เมื่อครั้งยังเด็ก ผู้เขียนมีเพื่อนคนหนึ่งที่บ้านเขาเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต ซึ่งเวลาได้ไปนอนค้างทีไรก็ไม่ต่างกับการไปเที่ยวสวนสนุก มีเครื่องเกมมากมายให้เลือกสรร

มานั่งนึกดูเหตุการณ์นี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่นชอบเกมมาจนถึงปัจจุบันก็เป็นได้ โดยเฉพาะเกมเกมหนึ่งที่นั่งผลัดกันเล่นข้ามคืน เป็นเกมที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร (ในขณะนั้น) เพราะคนเล่นจะไม่เห็นตัวละครของตัวเอง เห็นเพียงแค่ปืนหนึ่งกระบอก ซึ่งในเวลาต่อมารูปแบบการเล่นนี้ถูกเรียกว่า มุมมองบุคคลที่หนึ่ง

สมัยนั้นยังไม่ปึ้กภาษาอังกฤษเท่าไรนัก ทราบเพียงว่าเกมมีชื่อเรียกว่า “ดูม” (Doom) พระเอกเป็นทหาร มีอาวุธ 7 อย่างคือสนับมือ ปืนพก ปืนลูกซอง ปืนกล แกตลิง เครื่องยิงจรวด ปืนพลังงานพลาสมา และปืนยิงลูกพลังงานสีเขียวที่จะทำให้ศัตรูตายทั้งจอ เรียกว่า BFG-9000 ซึ่งทราบในภายหลังว่าย่อมาจากคำง่ายๆว่า Big Fuck-ing Gun หรือโคตรปืนนั่นเอง

ช่วงที่เริ่มเล่น ในขณะนั้น เกมมีอยู่ 2 ภาคคือดูม และดูม 2 นรกบนดิน (Doom II : Hell On Earth) สิ่งที่รู้ว่าต่างกันคือ ภาคสองมีอาวุธเพิ่มขึ้นคือปืนลูกซองแฝด และเลื่อยยนต์ไว้หั่นปิศาจเวลากระสุนหมด กับบอสปิศาจสุดโหดที่ยิงจรวดใส่เรารัวๆ หลบไม่ทันซีม่องเท่งสถานเดียว

...

แต่เมื่อโตมาก็พบความเป็นจริงว่า เกมที่ดูไม่มีอะไรมาก กลับมีประวัติและเรื่อง ราวที่น่าสนใจ ผลิตและวางจำหน่ายโดยบริษัท “ไอดีซอฟต์แวร์” ในสหรัฐฯของนักเขียนโปรแกรมนามว่าจอห์น คาร์แมค จอห์น โรเมโร และ ทอม ฮอลล์ ในปี 2536 ซึ่งพล็อตมีอยู่ว่า อนาคตอันใกล้ มนุษยชาติประสบความสำเร็จในการตั้งอาณา นิคมบนดวงจันทร์และดาวอังคาร ภายใต้การดูแลของกลุ่มทุนระดับโลก ยูเอซี (Union Aerospace Corporation)

อย่างไรก็ตาม การทดสอบเปิดประตูมิติระหว่างดาว เพื่อย่นเวลาการเดินทางได้ส่งผลอันไม่คาดฝัน เกิดการเชื่อมต่อกับมิติของเหล่าอสุรกาย ที่ทะลักหลั่งไหลออกมาฆ่าล้างเจ้าหน้าที่จนหมดฐาน เหลือเพียงพระเอกของเรา นาวิกโยธินจากโลก ที่ถูกส่งมาประจำการบนดวงจันทร์ที่ห่างไกลหลังกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา

ขณะที่ภาค 2 ในปี 2537 เป็นเนื้อเรื่องต่อมาว่า ระหว่างที่เรากำลังเสียเวลาแก้ปัญหาบนดาวอาณานิคม กองทัพอสุรกายก็ได้ทำการรุกรานโลกไปเสียแล้ว แต่ทำผิดพลาดมหันต์ อยู่อย่างหนึ่ง คือดันไปฆ่ากระต่ายสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานามว่า เดซี จึงถูกล้างแค้นจนราพณาสูร เอากับเขาสิ

จากความ สำเร็จจนโด่งดังไปทั่วโลกได้ทำให้เกม ถูกผลิตออกมาเป็นสายพาน มีภาคเสริมและภาคต่ออย่างไฟนอล ดูม (Final Doom) และดูม 64 (Doom 64) ซึ่งนาวิกฯสุดเทพรายนี้ ได้ตัดสินใจบุกเข้าไปในมิติอสุรกายแบบไปแล้วไปลับ เพื่อยับยั้งการรุกรานของเหล่าปิศาจไปตลอดกาล

กระทั่งทศวรรษ ต่อมาหรือปี 2547 บริษัทไอดีซอฟต์แวร์ได้นำเกมกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ภายใต้ชื่อดูม 3 (Doom 3) หลังเทคโนโลยีกราฟิกเริ่มก้าวไกล แต่เปลี่ยนรูปสไตล์การนำเสนอเป็นแนวสยองขวัญ พระเอกเป็นทหารธรรมดาๆที่ต้องเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาดต่างมิติในฐานทัพดาวอังคารที่พังทลายและมีแต่ความมืดมิด สิ่งที่พึ่งพาได้มีเพียงปืนกระสุนจำกัดและไฟฉายแบตเสื่อมหนึ่งกระบอก

...

แม้ทีมผู้ก่อตั้งจะกระจัดกระจายไปหมดแล้ว แต่ทางบริษัทก็ยังคงคอนเซปต์อันน่าชื่นชมในยุคอินเตอร์เน็ตกาก นั่นคือเกมไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ไม่วางจำหน่าย เลยทำให้เกมต่างๆที่ถูกสร้างใช้เวลาพอสมควร ประกอบกับความพยายามในการสร้างเกมใหม่อื่นๆ ดูมจึงดูเหมือนจะถูกนำขึ้นหิ้ง ทิ้งไว้เป็นถ้วยรางวัลแห่งเกียรติยศ

แต่หลังจาก 12 ปีผ่านไป เกมแอ็กชันยิงไม่เลี้ยงรายนี้ก็ได้กลับมาปรากฏโฉมอีกครั้ง ด้วยชื่อดูม หรือเรียกกันในวงการว่า ดูม 2016 (Doom 2016) เพื่อไม่ให้สับสนกับภาคเก่า พร้อมยกระดับความเมามันดุเดือด ด้วยการให้พระเอกของเราสามารถยิงปิศาจจนใกล้ตาย แล้วปิดฉากด้วยการกดปุ่มฆ่าด้วยมือเปล่า ดึงลูกตา กระชากลิ้น หักกระดูก แหวกกะโหลก อะไรก็ว่าไป

โดยเป็นเนื้อเรื่องที่ดูเหมือนจะต่อจากภาคปี 2537 นาวิกโยธินหัวเห็ด ซึ่งตอนนี้มีชื่อแล้วว่า “ดูม สเลเยอร์” (Doom Slayer) ได้ถูกเหล่าปิศาจจับปิดผนึกไว้ในโลงหิน (อารมณ์จับผีขังไห) ที่โลกอสุรกาย เนื่องจากเราเก่งเกินไปฆ่าไม่ตาย แต่สุดท้ายทีมนักวิทยาศาสตร์กลุ่มทุนยูเอซีเจ้าเก่าได้ไปพาออกมา และขอความร่วมมือในการปราบปิศาจอีกครั้ง หลังจากทำการวิจัยพลังงานรูปแบบใหม่ที่ดึงมาจากมิติอสูร แต่ผลคือฉิบหายอีกแล้ว

...

ตามด้วยภาคล่าสุดที่เพิ่งวางจำหน่ายไปสดๆร้อนๆ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2563 ชื่อว่าดูม อีเทอร์นัล (Doom Eternal) ที่บู๊ล้างผลาญยิ่งกว่าเดิม (ศัตรูโผล่เต็มฉาก) โลกถูกรุกรานจนประชากรแทบจะสูญพันธุ์ และก็เป็นเราที่จะมาช่วยกอบกู้ ไล่ล่ากระทืบเหล่าอสุรกายให้จมดิน

บทตำนานเกม 27 ปีจากสหรัฐฯเจ้านี้มีจำหน่ายให้โหลดโดยตรงจากออนไลน์ทุกภาค แถมมีการลดราคาเยียวยาสถานการณ์ไวรัสหยุดโลกด้วยเช่นกัน หากใครติดอยู่กับบ้านจากมาตรการสกัดกั้นเชื้อ ก็ลองไปหามาระบายอารมณ์กันได้ครับผม รับรองว่าสะใจ.

...

พจน์ พลวัต