นักวิทยาศาสตร์พยายามแสวงหาความชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาของต้นกำเนิดสายพันธุ์มนุษย์ของเราในแอฟริกาตลอดมา จนกระทั่งการค้นพบซากโครงกระดูกมนุษย์ที่ชื่อ “โอโม 1” (Omo I) ประกอบด้วยกะโหลกศีรษะ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ กรามล่าง กระดูกสันหลังบางส่วน และบางส่วนของแขนและขา ถูกพบในพื้นที่การก่อตัวของแหล่งโบราณคดีแนวหิน Omo Kibish ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอธิโอเปีย เมื่อปี พ.ศ.2510 ถูกระบุว่าเป็นสายพันธุ์มนุษย์โฮโมเซเปียนส์ (Homo sapiens) โดยเชื่อว่ามีอายุไม่เกิน 200,000 ปีทว่าในรายงานการวิจัยใหม่ของทีมวิจัยนานาชาติ นำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ ที่ได้ประเมินอายุของ “โอโม 1” อีกครั้ง โดยรวบรวมตัวอย่างหินภูเขาไฟตามแหล่งสะสมของภูเขาไฟในเอธิโอเปีย ที่ตรงกับช่วงเวลาที่มนุษย์โฮโม เซเปียนส์ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งก็คือปลายสมัยไพลสโตซีนตอนกลาง ทีมเผยว่าต้องศึกษาสัญญาณทางเคมีของชั้นเถ้าภูเขาไฟที่อยู่ด้านบนและด้านล่างของตะกอนที่พบซากโครงกระดูก เนื่องจากการปะทุแต่ละครั้งของภูเขาไฟจะทิ้งร่องรอยเคมีไว้ ทีมได้บดให้หินเหล่านั้นมีขนาดเป็นมิลลิเมตร เพราะหินจะเผยให้เห็นแร่ธาตุที่อยู่ภายใน ซึ่งจะช่วยให้หาอายุพร้อมกับชี้ชัดถึงสัญญาณทางเคมีของหินภูเขาไฟที่ยึดแร่ธาตุไว้ด้วยกันทั้งนี้ ผลวิจัยใหม่บ่งชี้ว่า “โอโม 1” เป็นมนุษย์โฮโมเซเปียนส์ที่เก่าแก่ที่สุดและมีลักษณะของมนุษย์ยุคปัจจุบันที่ชัดเจนที่สุดในแอฟริกาตะวันออก โดยมีอายุเก่าแก่กว่าการระเบิดของภูเขาไฟขนาดมหึมาที่เกิดขึ้นเมื่อ 233,000 ปีที่แล้ว.