ศตวรรษที่ 16 นับเป็นช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายปั่นป่วนในประวัติศาสตร์ของภูมิภาคที่เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรชินชา (Chincha) ตั้งแต่ปี พ.ศ.1543-1943 ก่อนที่พวกเขาจะเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรอินคา และในที่สุดก็รวมเข้าด้วยกัน ต่อมาพื้นที่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของเปรูได้รับความเสียหายจากการมาถึงของชาวยุโรป โรคระบาด ความอดอยากได้ทำลายล้างประชากรในท้องถิ่น ทำให้จำนวนประชากรลดลงมากกว่า 30,000 คนในปี พ.ศ.2076 จนเหลือแค่ 979 คนในปี พ.ศ.2126ล่าสุดทีมวิจัยนานาชาตินำโดยนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลียในอังกฤษ ซึ่งทำงานในหุบเขาชินชาที่เปรู รายงานการพบซากกระดูกสันหลังมนุษย์เกือบ 192 ชิ้นถูกเสียบทะลุผ่านแท่งไม้กก โดยพบในสุสานเก่าแก่ขนาดใหญ่ของชนพื้นเมืองที่เรียกกว่า “chullpas” โดยอยู่ในช่วงที่ชาวยุโรปเข้ามาสร้างอาณานิคมในถิ่นอเมริกาใต้ กระดูกสันหลังเหล่านี้นักโบราณคดี พบว่าในเกือบทุกชิ้นมาจากซากของคนเพียงคนเดียว และดูเหมือนว่าผู้ใหญ่รวมถึงเด็กๆ เยาวชนในชุมชนพื้นเมืองโบราณจะเป็นผู้ที่ได้รับเลือกสำหรับการปฏิบัติที่ไม่เหมือนใครนี้ นักโบราณคดี เผยว่า การปล้นตามสุสานของชนเผ่าพื้นเมืองนั้น แพร่ไปทั่วหุบเขาชินชาในยุคล่าอาณานิคมการวิเคราะห์บรรดากระดูกสันหลังที่เสียบไม้ไว้ แสดงให้เห็นว่าอาจทำขึ้นเพื่อบูรณะความเสียหายให้กับซากคนตายที่ถูกปล้นสดมภ์ของมีค่าไป นอกจากนี้ ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นว่ากระดูกสันหลังเสียบไม้ได้ชี้ถึงการตอบสนองโดยตรงและนี่คือพิธีกรรม ซึ่งชนพื้นเมืองใช้ซ่อมแซมฟื้นฟูซากคนตายในยุคล่าอาณานิคมจากยุโรป.