ถ้าพูดถึงการทำอาหาร บางคนเหมือนบอร์นทูบี มีฝีมือในการทำอาหารโดยที่ไม่เคยได้เข้าคอร์สเรียนจากที่ใดมาเลย แต่สามารถปรุงอาหารได้ถูกปากคนกินไปทั่วบ้านทั่วเมือง ทำนองเดียวกับนักการตลาดหนุ่มมาดมั่น เมษ์-จีรัสย์ วัฒนภัทรเศรษฐ์ ซึ่งดูแลงานมาร์เก็ตติ้งของเกษรพร็อพเพอร์ตี้ ในตำแหน่งรองประธานอาวุโสด้านการตลาด อาศัยที่ตอนเด็กๆต้องช่วยยายกับน้าทำครัว ทั้งตำน้ำพริก ล้างผักแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นไปเรียนเมืองนอก อยากกินข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ฯลฯ ขึ้นมา ถ้าไม่ทำเองก็อดกิน จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้หันมาทำครัวทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย แค่เห็นยายกับน้าทำให้ทาน ซึ่งอร่อยเว่อร์ทุกเมนูเลย
คุณเมษ์บอกว่า คนเราขอเพียงแค่มีสกิล รู้ว่าเมนูที่จะทำต้องทำอย่างไร เมื่อรู้ขั้นตอนการทำแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่การปรุงให้อร่อย โดยอาศัยลิ้นเราในการชิม และตัวเขาจะเป็นคนลิ้นดี ชิมว่าอันไหนอร่อย อันไหนไม่อร่อย เพราะเคยกินแต่ของอร่อยมาตลอด และยังเป็นคนเลือกกินด้วย อะไรที่ไม่อร่อยจะไม่กินเลย ทุกวันนี้แค่มื้อเที่ยงจะกินอะไรสามารถนั่งเสิร์ชอินเตอร์เน็ตได้เป็นครึ่งวัน เพื่อเข้าไปอ่านที่เขารีวิวว่าร้านไหนเป็นอย่างไร
...
“เมษ์เป็นคนที่เลือกกินมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ทุกร้านทุกจานต้องอร่อยหมด โดยจะตามล่าหาร้านอร่อย ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องแพง แม้จะเป็นร้านริมถนน ข้างทางจนถึงระดับมิชลินสตาร์ ถึงขั้นมีแฮชแท็กของตัวเองว่า Eat Idea (ไอเดียในการกิน) โดยจะไปเสาะหาร้านที่เก๋ มีสตอรี่ (ทั้งเรื่องอาหาร เชฟ สูตรเก่าแก่ วิธีการทำ หรือแม้แต่เครื่องปรุงที่จะหาได้ตามฤดูกาล เป็นต้น) และรสชาติก็จะมากับสตอรี่ เมื่อมีสตอรี่ดีหรือที่มาของอาหารดี มักจะทำอาหารอร่อย
จนเป็นที่มาของร้าน 1000 เส้น ร้านก๋วยเตี๋ยวในซอยอารีย์ พหลโยธิน (อยู่บนชั้น 2 ของตึกแถวสีเขียวปากซอยอารีย์) เพราะคุณเมษ์เป็นคนชอบกินก๋วยเตี๋ยว แต่ที่ขายส่วนใหญ่ก็ลิมิตชีวิตคนกินอยู่แค่เล็ก-ใหญ่-หมี่ ชิ้นสด-เปื่อย ซึ่งน่าเบื่อมาก เธอเลยมีไอเดียว่า ถ้าเรามีเส้นให้ลูกค้าเลือกทุกเส้นที่ตลาดมีเลย รวมถึงเส้นพาสตาที่ชอบทำกินเองมาผสมกับเส้นไทย แล้วมีท็อปปิ้ง 10 กว่าอย่าง รวมถึงน้ำซุปอีก 3 แบบ เลือกไปเลยว่าจะมิกซ์แอนด์แมตช์แบบไหน ทำให้คนกินรู้สึกว่ามีส่วนร่วมในการครีเอตชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง และการตกแต่งร้านยังเป็นความชอบส่วนตัว ที่นำร้านก๋วยเตี๋ยวกับคาเฟ่มารวมกัน ร้านนี้จึงมีคอนเซปต์เป็นนูดเดิ้ลคาเฟ่
เครื่องปรุง เฟตตูชินี่ หมูตุ๋นต้มยำพริกคั่ว : เส้นเฟตตูชินี่/หมูกรอบ/ หมูสับ/น้ำพริกคั่ว/ต้นหอม-ผักชี หรือขึ้นฉ่ายซอย/หมี่เหลืองทอดกรอบ...... เนื่องจากความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่น้ำซุปและน้ำพริกคั่ว จึงขอเน้นวิธีการทำเฉพาะ 2 อย่างนี้
...
วิธีการทำน้ำซุป เริ่มจากการต้มน้ำหมูตุ๋น โดยใช้เล้งต้มกับกระเทียม โปยกั๊ก อบเชย ใบเตย รากผักชี ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วหวาน น้ำตาลปี๊บ กระเทียมดอง กระเทียมหัวใหญ่ โดยใช้หมูสันในกับขั้วตับหมูต้มในน้ำด้วยเพื่อความหอมของน้ำซุป เคี่ยวจนได้ที่ประมาณ 3 ชั่วโมง
วิธีการทำน้ำพริกคั่ว ที่นำมาทำต้มยำซึ่งจะได้อีกมิติหนึ่งของความเผ็ด ซึ่งจะล้ำกว่าเผ็ดแบบพริกป่นธรรมดา สูตรพริกคั่วคือ ผัดกากหมูหั่นชิ้นเล็กๆ คั่วจนเหลืองแล้วนำกระเทียมสับหยาบไม่เอาเปลือก มาผัดต่อใส่พริกขี้หนูแห้งลงไป ใส่พริกป่นนิดหน่อย ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทย แล้วนำไปแช่เย็นไว้ 1 คืนให้พริกฉ่ำในน้ำมัน แล้วนำมาปรุงต้มยำ โดยเส้นเฟตตูชินี่ ปกติแล้วนำมาลวกนิดหน่อยก่อนเสิร์ฟ รับรองความแซ่บมิติใหม่
เครื่องปรุงสปาเก็ตตีแห้งหมูกรอบ : ความพิเศษจะอยู่ที่น้ำเกรวี่ที่นำมาราดก่อนเสิร์ฟ
วิธีทำน้ำเกรวี่ หรือน้ำหมูตุ๋นเข้มข้น เคี่ยวน้ำหมูตุ๋นให้งวดแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาวนิดหน่อยผสมผงปรุงรส และตบท้ายด้วยแป้งมันเพิ่มความเหนียวให้น้ำราดเหมือนซอสเกรวี่.