หยิบประสบการณ์ชีวิตจริง หลังเลิกรากับอดีตคนรักไปแต่หวังดีต่อกัน บิ๊ก D Gerrard (ดีเจอร์ราร์ด) นักร้อง-นักแสดงมากความสามารถจากค่าย เวย์เฟอร์ เรคคอร์ดส ภายใต้สังกัดวอร์เนอร์ มิวสิค มาพร้อมเพลงใหม่ “วอนเทวดา” ถึงมูฟออนแต่ยังวอนเทวดาให้ดูแลปกป้องคนเคยรักอยู่ดี พร้อมอัปเดตสุขภาพหลังมีปัญหาเส้นเสียงเป็นแผลและอักเสบ
เริ่มจากหนุ่มบิ๊กเล่าถึงเพลงใหม่ที่มาในลุคใส่ชุดขาวเป็นเทวดาซะเลย
“เป็นคอนเซปต์เพลงใหม่ของผม วอนเทวดา คือเราวอนเทวดาของเราให้ดูรักษาคนที่เรารัก บางทีคู่รักบางคนเลิกรากันไปไม่มีสิทธิ์ที่จะไปดูแลเขาแล้ว แต่เรายังมีโอกาสอยู่ด้วยการขอพรเทวดาให้ช่วยดูแลเขาให้เจอคนที่ดี เจอชีวิตที่ดีขึ้น เจออนาคตที่สดใสด้วยความที่เลิกกันไปเรายังหวังดีต่อกันได้ แม้แต่กับคนที่เรารัก พ่อแม่ พี่น้องคนในครอบครัว เราสามารถขอพรต่อเทวดาให้ดูแลรักษาตอนที่เราไม่อยู่หรือตอนที่เราไปทำงานได้” เพลงนี้มีแรงบันดาลใจมาจากอะไร “ผมได้แรงบันดาลใจมาจากครั้งหนึ่งในชีวิตของผม มีเหตุการณ์นึงต้องเลิกรากับคนรักไปแต่เราต้องใช้ชีวิตต่อ ต่างคนต่างใช้ชีวิต แล้วคราวนี้ผมจะเมกชัวร์ได้ยังไงว่าชีวิตของเค้าจะเจอสิ่งที่ดี เจอคนที่ดี สังคมที่ดี ผมเลยขอพรกับเทวดาให้ดูแลรักษาเขาที ทั้งๆที่เราไม่มีสิทธิ์ในตัวเขาแล้ว”
แสดงว่าจริงๆเรายังไม่มูฟออนหรือเปล่า
“เรามูฟออนแล้วครับ แต่เรายังหวังดีกับคนที่เราเคยรู้สึกดีด้วยได้ เรียกว่าอยากให้เขาเจอชีวิตที่ดี ทุกวันนี้ผมไม่รู้นะว่าเขาเป็นยังไง คือ ตัวผมเองมูฟออนแล้วเพราะมันผ่านมา 2 ปีแล้ว หมายถึงว่าเราไม่ควรยึดติดแต่เราสามารถส่งความรู้สึกดีๆต่อกันได้”
แสดงว่า 2 ปีที่เลิกกันยังไม่มีโอกาสได้กลับมาเจอกันเลย
...
“ไม่เลยครับ เวลาผมเลิกกับใครผมจะเลิกขาดเลย ไม่ได้ติดต่อ เขาจะอยู่ในโลกของเขา ผมก็อยู่ในโลกของผม เล่าก่อนตอนนั้นผมเป็นคนบ้างาน งานเยอะและผมไม่ค่อยมีเวลาให้เขาเลยขอพรให้เขาเจอคนที่มีเวลาให้มากกว่านี้ ส่วนผมต้องทำสิ่งที่ผมต้องทำ อุทิศตนให้กับงานศิลปะให้กับบทเพลง ผมต้องทำสิ่งนี้ต่อไป”
รอบนี้แต่งตัวเป็นเทวดาใส่ชุดขาวรู้สึกยังไงบ้าง
“รู้สึกดีครับ (ยิ้ม) รู้สึกเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง (หัวเราะ) จริงๆลักษณะภายนอกเหมือนเป็นพื้นผิวทุเรียน มีพื้นผิวน่ากลัว เจ็บ มีหนามแต่เนื้อข้างในหลายๆคนชอบที่จะกินมัน ซึ่งมันก็บอกยากอะไรดีหรือไม่ดี ถ้าเราตัดสินใจจากภายนอกเพราะฉะนั้นจริงๆผมเชื่อในใจจริงๆ เราทุกคนต่างเป็นเทวดา”

แต่ละ เพลงของบิ๊กจะลุค ไม่ซ้ำจำไม่ได้
“ใช่ครับ ผมไม่อยากให้คนจำได้ เพราะเขาจะได้เซอร์ไพรส์ อ้าว! พี่บิ๊กเหรอ คนนี้ไงที่เล่น 4Kings ที่เป็นคนบ้าๆ บอๆ คนนั้นไงร้องเพลงนี้ ผมรู้สึกว่าในการสร้างความแตกต่างทำให้เราได้เห็นมุมมองต่างๆ หรือมิติตัวตนของผมมากขึ้น”
อัปเดตสุขภาพเป็นยังไงเพราะก่อนหน้า เพิ่งเข้า รพ.
"ดีขึ้นเยอะเลยครับ มีช่วงที่เราได้พักไปบ้างก็เลยได้มาดูแลเส้นเสียง ตอนนี้เสียงใสกิ๊งเลย ไปอัดเพลงมาก่อนหน้านี้ไม่สบายบ้าง พอเราไปอัดกลายเป็นว่าเสียงดีขึ้น ก่อนหน้านี้ทำงานหนักเสียงไม่ได้พัก ทำให้เสียงแหบ เปล่งเสียงยากมาก พอได้พักเสียงใสขึ้น”
ช่วงป่วยห้ามพูดห้ามใช้เสียงอึดอัดขนาดไหน
“อึดอัดนะ ทำให้ผมได้เรียนรู้ คนที่ไม่มีโอกาสได้พูด คนไม่มีปากไม่มีเสียง เพราะเขาไม่มีเสียงเลย เขาต้องรู้สึกยังไง เขาต้องสื่อสารคนยังไง ทำให้ผมเห็นมุมมองนี้ คิดว่ามันมีวิธีสื่อสารอื่นๆ ทำให้เราสามารถสื่อสารกับผู้คนได้ ทำให้ผมนึกถึงชาร์ลี แชปลิน เขาเล่นละครใบ้ สื่อสารกับคนดูได้ หรือมิสเตอร์บีน โดยไม่ต้องพูด ทำให้ผมได้วิธีคิด เราไม่จำเป็นต้องพูดแต่เราสามารถสื่อสารได้”
ตอนอยู่ รพ.ถึงป่วยห้ามพูดแต่บิ๊กก็ขยันหาคอนเทนต์อยู่ดี
“ครับ ผมอยากพัก แต่ข้างในผมจะมีความคิดในหัวต้องทำให้คนสนุกนะ คนดูมีความสุขเอนเตอร์เทน เขา เลยต้องทำ”

...
ตัวตนบิ๊กนิ่งได้ตอนไหน
“จริงๆ ผมมีเวลานิ่ง จัดเป็นตารางไว้ ผมเป็นคนนั่งสมาธิ เวลานั้นแหละที่ผมจะนิ่ง ตอนปกติมี ช่วงก่อนเล่นคอนเสิร์ตทำสมาธิ ช่วงไหนต้องใช้สมาธิเยอะๆ ผมจะต้องนิ่งเพื่อจะได้รู้มีอะไรบ้างอยู่รอบตัว เราต้องให้ความสนใจไปที่อะไรครับ”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่