นรพล ศิริทรัพย์ หนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ได้นำความรู้เข้ามาช่วยงานจิตอาสา และพร้อมที่จะสานต่องานการกุศลที่บรรพบุรุษก่อตั้งขึ้นด้วยความภาคภูมิใจคุณบูม นรพล ศิริทรัพย์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ซึมซับงานจิตอาสามาตั้งแต่เด็ก โดยเล่าว่า คุณตา (สมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง) เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งปัจจุบันคุณยาย-รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง เป็นประธาน มูลนิธิคนปัจจุบัน และคุณแม่-สกาวรัตน์ สมสกุลรุ่งเรือง เป็นเลขาธิการมูลนิธิฯ บูมได้เข้ามาช่วยเป็นหน่วยประชาสัมพันธ์ด้านต่างประเทศ หลังจากที่จบคณะวิศวกรรมการบินและนักบินพาณิชย์ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยเจ้าคุณทหารลาดกระบัง “ผมเหมือนอยู่ในมูลนิธิฯ มาโดยตลอดเลยล่ะครับ ตั้งแต่เด็กก็มีไปแจกของน้ำท่วมหรือแจกของให้กับผู้ยากไร้มาตั้งแต่เด็กเลยครับ ส่วนพอโตก็เริ่มมาทําทางด้านกู้ชีพกู้ภัยมากขึ้น ไปออกเวร ไปช่วยคนเจ็บ เก็บศพคนตาย ซึ่งผมไม่กลัว เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กครับ แล้วมองว่าเราไปช่วยเขามากกว่า ไม่ได้แบบเข้าไปลบหลู่ สำหรับในหน้าที่ของประชาสัมพันธ์ คือเข้าไปช่วยเหลือในการทํางานร่วมกันระหว่างทีมไทยกับทีมต่างชาติ อย่างกรณีตึก สตง.ถล่ม ผมก็เข้าไปตั้งแต่วันแรกเลยครับ และได้ช่วยประสานงานกับทีมต่างชาติ การทำงานจิตอาสา ผมมองว่าเป็นงานที่หลายๆคนอาจจะมองว่ามันไกลตัวหรือว่าไม่กล้า แต่พอทำแล้วจะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ถึงบางคนอาจจะไม่ได้มีความสามารถในทางด้านกู้ภัย แต่ก็เอาสิ่งที่ตัวเองถนัดเนี่ยเข้ามาช่วยเหลือได้ มันก็เป็นประโยชน์ได้เยอะเลยครับ” และนอกเหนือจากการใช้ความรู้มาช่วยงานจิตอาสาแล้ว หนุ่มคนนี้ยังทำธุรกิจของตัวเองทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ในชื่อ S.S. Crown Development ที่กำลังทำโปรเจกต์ที่จังหวัดภูเก็ต และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ร้าน Philter Room ที่ถนนบรรทัดทองเมื่อชีวิตมีสองภาค คุญบูมบอกว่า สนุกกับการทำงานทั้งสองอย่าง!“สําหรับผมงานจิตอาสาที่ช่วยเหลือคนอื่น ผมไม่ได้มองว่าเป็นงาน ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยแต่กลับรู้สึกว่า เราได้พักผ่อนจิตใจเวลาที่เครียดกับงาน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านบาร์หรือทางด้านอสังหาฯมากกว่าครับ เราก็เอาเวลาที่ว่างมาช่วยคน ทําให้รู้สึกสบายใจขึ้นด้วยครับ ซึ่งในการทำงานส่วนใหญ่ผมอยู่กับคนที่โตกว่าผม คนที่มีความรู้ความสามารถที่เยอะกว่าผม ทําให้มุมมองในการทํางานกว้างขึ้น เราได้ รับฟังความคิดเห็นคนอื่น ก่อนที่เราจะตัดสินใจ หรือว่าจะทําอะไรครับ การทํางานร่วมกับคนที่เก่งกว่า ทำให้เราได้รับฟังจากหลายมุมมอง ซึ่งผมเองก็ชอบที่จะเติมความรู้และเรียนรู้ในหลายๆเรื่อง”...มุมมองการทำงานของหนุ่มวัย 23 ปีคนนี้.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่