ปัจจุบันมีนก 10,000 ชนิดอาศัยอยู่ในแทบทุกถิ่นบนโลก แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่มีการปรับตัวให้ล่าเหยื่อที่เคลื่อนไหวว่องไวได้ในยามค่ำคืน ทว่าสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สงสัยมานานก็คือไดโนเสาร์เธอโรพอด (Theropod) ที่ได้วิวัฒนาการก่อเกิดเป็นนกยุคปัจจุบัน มีการปรับตัวทางประสาทสัมผัสที่คล้ายกันกับนกหรือไม่การศึกษาของทีมวิจัยนำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิตวอเตอร์สแรนด์ ในโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ เผยว่าหลังใช้การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์วัดรายละเอียดและรวบรวมข้อมูลของขนาดดวงตาและหูชั้นในของนกที่มีชีวิตเกือบ 100 ชนิดกับซากฟอสซิลไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยวัดการได้ยินจากความยาวของลาจีนา ซึ่งเป็นอวัยวะที่ประมวลผลข้อมูลเสียงที่เข้ามา พบว่านกแสกสามารถล่าเหยื่อในความมืดสนิทโดยใช้การได้ยินเพียงอย่างเดียว เพราะมีลาจีนาที่ยาวที่สุดเมื่อเทียบกับนกทุกชนิด ส่วนการประเมินการมองเห็น ทีมดูที่วงเปลือกลูกตาที่มีลักษณะแบบเดียวกับเลนส์กล้อง ยิ่งรูม่านตาเปิดได้กว้างแสงก็ยิ่งเข้าได้มากขึ้นทำให้มองเห็นได้ดีในช่วงกลางคืน การวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของวงเปลือกลูกตาก็จะบอกได้ว่าดวงตารวบรวมแสงได้มากเพียงใด ทีมพบว่าเธอโรพอด อย่างไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus) และโดรมีออซอรัส (Dromaeosaurus) มีการมองเห็นที่เหมาะสำหรับช่วงกลางวันและการได้ยินที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยน่าจะช่วยในการล่าเหยื่อได้ แต่เธอโรพอด ขนาดเล็ก “ชูวูยา” (Shuvuuia) ที่อยู่ในวงศ์อัลวาเรสซอร์ (Alvarezsaurs) มีทั้งการได้ยินและการมองเห็นในเวลากลางคืนที่ไม่ธรรมดา มันมีลาจีนาขนาดใหญ่เกือบจะเท่ากับของนกแสกในปัจจุบัน นั่นบ่งชี้ว่าไดโนเสาร์ตัวเท่าไก่อย่าง “ชูวูยา” ที่เคยอาศัยอยู่ในทะเลทรายมองโกเลียในยุคโบราณสามารถล่าเหยื่อได้ในความมืดมิด.