เดบิวต์จาก “นางร้าย” สู่ “นางเอก” ชมพู-อทิตา พยัคฆ์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์เวทีนางร้ายไทยแลนด์คนแรกของประเทศไทย ล่าสุดขึ้นแท่น “นางเอกป้ายแดง” จาก “หนี้รักเกียรติยศ” ช่อง 8 หลังจากเส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฝ่าฟันอุปสรรค เจอดราม่ามาหนักหน่วง “มาลัยไทยรัฐ” สัปดาห์นี้เลยจะมาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น มาพร้อมแฟชั่นสวยแซ่บเว่อร์ โพสท่าแบบสับๆ แถมอวดหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจจนร้องซี้ด บวกเอเนอร์จีล้นหลามเลยได้ภาพสวยฉ่ำๆมาฝากแฟนๆ

มาทำความรู้จักสาวสวยหน้าคม ชมพู–อทิตา ไปพร้อมๆกัน กับชะตาชีวิตพลิกผัน จากนางงาม “มิสแกรนด์” ก่อนก้าวสู่การเป็น “นางเอก” แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน “ตกใจและดีใจค่ะ ก็ต้องเตรียมตัวเยอะมาก เพราะว่านางเอกในละครหนี้รักเกียรติยศ เป็นนางเอกเจ้าน้ำตาซะด้วย คือตอนประกวดด้วยรางวัลนางร้ายไทยแลนด์ เราก็คิดว่าเรื่องแรกยังไงก็ต้องเป็นนางร้ายแต่สุดท้ายออกมาเป็นนางเอกก็เซอร์ไพรส์ เอาจริงๆตอนแสดงทั้ง

...

พี่อั๋น (อัครพรรฒ บุนนาค) พระเอก พี่เบิร์ด ผู้กำกับ เค้าก็ยังพูดอยู่เลยว่าให้เราพูดแบบนางเอก สมมติเป็นฉากที่ต้องใส่อารมณ์ อินเนอร์นางร้ายมาเลยค่ะ จนเค้าเบรกด้วยทั้งเรื่องน้ำเสียง สายตา คิ้วขมวดตลอดเวลา อันนี้คือสิ่งที่โดนทักตลอดเอะอะจะพุ่งเข้าใส่เค้า จะตบเขาอย่างเดียวเลย (หัวเราะ)” กับฟีดแบ็กของละครเป็นไงบ้าง “ถ้าในเรื่องของการแสดงยังไม่เห็นมีคอมเมนต์ดราม่าโดนว่าอะไร เอาจริงๆกลัวมากกับการคอมเมนต์ว่าแสดงแข็ง แสดงไม่ดี เข้าไม่ถึงตัวละครเลย แต่เราก็เต็มที่แล้วจริงๆ ถ้าโดนแซวก็คงจะเป็นเพื่อนว่าเวลาร้องไห้ เวลาพูดจมูกบาน แล้วก็อีกเรื่องคือติดคิ้วขมวดตลอดเวลา อันนี้ขอวิจารณ์ตัวเองดีกว่า”

กว่าจะเป็นชมพู-อทิตา นางเอกช่อง 8 ไม่ง่ายนัก ถึงขั้นเจ้าตัวบอกว่า “ทุลักทุเลมากค่ะ คลุกฝุ่นมาเลยเพราะว่าชีวิตหนูมันไม่ได้ง่ายค่ะ ทำอะไรก็ไม่เคยง่ายเลย ที่ได้มาเพราะความพยายามของตัวเองล้วนๆเลยค่ะ มาจากการประกวดนางงาม ทุกๆอย่างก็คือเก็บเกี่ยวด้วยประสบการณ์ของตัวเองทั้งหมด ผ่านการฝึกฝนจนมั่นใจเลยกลายเป็นเวอร์ชันการเป็นนางงามของเราที่ดีที่สุดแล้ว แล้วในปีนั้นก็คว้ารางวัลกลับมาด้วย ประสบความสำเร็จ มีพี่ๆแฟนคลับ มีตำแหน่ง มีรางวัล มีหลายอย่างที่การันตีความสำเร็จเรา อันนี้คือภูมิใจมาก ก่อนหน้าเคยนั่งน้อยใจกับตัวเองด้วยเหมือนกัน โห! ทำไมคนอื่นเค้าได้อะไรมาง่ายจังแต่ทำไมของเรากว่าจะได้มาแต่ละอย่างเลือดตาแทบกระเด็น แต่ว่าเราก็ผ่านมาได้”

ความรักเป็นยังไงบ้าง มีหนุ่มๆ อาสามาดูแลหัวใจหรือยัง “นิ่งๆ คิดว่าทำมาหากินก่อนดีกว่า กลัวว่าถ้ามีแฟน เราจะไม่สามารถทำหน้าที่ที่มีอยู่ได้ดีพอ เวลาที่คนอื่นเขาพูดกันว่าเดี๋ยวเข้าไปเช็ก DM ก่อนว่ามีคนทักมาไหม? เราก็เข้าไปเช็กเผื่อมีใครติดต่อเรื่องงาน แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยมีใครทักไดเรกต์ไอจีมาจีบเลย ตัวเราเองก็ไม่ได้ไขว่คว้า อยากทำงานก่อนจริงๆ ด้วยอายุเข้ามาในวงการก็ไม่น้อยแล้ว เลยรู้สึกว่าถ้าไม่รีบพัฒนาตัวเองหนูก็จะไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ก็เลยโฟกัสเรื่องเดียว หนูอยากทำงาน อยากมีเงิน สามารถรับผิดชอบชีวิตของหนูแล้วก็ครอบครัวได้ ยังมีแม่ มีน้อง ตอนนี้เราเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย ก่อนหน้าก็เคยมีแฟนแต่พอประกวดนางงามเราต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการฝึกซ้อม มันก็เลยทำให้ต้องวางตรงนั้นไว้ เพื่อที่เราจะต้องมาทำความฝันของเราก่อน”

...

มองอนาคตเรื่องครอบครัวยังไงบ้าง “ถ้าเป็นเมื่อก่อนเคยวางไว้ว่าอายุเท่านี้นะค่อยแต่ง พอเอาเข้าจริงมันไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดก็เลยรู้สึกว่ายังไม่ได้คาดหวังตรงนั้น ไม่ได้มองตรงนั้น เพื่อนๆเค้าก็แต่งงานมีลูกกันไปแล้ว แต่ละคนชีวิตก็ไม่เหมือนกัน วิถีการดำเนินชีวิตต่างๆมันก็ต่างกันไป ก็ไม่เป็นไรค่ะเลี้ยงลูกเพื่อนได้ (ยิ้ม) แต่ก็แอบวางแผนด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้อาจจะฝากไข่ไว้ได้ เผื่ออนาคต เอาเข้าจริงพอเราอายุ 30 ยังรู้สึกว่าตัวเองยังเด็กอยู่เลยด้วยซ้ำ เรายังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ อยากจะมุ่งมั่นเดินทางกับการทำงาน เก็บเงิน ดูแลครอบครัวไปก่อนค่ะ”

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่