพ์ในส่วน correspondence วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ชื่อหัวข้อ Hyperin-flammatory shock in children during COVID-19 pandemic หรือการอักเสบโคตรรุนแรงในเด็กช่วงโควิด-19 ระบาด เป็นรายงานเคสที่พบในประเทศอังกฤษ (case series)
หลังจากแผนกเด็กวิกฤติโรงพยาบาลเอวีลินา เมืองลอนดอน พบเด็กอายุ 4-14 ปีก่อนหน้านี้แข็งแรงดี จำนวน 8 รายป่วยหนัก ในระยะเวลาแค่ 10 วัน ช่วงกลางเดือนเมษายน โดยอาการที่มานั้นประกอบไปด้วยไข้ อาการทางผิวหนังเช่นผื่น เยื่อหุ้มตาอักเสบ ปลายมือ ปลายเท้าบวมเจ็บ นอกจากนั้นยังมีท้องเสียอาเจียนและปวดท้องอีกด้วย ผลการตรวจเลือดพบค่าบ่งบอกการอักเสบเลือดผิดปกติเช่น CRP, pro-calcitonin, ferritin, triglycerides และ d-dimers สูงลิบลิ่ว ที่หมอเค้าพบนั้นล้วนเป็นลักษณะของโรค คาวาซากิ

...
ที่เรารู้จักกันดีและไม่ได้พบบ่อยนักประมาณ 1 ใน 5,000 คน ตัวโรคคาวาซากิเชื่อว่าเกิดจากการแพ้ภูมิตัวเองที่ถูกกระตุ้นการติดเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่ง จากนั้นภูมิคุ้มกันแปรปรวนจึงโจมตีเส้นเลือดแดงขนาดกลางรวมถึงเส้นเลือดหัวใจ ผลคือความเสี่ยงเส้นเลือดหัวใจพองและแตก ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
การวินิจฉัยโรคนี้เป็นการวินิจฉัยทางคลินิก โดยมีไข้ 5 วันร่วมกับอาการทางผิวหนัง เยื่อหุ้มตาทั้งสองข้างอักเสบ เยื่อหุ้มปากอักเสบ ปลายมือ ปลายเท้าลอก บวมเจ็บ ต่อมน้ำเหลืองโตมาก
การตรวจเลือดไม่สามารถวินิจฉัยได้แต่ช่วยเป็นเบาะแสได้ในกรณีที่อาการที่กล่าวไม่ถึงเกณฑ์ โรคนี้พบเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนไปจนถึง 20 กว่าปี แต่จะพบบ่อยในอายุ 1-4 ขวบ และการรักษานั้นให้ใช้สารสกัดน้ำเหลืองและแอสไพรินขนาดสูงเป็นการรักษาหลัก ร่วมกับการสแกนเอคโคหัวใจเพื่อรักษากรณีมีเส้นเลือดผิดปกติ
กลับมาที่อังกฤษ กลุ่มกุมารแพทย์ คิดว่าการอักเสบรุนแรงในเด็กที่พบมีลักษณะ คล้ายคลึงกับโรคคาวาซากิ จึงได้ให้การรักษา ด้วยสารสกัดน้ำเหลือง ขนาด 2g/kg ให้แอสไพรินและยาฆ่าเชื้อโรค
การสแกนหัวใจทุกคนล้วนพบปัญหาหัวใจ เช่น การบีบหัวใจผิดปกติ หรือมีน้ำคั่ง ในเยื่อหุ้มหัวใจ

ส่วนปอดนั้นไม่พบว่ามีความผิดปกติ การติดตามระหว่างการรักษาพบว่าเด็กทุกคนมีภาวะช็อก จำต้องให้สารน้ำ ให้ยาบีบเส้นเลือด (noradrenaline) และยาช่วยประคองการบีบของหัวใจ (milrinone)
เพื่อรักษาความดัน เด็กเกือบทุกคนต้องสอดท่อและใช้เครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยประคองอาการ ด้วยความรวดเร็วและเชี่ยวชาญ
เด็กเกือบทุกคนสามารถออกจากวอร์ดวิกฤติได้ภายใน 4-6 วัน ยกเว้น 1 คนที่หัวใจเต้นผิดปกติ ล้มเหลว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทุกคนที่เหลือได้รับการสแกนหัวใจต่อเนื่อง ซึ่งก็พบว่า 1 ในนั้นมีเส้นเลือดหัวใจโป่งพองเสี่ยงต่อการแตกก็ได้รับการรักษาต่อไป
คำถามคือเกิดขึ้นมาจากอะไร โรคคาวาซากิน่าจะเกิดจากการ กระตุ้นของการติดเชื้อ ที่อังกฤษขณะนี้ติดเชื้อไปกว่า 200,000 คน เสียชีวิตมากกว่า 30,000 คน ทีมแพทย์จึงสงสัยว่าเด็กเหล่านี้คงไม่พ้นเคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนและก็เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ รุนแรง

เมื่อซักประวัติก็พบว่าเด็ก 4 ใน 8 คนนั้นครอบครัวมีประวัติสัมผัสกับไวรัสจริง ในระยะแรกตรวจหาไวรัสไม่เจอ เมื่อตรวจในระบบทางเดินหายใจหรือแม้กระทั่งน้ำล้างปอด แต่หลังจากตรวจซ้ำพบมีเชื้อใน 2 คน หนึ่งในนั้นคือเด็กที่เสียชีวิต เด็กที่เหลือคาดว่าเคยติดมาก่อน เพราะประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19
...
รวมทั้งในระยะหลังมีการตรวจพบหลักฐานของการติดเชื้อโดยการตรวจแอนติบอดี เป็นการยืนยันว่านี่เป็นการแสดงอาการของโควิด-19 ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ปัญหาคือการแสดงอาการของโควิด-19 แบบนี้มันเยอะแค่ไหนเพราะเด็กป่วยหนัก หลังจากกลุ่มกุมารแพทย์กลุ่มเดิมได้ส่งบทความไปแล้ว อีกเพียง 7 วันเขาพบเคสแบบเดียวกันเพิ่มมากขึ้นอีกถึง 20 เคส ไม่ใช่แค่ที่อังกฤษที่ประเทศอเมริกาก็ไม่แพ้กัน มีเด็กอายุระหว่าง 2-15 ปีเป็นอาการแบบเดียวกันหลังพบติดเชื้อโควิด-19 ประมาณ 2-3 สัปดาห์ และเสียชีวิต ไปแล้ว 3 ราย

สื่อที่อเมริกาได้ตั้งชื่อมันว่า pediatric multisysteminflammatory syndrome หรือการอักเสบรุนแรงที่กระทบต่อการทำงานของอวัยวะหลายส่วนของร่างกาย
คนไทยอย่าประมาทเพราะครั้งหน้าอาจไม่ดีเหมือนครั้งนี้ ด้วยความเป็นห่วงครับ.
หมอดื้อ