ผ่านทะลุรอบ เดอะ คัท (The Cut) หรือรอบชิงชนะเลิศ (Divisional Final) ด้วยคะแนนรวมเต้นสองรอบอย่างสูงลิ่วถึง 94.9 คะแนนของคู่รักนักเต้น “อิง & กิต-อิง-รัญญภัสร์ สิริสมานพงศ์ & กิต-กฤษฏ์ ปรารมย์” ในนามของ “ดีดี เฟลคชั่น” (DD FLECTION) จากรายการยอดฮิตติดเทรนด์สุดสนั่นบันลือใจ “เต้นบันลือโลก” (World of dance Thailand)
อิง กิต เข้ามาแข่งขันในประเภทผู้ใหญ่ (Upper) ที่ในรอบชิงชนะเลิศ เฉือนเอาชนะทีมเด็ก “ออซั่ม จูเนียร์” (จากบุรีรัมย์) ที่ได้คะแนนรวม 93.3 และทีมรวมกลุ่ม “มิกซ์ เดม อั๊พ ครูว” ที่ได้คะแนนรวมเฉือนกันนิดเดียวคือ 94.7 ซึ่งก็ทำได้สุดยอดเหนือคำบรรยายทั้ง 2 ทีม
คู่รักนักเต้นบันลือใจคู่นี้ สร้างทุกโชว์ออกมาล้วนแล้วในแนวปรัชญา สะทกสะท้านจิตวิญญาณ ท่องทะยานหาญกล้าเหินไกลไปโลดล้ำจินตนาการ ผสานความหวาดหวั่นพรั่นสะพรึงน้ำตาริน โดดดิ้นไปทุกรูขุมขน
และนี่คือ ความแตกต่างอันห่างคึกและลึกไกลไปจากทุกคู่ต่อสู้ ทุกผู้เข้าแข่งขันใน “เต้นบันลือโลก” ซีซันนี้อย่างแท้จริง และหาที่เปรียบมิได้
ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแบบ “ก้าวข้ามความเป็นมนุษย์” (เต้นตัวติดกัน) หรือจะเป็นการเต้นในเพลง “นาฬิกาเรือนเก่า” ของปาล์มมี่ ปานเจริญ
อิง-กิตประสบปัญหาชวนให้ตัดใจล่าถอย(เกือบ) ต้องถอนตัว ในการแข่งขันรอบสุดท้าย อิงเป็นหนองในลำคอ กิตมีอาการเจ็บมือและแขน อิงต้องใช้เงินที่มีเหลือติดตัวอยู่ก้อนสุดท้าย หนึ่งหมื่นบาทในการรักษาตัว
ทุกอย่างดำเนินไปสู่ภาวะคับขันและต้องเลือก “ถ้าไม่สู้ต่อก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เป็นบททดสอบบทสุดท้าย” กิตยืนยันมั่นสู้ต่อไป ไม่ถอดใจ ไม่ถอนตัว!
ซึ่งในที่สุด คู่รักนักเต้นคู่นี้ก็ผนึกจิตวิญญาณ “สู้ต่อ” ร่วมกันฟันฝ่าและฝ่าฟัน มั่นกล้า อาจหาญ และทระนงก้าวสู่ชัยชนะได้ในที่สุด
...
เพลง “Baby it’s cold outside” เพลงเต้นบังคับของครูโจ้ที่สุดแสนท้าทาย และเพลงสุดท้ายในโครงเค้าชีวิต “ผู้ป่วยหาทางออกไม่ได้” ที่อิง-กิต คิดสร้าง(เรื่อง)เอง
ทั้งคู่เต้นได้อย่าง “ทะลวงจิตวิญญาณ” (Dance piercing through Spirit) เหนือความสามานย์และคำสาบานทั้งปวงในโลกใบนี้จริงๆครับ
ขอกราบ!
“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”
แจ๋วริมจอ