โควิดทำชีวิตเปลี่ยนไป เปลี่ยนมายด์เซตใหม่ เป็ด เชิญยิ้ม ตลกอาวุโส ล่าสุด ผันตัวมาเป็น “พ่อค้าขนมจีนกะลา” ออกบูธในงาน “ไทยรัฐแฟร์” ที่ผ่านมา พร้อมเปิดใจกับชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะเลยไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย “เดือนหน้า วันที่ 8 มิ.ย.ก็จะอายุ 71 เต็ม จะก้าว 72 แล้ว ทุกคนก็จะถามทำไมยังต้องมาทำอะไรแบบนี้ คือการใช้ชีวิต ปรับมายด์เซตตัวเองใหม่ในโลกใบใหม่ฉะนั้นเราต้องให้ทันเด็ก เด็กก้าวพ้นเราไปไกลแล้ว วันนี้เราต้องตามเด็ก ไม่ใช่ เด็กตามเรา สมัยโบราณเราเป็นเด็กต้องฟังผู้ใหญ่พูด แต่ตอนนี้เราต้องฟังเด็กพูดเพราะเด็กผ่านโซเชียล โลกยุคใหม่ต้องเด็กเลย เด็กเล่นติ๊กต่อก ไลฟ์สด ไลฟ์โชว์ เราก็ต้องนั่งทำด้วย คือการใช้ชีวิตต้องเปลี่ยน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตใหม่อยู่ในโซเชียลมากขึ้นและมายด์เซตเราก็ต้องเปลี่ยน ปรับตัวเอง และเราได้ออกไปข้างนอก ได้คุยสมองเราได้ทำงาน เรามาเจอเพื่อนฝูง อายุเยอะขึ้นเราได้ออกกำลังกาย ทำให้ตัวอะเลิตขึ้นไป ไม่อยากทำตัวให้เป็นภาระ เราอายุ 71 ถ้าใช้เวลาอีก 10 ปี ถ้าเราโชคดี 72-73 ไปเรื่อย

...
ก่อนหน้าคุยกับโน้ต เชิญยิ้ม ว่ามึงกับกูต้องเกี่ยวแขนกันไปนะ ตอนนี้เราอยู่ลาดพร้าว 71 ค่อยเดินไปด้วย เดินไปจนถึงลาดพร้าว 101 แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายเข้าวัดบึงทองหลาง (หัวเราะ) ไปด้วยกัน จากนั้นใครโชคดีจะเดินไป 107 แล้วแต่ ใครโชคร้ายก็ขึ้นไปเผาวัดบึง แต่สุขภาพโดยรวมก็ยังโอเคอยู่ มีบ้างตามประสาวัยชรา แต่เราไม่เอาความชรามาเป็นตัวของเรา เราหาอย่างอื่นมาซัพพอร์ตตัวของเรา คือการออกกำลังกาย มาเปิดร้านขนมจีนกะลาให้ลูกสาว เปิดร้านซาลาเปาให้ลูกชาย เสร็จแล้วไปหาหนึ่งร้านเป็นครัวกลางเป็นร้านอาหารเพื่อให้เขาทำมาเป็นอาชีพต่อไปเพราะตั้งแต่โควิดมาโลกมันเปลี่ยน เปลี่ยนโลก เมื่อโลกเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยน เราจะอยู่โลกมายาเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เพราะโลกมายาเราดับแล้ว เราริบหรี่ เป็นหิ่งห้อยไปแล้วสำหรับโลกมายา สมัยก่อนเราเจิดจรัสมากแต่มาวันนี้เราอายุเยอะแล้ว เคยอยู่จุดเฟื่องฟูที่สุดแต่มาวันนี้เราต้องปรับตัวเองแล้วมาอยู่ในโลกใบใหม่ ไม่อายทำกินไม่หมิ่นเงินน้อยไม่คอยวาสนา ทำทุกอย่าง ทำแล้วมันมีความสุข ทำแล้วไม่เป็นทุกข์ ไม่เป็นภาระของลูก ไม่เป็นภาระของคนอื่น ไม่เป็นภาระของสังคมถึงอยากทำ”
พอวันนี้เป็นพ่อค้า ต้องปรับตัว เป็นความยากมั้ย
“เราไม่ยึดติดอดีต เราอยู่กับปัจจุบันและมองต่อไปในอนาคตแค่นั้นเอง ถ้าวันนี้เรามานั่งยึดติดกับอดีตที่ผ่านมา เราใช้ชีวิตกับอดีตที่ผ่านมา โลกที่ไม่ยอมใคร โลกที่ไม่ฟังใคร โลกที่มีความเชื่อในตัวเองสูง โลกใบนี้เราอยู่มา 40 กว่าปี แต่วันนี้เราอยู่บนโลกความจริงระยะเวลาเราสั้นลง เพราะฉะนั้นเราจะต้องปรับตัวเข้าหาโลกใบใหม่ ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่อิจฉาใคร ไม่ชิงดีชิงเด่นกับใคร เข้าวัด ไหว้พระ เจอเพื่อนได้คุยให้สมองเตือนความทรงจำ ออกกำลังกายกับพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ เป็นความสุขแล้ว เมื่อก่อนมัวแต่ทำงานเพราะเราเป็นซุปเปอร์สตาร์ อีโก้ก็สูง ความเชื่อมั่นตัวเองก็สูง ทำอะไรก็คิดว่ามันใช่หมด”

อะไรที่จุดประกายจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต
“โควิดไง มันดับสวิตช์โลก คนรวยกลับมาจน คนจนก็จนไปอีก ไม่มีอาชีพกลับมารวยขึ้น นอกจากมาอยู่โลกใบใหม่ ออนไลน์ มีโอกาสขายได้ เราเองก็ปรับตัวมาทำอาหารขายออนไลน์ เรามาปรับตัวเอง กลายเป็นมีความสุข โคตรมีความสุขเลย เดี๋ยววันที่ 16 ไปเซ็นทรัล เชียงราย 8 โมงต้องตื่น 9 โมงทำครัว ปรุงอาหารเองทุกอย่างเลย 10 โมงมาตั้งแล้วนั่งมาถึง 2 ทุ่มครึ่ง โคตรเหนื่อย แต่โคตรสนุก มีเด็กๆมาขอถ่ายรูปหน่อย คุณตา คุณปู่ คุณลุง นี่คือความสุขและสนุกมาก เราได้ฐานแฟนคลับสูงขึ้น และมีความสุขมากตอนที่คนมาซื้ออุดหนุน ขายได้เท่านี้ๆ นั่นคือความสุขที่ได้รับ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตไม่ต้องไปเครียดกับมัน”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่