นิทานศรีธนญชัย...ที่เล่าขานกันทั่วอุษาคเนย์ ออกมาในท่วงทำนองเดียวกัน คือ “ลิงหลอกเจ้า”แต่นิทาน ที่ผมอ่านจากหนังสือ เรื่องคมๆความหมายชวนคิด (สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์อินสไปร์ พ.ศ.2553) กลับหัวกลับหาง กลายเป็นเรื่องเจ้าหลอกลิงลองอ่านกันดูครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมู่บ้านหนึ่งอยู่ห่างจากบ้านเจ้าเมืองร้อยลี้ หมู่บ้านนี้มีบ่อน้ำใสสะอาด รสชาติอร่อย เจ้าเมืองจึงออกคำสั่ง ให้ชาวบ้านมีหน้าที่ ผลัดกันหาบน้ำไปให้ทุกวันแรกๆ ชาวบ้านก็ดูจะมีเรี่ยวแรงแข็งขัน ขยันผลัดกันหาบน้ำไปส่ง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปนานๆ ไปเจอสถานการณ์ คิวหาบน้ำสะดุด เพราะบ้านนั้นขาดคน...หลายๆครั้งเข้าชาวบ้านหลายคน ก็เริ่มถอดใจ...มองๆหน้ากัน แล้วซุบซิบว่า จะหาวิธีหนีไปอยู่บ้านเมืองอื่นความลับไม่เคยมีในโลก เมื่อเรื่องนี้ไปเข้าหูข้าราชการในจวน พวกเขาภักดีเจ้าเมืองคนนี้มาก จึงร้อนใจ รีบไปรายงาน ปรึกษาหารือกันอยู่หลายวิธี...ท่านเจ้าเมืองก็เลือกวิธีทำพิธีร่นระยะทางพิธีนี้ ไม่แน่ว่าเจ้าเมือง ร่ำเรียนมาจากพระอาจารย์คนไหน...แต่ทำกันเป็นกระบวนการจริงจัง ขึงขัง...เชิญสารพัดเทพยดาบนฟ้า สารพันสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนพื้นดินมาช่วยและแล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็พลันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผู้คนทุกฝ่าย ป้ายที่เคยบอกระยะทางร้อยลี้ก็เปลี่ยนเป็น 50 ลี้เสร็จพิธี ไม่นาน ท่านเจ้าเมืองก็แอบดูสิ่งที่ตามมา ชาวบ้านที่รู้สึกตามว่า ระยะทางจากจวนเจ้าเมืองถึงหมู่บ้าน หายไปครึ่งหนึ่ง ใจก็พลอยสบายขึ้นจริงๆคนที่คิดจะย้าย ก็เปลี่ยนใจไม่ย้าย คนที่ย้ายออกไปแล้ว ก็ย้ายกลับนับแต่วันทำพิธีร่นระยะทาง ชาวบ้านก็ยังคงหาบน้ำไปส่งจวนเจ้าเมืองทุกวัน ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหมดไป ความรู้สึกจงรักภักดีที่ทำท่าจะหายไป ก็คืนมาเหมือนเดิมเรื่องคมๆเรื่องนี้ มีคำอธิบายความหมายดีๆ ดังนี้คำพูดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระยะทางได้ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของคนต่อระยะทางได้เจ้าเมืองในเรื่องนี้ ใช้อำนาจและบารมีเป็นเครื่องมือเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของราษฎร สะท้อนภาวะผู้นำที่ต้องรีบคลี่คลายสถานการณ์คับขัน ไม่ให้ราษฎรอพยพหนีแม้ความจริงวิธีการ จะยังไม่สมบูรณ์ดีนัก แต่ก็ช่วยทำให้สถานการณ์ตึงเครียดคลี่คลายในเรื่องสามก๊ก ครั้งหนึ่งโจโฉเดินทัพทางไกล เกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ทหารเริ่มถอดใจจะหนีทัพโจโฉแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า ประกาศแก่เหล่าทหารว่า หนทางข้างหน้ามีป่าต้นบ๊วยและบ่อน้ำแม้ทหารทั้งกองทัพจะเคลือบแคลงสงสัย แต่ก็รู้สึกมีความหวังขึ้นบ้าง ทำให้ออกเดินทัพได้รวดเร็วขึ้นบทสรุปของความหมายดีของเรื่องนี้...คนที่ยังมีความหวัง แม้ในวินาทีสุดท้ายก็ยังมีรอยยิ้มแต่คนที่สิ้นหวัง แม้จะมีชีวิตอีกยาวนานเท่าไหร่ วันเวลาเหล่านั้นก็ปราศจากรอยยิ้มบ้านเมืองที่ผมรู้จัก คนจนมีความหวังจะได้เงินหมื่นใช้ คนมีหนี้มีความหวังจะถูกปลดหนี้ ข้าราชการมีความหวังกับเงินเดือนที่ขึ้น คนงานมีความหวังจะได้ขึ้นค่าแรง ฯลฯกระทั่ง คนเป็นนายกฯอยู่แล้ว มีความหวังจะได้นั่งเก้าอี้ครบสี่ปี และ...คนที่รอจ่อคิวก็มีความหวังว่าจะได้เป็นในเวลาเร็ววัน เฮ้อ! บ้านนี้เมืองนี้ หันหน้าไปทางไหน เจอแต่คนมีความหวังทุกคน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม