มีรายงานต่างๆ แย้งเรื่องการลดไขมันไม่ดี ที่ต้องกินยากันมาตลอด กลับเป็นเรื่องที่เกินไปหรือไม่ดังที่เป็นเรื่องที่พูดกันมาตั้งแต่ปลายปี 2017 เรื่อยมาจนปัจจุบันที่พูดว่า ถ้าสามารถลดการอักเสบที่อยู่ในเลือดหรือที่อยู่ในร่างกายได้ แม้ว่าระดับไขมันไม่ดีจะสูงก็ตาม ก็สามารถลดความเสี่ยงของหัวใจวายและอัมพฤกษ์ได้นอกจากนั้นรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเกิดการอักเสบในผนังของเส้นเลือดที่ทำให้ตันในที่สุด จะมีจุดแรกก็คือการอักเสบในร่างกาย ในกระแสเลือดและผ่าน LOX-1 ในตัวเส้นเลือดเองและทำให้ไขมันจุดชนวนการอักเสบในผนังเส้นเลือดในอันดับต่อมา สรุปว่า ทำอย่างไรให้การอักเสบในร่างกายลดลง นั่นคือ เลิกบุหรี่ทันที คุมเบาหวาน อย่าอ้วน มีการอักเสบที่ไหนต้องรักษา ควบคุมแม้กระทั่งฟันผุ เหงือก รากฟันอักเสบ และตัวร้ายที่สำคัญคือสารเคมีกันบูด กันเสีย สารเคมีพิษฆ่าหญ้าฆ่าแมลงปนเปื้อน อากาศที่มีมลพิษ แน่นอน ฝุ่นจิ๋ว 2.5 และอาหารเนื้อสัตว์บกทั้งหลายแหล่ รวมถึงเนื้อที่ผ่านการหมักปรุง และการกินแป้งน้ำตาลหวานมากเกินไปแต่ข้อสำคัญ ถ้าทำด้วยความลำบาก อายุตั้งมาก แปดสิบแล้ว ทำไปด้วยความทุกข์ ก็ช่างมันก็ได้ครับ...เข้าใจครับอย่างไรก็ตาม สำหรับพวกเราที่ทำได้โดยไม่ฝืนใจ ไม่ลำบากยากเข็ญนัก ที่จะนำเรียนให้ทราบเป็นหลักฐานที่ตอกย้ำความสำคัญของอาหารชนิดร้อนแรงเข้มข้นและชัดเจนในการทำให้เกิดการอักเสบและแน่นอนก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ เส้นเลือดสมองตีบตันการวิเคราะห์เจาะลึกโดยทำการติดตามทั้งสตรีและบุรุษ มากถึง 210,145 คน และทำการติดตามในช่วง 32 ปีในการศึกษาที่มีชื่อว่า Nurses’ Health Studies I และ II และ Health Professionals Follow-up Study ทั้งนี้ หลังจากที่ปรับตัวแปรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาที่ลดการอักเสบและปัจจัยส่งเสริมโรคเส้นเลือดตีบ พบว่าคนที่บริโภคชนิดประเภทของอาหารที่สร้างหรือเพื่ออำนวยให้เกิดมีการอักเสบสูง (ในระดับ Highest quintile of inflammatory potential) จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจทั้งหมด รวมถึงโรคของเส้นเลือดหัวใจได้สูงขึ้น 38% โดยมี hazard ratio (HR) เป็น 1.38 เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง highest และ lowest quintile และความเสี่ยงสูงขึ้น 46% สำหรับการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ (HR, 1.46)และสูงขึ้น 28% สำหรับเส้นเลือดตีบในสมองหรืออัมพฤกษ์ (HR, 1.28) ทั้งหมดมีค่า p for trend<.001 งานทั้งหมดนี้ ถูกรายงานโดยคณะผู้ศึกษาวิจัยจากฮาเวิร์ด (Harvard medical school Boston) ในวารสาร American College of cardiology (10 พฤศจิกายน 2020) โดยค่าความร้อนแรง ที่ทำให้เกิดการอักเสบจากอาหารประเภทต่างๆ ใช้สูตรที่เรียกว่า Empirical dietary inflammatory Pattern (EIDP)โดยสูตรนี้ได้มีการพัฒนาและนำมาใช้เมื่อสี่ปีที่แล้วกลุ่มประเภทของอาหาร สามารถจัดแบ่งได้เป็น 39 กลุ่มและอิงกับค่าดัชนีการอักเสบสามตัวได้แก่ IL6 CRP และ TNF alpha receptor 2 ทั้งนี้จะมีอาหาร 18 กลุ่มที่จัดอยู่ในประเภทอักเสบรุนแรง ร้อนแรง และแน่นอนผลของการศึกษาคล้องจองกับที่เราได้รับทราบกันก่อนหน้านี้ นั่นก็คือใครที่บริโภคผักใบเขียว (ของฝรั่ง คือ kale spinach arugula) ผักสีเหลืองเข้ม (pumpkin yellow peppers carrots) ธัญพืชเต็มเมล็ด ผลไม้ ชา กาแฟ และไวน์ มีความเสี่ยงในระยะยาวต่ำกว่ากลุ่มที่บริโภคเนื้อแดงเนื้อที่ผ่านการปรับแต่ง ปรุงรสหรือทำให้เก็บได้นาน เนื้อเครื่องใน ข้าวแป้งขัดสีและขนมหวานน้ำตาลต่างๆโดยไม่ได้จำกัดเพศและลักษณะของกลุ่มอาหารเช่นนี้ ที่ได้ประโยชน์หรือเป็นโทษ ได้มีการปรับตัวแปรต่างๆให้เท่ากัน ทั้งปริมาณแอลกอฮอล์หรือยังรวมทั้งปริมาณและระยะเวลาที่สูบบุหรี่รวมกระทั่งถึงการใช้ยาลดความดันโลหิตและยาลดไขมัน ปริมาณเกลือโซเดียมที่บริโภคและระดับความดันโลหิต การวิเคราะห์เจาะลึกในลำดับต่อไป ยังพบว่ากลุ่มอาหารร้อนแรงเหล่านี้มีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับดัชนีชีวภาพที่ส่งเสริมให้เกิดการอักเสบทั้งทั่วระบบในร่างกาย เส้นเลือดและกระบวนการเผาผลาญและการใช้พลังงาน และทำให้ไขมันในเลือดเป็นประเภทเลวมากกว่าดีการที่ได้รับทราบประเภทและกลุ่มของอาหารที่ได้รับการพิสูจน์ว่าเกี่ยวพันกับการอักเสบทั่วร่างกายทำให้เป็นการง่ายกับพวกเราที่จะต้องมานั่งเลือกว่าควรจะกินไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันอิ่มตัวหรือไขมัน trans fat หรือไม่ อย่างไรเพราะอาหารบางกลุ่มมีทั้งตัวไม่ดีและมีตัวดีบ้างในบทบรรณาธิการของวารสารต่างเห็นพ้องคล้องจองกับ ผลของรายงานและคำแนะนำดังกล่าว โดยให้มีการเสริมด้วยน้ำมันมะกอก ชนิด extra-virgin (ถูกความร้อนไม่ได้นะครับ) ปลาที่มีมันเยอะ และมะเขือเทศ ทั้งหมดนี้ เป็นแบบเดียวกันกับอาหารเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าการอักเสบคือหัวหน้าผู้ร้ายที่ไม่ได้ทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดเท่านั้น แต่ยังได้เกี่ยวพันไปถึงการเกิดมะเร็ง การเกิดโรคแทบทุกชนิดรวมถึงโรคสมองและไขสันหลัง (สุขภาพหรรษา หมอดื้อ ย้ำมาตลอดครับ)สำหรับเราๆอย่างงครับ เข้าใกล้มังสวิรัติ หนักผัก ผลไม้ งดลดเนื้อสัตว์บก ทานกุ้ง หอย ปู ปลาได้ เน้น ถั่วทานได้ทุกชนิด สำหรับสลัดของไทยก็คือส้มตำ แต่ระวังหน่อยนะครับจะมีสารปรุงรสรสจัด ถึงแม้ชิมแล้วจะไม่ค่อยเค็ม มีเกลือโซเดียมสูงและจะกระพือ ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจซ้ำร้ายไปอีกคำขวัญวันนี้ โรงพยาบาลต้องร้าง ไอซียูเตียงว่างเปล่า ถึงกับโรงพยาบาลต้องมีโปรโมชันนี่คืออนาคตที่ต้องเป็นของประเทศ ของคนไทย และสาธารณสุขไทย.หมอดื้อ