“ปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” มอบอาหารกล่องและเจลแอลกอฮอล์ ณ รพ.จุฬาลงกรณ์

อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม มอบอาหารกล่องและเจลแอลกอฮอล์ โครงการ “ปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” เพื่อส่งต่อบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมี ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ เป็นผู้แทนรับมอบ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย วันก่อน.

การร่วมมือกันในภาวะวิกฤติคือหนทางรอด หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน...วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์นิคเคอิ เนื่องในการประชุม International Conference on the Future of Asia (Nikkei Forum) ครั้งที่ 26 จัดโดย หนังสือพิมพ์นิคเคอิ ผ่านระบบทางไกล โดยย้ำถึงการบริหารสถานการณ์ภายในประเทศไทย ให้ผ่านพ้น วิกฤติไวรัสโควิด–19 ว่า ขณะนี้ไทยยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี ไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ด้วยระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง บุคลากรทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ดูแลประชาชนได้ทั่วถึง รัฐบาลได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค รวมทั้งเร่งฉีดวัคซีนให้ประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในสิ้นปี 2564 โดยจะฉีดวัคซีนให้คนต่างชาติในไทยด้วย และเมื่อเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มใหญ่ใน เดือน มิ.ย. ได้ตามแผน เชื่อสถานการณ์จะยิ่งดีขึ้น และจากมาตรการเศรษฐกิจ รวมถึงแผนวัคซีนรัฐบาลฉีดได้ตามเป้าหมาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ...ภาวนาขอให้สำเร็จตามเป้าหมาย ไม่งั้นทั้งพิษโควิดและพิษเศรษฐกิจปากท้อง คงทำคนไทยอ่วมทั้งประเทศ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกฯ ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบให้ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก โดยให้มีผลตั้งแต่ 1 มิ.ย.–31 ก.ค. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดมีความรุนแรงและขยายวงมากขึ้นหลายคลัสเตอร์ โดยเฉพาะล่าสุดพบการติดเชื้อ โควิดสายพันธุ์อินเดีย ที่แคมป์คนงานก่อสร้างหลักสี่ กทม. จำนวน 15 ราย

ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ค. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,481 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,518 ราย มาจากต่างประเทศ 12 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 123,066 ราย หายป่วยสะสม 79,504 ราย อยู่ระหว่าง รักษา 42,827 ราย อาการหนัก 1,248 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 408 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 735 ราย ขณะที่การแพร่ระบาดใน กทม. ระหว่างวันที่ 22 เม.ย.–20 พ.ค. พบการระบาดทั้งหมด 35 คลัสเตอร์ กระจายตัวอยู่ใน 23 เขต และที่ระบาดหนักอยู่ใจกลาง กทม. ได้แก่ คลองเตย ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก ป้อมปราบศัตรูพ่าย หลักสี่ ดินแดง และมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่แคมป์คนงานก่อสร้างเขตหลักสี่ โดยมี 15 ราย ที่ตรวจพบว่าเป็นการติดเชื้อ สายพันธุ์อินเดีย ขณะนี้นำตัวไปรักษาและส่งทีม สอบสวนโรคลงไปดูแลแล้ว...แค่ สายพันธุ์อังกฤษ ยังต้องแก้ปัญหากันหืดขึ้นคอ ถ้าปล่อยให้ สายพันธุ์อินเดีย แพร่ระบาดซ้ำ จะยิ่ง วังเวงไปกันใหญ่

อืม...หันมาที่การจัดคิวฉีดวัคซีนให้ประชาชนตามแผนวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ 7 มิ.ย.นี้ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจกแจงตอกย้ำว่า รัฐบาล มีแผนการกระจายวัคซีน 3 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.ระบบ หมอพร้อม ที่เปิดให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ลงทะเบียนไปแล้ว และจะเปิดให้ประชาชนอายุต่ำกว่า 60 ปี ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. นี้ ข้อดี คือ ประชาชนสามารถเลือกวันเวลาและสถานที่ฉีดได้เอง 2.การลงทะเบียน ณ จุดบริการ ที่มีระบบรองรับสามารถแจ้งประชาชนที่มาลงทะเบียนได้ว่ามีวัคซีนสนับสนุนเพียงพอที่จุดบริการในวันนั้นหรือไม่ หากพร้อมฉีด แต่วัคซีนไม่พอในวันนั้น ก็สามารถทำการลงทะเบียนเพื่อนัดฉีดในวันอื่นได้ โดยขอย้ำว่าช่องทางนี้เป็นบริการเสริม ที่ปรับจากการเรียกว่า วอล์กอิน เพราะคำนี้อาจเกิดความเข้าใจผิดว่าทุกคนที่เดินทางไปจะได้ฉีดในวันนั้น จนอาจเกิดปัญหาตามมา...ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทาง กทม. ได้จัดให้มีการกระจายจุดบริการวัคซีนทั่วพื้นที่ในโรงพยาบาล สถานพยาบาลและหน่วยงาน จำนวน 231 แห่ง นอกจากนี้ ได้เตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลอีก 25 แห่ง ขณะนี้ได้เปิดทดลองระบบแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว, สามย่านมิตรทาวน์, เดอะมอลล์ บางกะปิ และ บิ๊กซี บางบอน หากในแต่ละจุดที่บริการ มีวัคซีนเพียงพอในแต่ละวัน และมีวัคซีนสำรอง เนื่องจากมีคนที่นัดไว้แล้วแต่ไม่ได้มาฉีดตามนัด รัฐบาล ก็มีแผนเตรียมการเปิดการฉีดวัคซีน แบบวอล์กอิน ได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรง มีการระบาดในหลายคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ จึงเป็นสาเหตุให้ นายกรัฐมนตรี มีความจำเป็นต้องตัดสินใจปรับแผน เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยส่วนบริการหลัก ยังเป็นการลงทะเบียน ผ่านระบบหมอพร้อม และการวอล์กอินเป็นการบริการเสริมในช่วงนี้ 3.การจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเฉพาะ หรือการกระจายวัคซีนเชิงยุทธศาสตร์ เน้นจัดสรรวัคซีนไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มที่มีความจำเป็นพิเศษ หรือมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ อสม. ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ พนักงานด้านการบิน ครู อาจารย์ ผู้ขับขี่รถสาธารณะ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน พนักงานในโรงแรม คณะผู้แทนการทูต นักธุรกิจและนักเรียน นักศึกษาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ บุคลากรในโรงงาน เพื่อให้การใช้ชีวิตและเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่สะดุด โดยประชาชนกลุ่มนี้สามารถติดต่อนัดหมายผ่าน สถานพยาบาล หรือ อสม. ได้โดยตรง หากเป็น กลุ่มบุคคล หรือ สมาคม ที่มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วนสามารถยื่นเรื่องต่อ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาจัดสรรวัคซีนและจัดเตรียมสถานที่ฉีดต่อไป...โปรดรับทราบและพิจารณาเลือกช่องทางที่จะทำให้เข้าถึงวัคซีนให้เร็วที่สุด

สังคมทั่วไป...ศพ พล.ต.ท.ธรรมนิตย์ ปิตะนีละบุตร อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ตั้งสวดศาลา 5/1 วัดตรีทศเทพฯ 18.30 น. ถึง 28 พ.ค. พระราชทานเพลิง 29 พ.ค. 17.00 น.

“ธนูเทพ”