หลังกรมปศุสัตว์ประกาศให้ 13 จังหวัดเป็นเขตโรคระบาดพิษสุนัขบ้า หรือ “พื้นที่สีแดง” ซึ่งประกอบด้วยจังหวัด สุรินทร์ ชลบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา น่าน บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ร้อยเอ็ด สงขลา ระยอง ตาก และศรีสะเกษ และ อีก 42 จังหวัดเป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดพิษสุนัขบ้าหรือ “พื้นที่สีเหลือง” เรื่องของโรคพิษสุนัขบ้า หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า “โรคกลัวน้ำ” (Hydrophobia) ก็กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
เป็นประเด็นร้อนที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกมาขานรับถึงการเฝ้าระวังและควบคุมโรค หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้แล้วถึง 3 ราย
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับว่าสถานการณ์ของโรคพิษสุนัขบ้าในขณะนี้เป็นเรื่องน่ากังวล ไม่เฉพาะแค่มีคนเสียชีวิต ที่น่าตกใจกว่า คือตัวเลขของสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขและ แมวที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 มากถึง 315 ตัว สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 2 เท่า
“เฉพาะเดือนมกราคมพบการติดเชื้อด้วยโรคพิษสุนัขบ้า 155 ตัว มีคนเสียชีวิต 2 ราย เดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มอีก 160 ตัว มีคนเสียชีวิตอีก 1 ราย 90% ของสัตว์ที่ติดเชื้อ คือ สุนัข รองลงมาคือ แมวและโค” อธิบดีกรมควบคุมโรคบอก
คุณหมอสุวรรณชัย ให้ข้อมูลว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการโรคพิษสุนัขบ้า 825 ตัวอย่าง มีรายงานผลบวกพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากสุนัข 87.64% โค 6.79% แมว 4.61% และอื่นๆ 0.97% เชื้อที่ตรวจพบมาจากสัตว์มีเจ้าของ 52.85% ไม่มีเจ้าของ 34.55% และไม่ทราบประวัติ 12.61% โดยพบโรคพิษสุนัขบ้ามากที่สุดในสุนัขและแมว ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อ เช่น ถูกกัด ข่วน หรือเลียผิวหนังที่มีบาดแผล
...
“แม้จำนวนคนที่ป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้จะมีไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนสัตว์ที่พบว่าติดเชื้อ แต่จำนวนของผู้เสียชีวิตไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเป็นความปลอดภัย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พบสัตว์ติดเชื้อ โอกาสที่จะแพร่มาสู่คนก็เป็นไปได้มาก เพราะคนคลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้และส่วนใหญ่จะติดเชื้อจากการถูกกัด ข่วนจากสุนัขหรือแมว ซึ่งเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ระยะการแสดงอาการของโรคอาจจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้าไม่สามารถบอกได้ บางรายอาจนานเป็นปี ถึงจะแสดงอาการหลังจากรับเชื้อ” คุณหมอสุวรรณชัยอธิบาย และว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ คนไทยมากกว่า 60% คิดว่าโรคพิษสุนัขบ้า “รักษาหาย” ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะโรคนี้จริงๆแล้ว หากรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย แล้วไม่มี การทำความสะอาดแผลเบื้องต้น หรือไม่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ครบ โอกาสที่จะป่วยและเสียชีวิตคือ 100% หมายความว่า โรคนี้ถ้าอาการของโรคเริ่มแสดงแล้ว นั่นคือสัญญาณบอกว่าสายเกินกว่าจะยับยั้งเชื้อได้ทัน หรือพูดง่ายๆภาษาชาวบ้าน ก็คือโรคพิษสุนัขบ้าเป็นแล้ว “ตายทุกราย” ทั้งนี้สาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่ มาจากการชะล่าใจของผู้ป่วยในการป้องกันและรักษาโรค ไปรับการรักษาเมื่ออาการของโรคเริ่มแสดงแล้ว
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังบอกด้วยว่า องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ จะประกาศว่าพื้นที่ไหนเสี่ยงน้อยเสี่ยงสูง หากเสี่ยงน้อยก็จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนในสัตว์เพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุก 3 ปี แต่หากพื้นที่ไหนเสี่ยงสูงต้องฉีดวัคซีนทุกปี ซึ่งประเทศไทยจัดในกลุ่มเสี่ยงสูง
คุณหมอสุวรรณชัย บอกว่า สาเหตุที่ทำให้ยังมีสัตว์ติดเชื้อและมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ประชาชนไม่นำสุนัข แมว ไปรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า, ปล่อยสัตว์เลี้ยงนอกบ้าน ทำให้เสี่ยงต่อการถูกกัดจากสัตว์ที่มีเชื้อ, ขาดความตระหนักถึงการป้องกันการติดเชื้อ เช่น เมื่อถูกลูกสุนัข ลูกแมวกัด ข่วน เลีย ก็มักจะคิดว่าไม่เสี่ยง เพราะเห็นว่าเป็นลูกหมา ลูกแมว จึงไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน
“ขอเน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของโรคพิษสุนัขบ้า รู้จักป้องกันตนเองที่ถูกต้อง โดยคนเลี้ยงต้องมีความรับผิดชอบ เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงสุนัข-แมวในจำนวนที่พอเหมาะ คุมกำเนิดด้วยการทำหมัน พาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี เลี้ยงในบริเวณบ้าน ดูแลและเฝ้าระวังสัตว์เลี้ยงใกล้ตัว อย่าปล่อยออกไปนอกบ้านโดยไม่ดูแล โดยเฉพาะสุนัขและแมว เพราะหากถูกหมาบ้ากัดก็อาจติดโรคพิษสุนัขบ้าได้ เนื่องจากข้อมูลการตรวจสอบหัวสุนัขที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าที่ผ่านมาพบว่ามากกว่าร้อยละ 50 เป็นสุนัขที่มีเจ้าของทั้งนั้น” อธิบดีกรมควบคุมโรคบอก
สำหรับหลักในการป้องกันโรค ง่ายๆที่กรมควบคุมโรคแนะนำ คือ ให้ใช้คาถา 5 ย. คือ “อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแย่ง อย่าหยิบ อย่ายุ่ง” กับสุนัขคนอื่นหรือสุนัขที่มีอาการผิดปกติ เมื่อถูกสุนัข หรือแมว ข่วน หรือกัด ควรรีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ทันทีหลายๆครั้ง และใส่ยาเบตาดีนหลังล้างแผลเพื่อลดการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ารีบพบแพทย์โดยทันที เพื่อรับการวินิจฉัยรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อถูกกัด ควรกักสุนัข/แมวตัวที่กัดข่วน ไว้เพื่อสังเกตอาการ 10 วัน หากสัตว์ที่กักตายลงให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อการส่งตรวจหาโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์
ทั้งนี้ คุณหมอสุวรรณชัย ทิ้งท้ายว่า รัฐบาลได้มีคำสั่งที่ 214/51 ตั้งอนุกรรมการต่างๆในการทำงานตาม“โครง- การสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษ สุนัขบ้า” ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราช กุมารี ให้ประเทศไทยปลอดโรคพิษสุนัขบ้าในปี 2563 ตามพันธสัญญากับองค์การอนามัยโลก หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือแจ้งเหตุพบสุนัขหรือแมวผิดปกติในเขตใด สามารถโทร.แจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 และอย่าเชื่อว่าโรคนี้มีเฉพาะในหน้าร้อน เพราะจริงๆแล้ว พิษสุนัขบ้าเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี.