กาฬโรค (Black Death) เป็นคลื่นลูกแรกของการระบาดใหญ่เมื่อเกือบ 500 ปีในเวลาเพียง 8 ปี คือระหว่างปี พ.ศ.1889-1896 โรคกาฬมรณะนี้ก็คร่าชีวิตประชากรในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ได้มากถึง 60% ตามการประมาณการ อย่างไรก็ตาม โรคระบาดนี้มีต้นกำเนิดอย่างลึกลับ และนักวิทยา ศาสตร์ได้ใช้เวลาหลายร้อยปีถกเถียงถึงที่มาของกาฬโรคที่ทำลายล้างโลกในช่วงกลางศตวรรษที่ 14

เมื่อเร็วๆนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสเตอร์ลิงในสกอตแลนด์ และมหาวิทยาลัยทือบิงเงินในเยอรมนีเผยว่า พบเบาะแสที่น่าสนใจในงานวิจัยหลายฉบับที่บรรยายถึงสถานที่ฝังศพโบราณในพื้นที่ตอนเหนือของคีร์กีซสถาน รายงานระบุว่าการฝังศพเพิ่มสูงขึ้นในปี พ.ศ.1881-1882 และสุสานหลายแห่ง ระบุว่าผู้คนเหล่านั้นเสียชีวิตด้วยโรคระบาด ผู้เชี่ยวชาญเลยมุ่งไปที่การตรวจสอบสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอโบราณจากฟันของศพมนุษย์ 7 ซากที่ฝังอยู่ในหลุม เพราะฟันประกอบด้วยเส้นเลือดจำนวนมาก ทีมเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะตรวจหาเชื้อโรคที่เกิดจากเลือดและน่าจะทำให้เสียชีวิต ซึ่งทีมต้องสกัดและจัดลำดับดีเอ็นเอ แล้วก็นำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดหรือจีโนมของจุลินทรีย์หลายพันตัว โดยได้ดึงดีเอ็นเอของแบคทีเรียเยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia pestis) จากฟันของสตรี 3 คน ที่ถูกฝังอยู่ในเชิงเขาเทียนชาน (Tian Shan) ซึ่งเสียชีวิตในปี พ.ศ.1881-1882
...
ผลการตรวจสอบทำให้ทีมวิจัยสามารถระบุได้ว่ากาฬโรคเกิดขึ้นในเอเชียกลางในช่วงทศวรรษ 1330 ซึ่งข้อสรุปนี้น่าจะทำให้การถกเถียงอันยาวนานหลายศตวรรษยุติลงได้.
