ชอบความตื่นเต้นท้าทายที่ได้ทำสิ่งใหม่ๆ นักแสดงหนุ่ม แปลน-รัฐวิทย์ กิจวรลักษณ์ ตกปากรับคำในภาพยนตร์เรื่อง “พี่นาค 4” ค่ายไฟว์สตาร์ เป็นผลงานกำกับของ ไมค์-ภณธฤต แถมเป็นการคัมแบ็กร่วมกับคู่จิ้นอย่าง มีน-พีรวิชญ์ อีกครั้งในรอบหลายปี การันตีแฟนๆจะได้เห็นลุคที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน พร้อมอัปเดตสถานะหัวใจกลับมาโสดแล้ว! เพราะอยากโฟกัสงานและครอบครัวก่อน

โดยเริ่มจากหนังเรื่องนี้คิดนานมั้ยกว่าตัดสินใจรับ

“ไม่เลยครับ เอาจริงๆ ผมเคยคุยกับพี่ไมค์ ผู้กำกับ เมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว เคยเดินผ่านๆในโรงหนัง คุยกันเดี๋ยวเราร่วมงานกัน จน 7 ปีผ่านไป คำนี้แหละที่เรา เคยพูดกับพี่ไมค์มันสามารถเกิดขึ้นจริงได้แล้ว”

กับบทบาทในเรื่องนี้ล่ะ

“เป็นตัวละครที่มีกรรมผูกกับคุณโทมินจุน (มีน-พีรวิชญ์) มาลุ้นว่ากรรมตรงนี้จะสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้าง”

พออ่านบทมีความตื่นเต้นท้าทายขนาดไหน

“ท้าทายมากครับ ทำการบ้านเยอะพอสมควร มีเวิร์กช็อป วิเคราะห์ตัวละคร มีไปเจอกับครูสอนแอ็กติ้ง พูดคุยถึงตัวละครกัน เข้ารูปเข้ารอยพอสมควรเป็นการเพิ่มความมั่นใจครับ”

...

ต้องปรับและเปลี่ยนตัวเราขนาดไหน

“หูย ปรับและเปลี่ยนทุกอย่างที่เป็นตัวเอง ถ้าแฟนๆที่เข้าไปดูในโรงจะเห็นว่า ความแตกต่างตัวละครกับตัวแปลนแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ทั้งกายภาพ แนวคิดต่างๆ ไม่ได้มีความเป็นแปลนเลย ทั้งบุคลิก นิสัย มายด์เซต ทุกๆอย่างเปลี่ยนหมดเลย แตกต่างจากตัวผม 100% ซึ่งมันต้องทำให้คุ้นชินจะได้เป็นธรรมชาติมากที่สุด”

ปกติจะไม่ค่อยเห็นแปลนรับเล่นหนัง

“ก่อนหน้านี้ผมจะรับหนังทีละเรื่อง แต่มีผู้ใหญ่ท่านนึงในวงการบอกว่า มันสามารถรับหลายเรื่องได้นะทำไมไม่ลองดู โชคช่วย ผู้ใหญ่เอ็นดูก็เลยมีทั้งหนัง ละคร ซีรีส์”

ตอนนี้เต็มตัวกับการแสดง

“ใช่ครับ ตอนนี้ยึดเป็นอาชีพหลักแล้วครับ”

เรามีแรงขับเคลื่อนอะไรทำให้อยากจริงจังกับอาชีพตรงนี้แล้ว

“ง่ายๆเลยครับ หนึ่ง แฟนคลับ สอง มันสนุก มันท้าทาย มันไม่เหมือนงานประจำที่แต่ละวันที่จะเจออะไรเหมือนกัน มีปัญหาเข้ามาให้คอยแก้ไข นักแสดงแต่ละเรื่องแตกต่างกันร้อยเปอร์เซ็นต์ การทำงานแต่ละกองแตกต่างกันร้อยเปอร์เซ็นต์ เราต้องคอยปรับตัวเองตลอดเวลา มันท้าทายไม่น่าเบื่อ สนุกไปกับมัน เปลี่ยนแปลงตัวเองบ่อยแต่ผมเป็นคนเบื่อง่าย กองนี้เป็นแบบนี้กองนั้นเป็นแบบนี้นะมันสนุก ตอบโจทย์ เป็นความท้าทาย”

กับความรักล่ะช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง

“คือ... ตั้งแต่โควิดมาผมก็ไม่มีคนคุยเลยครับ ไม่มีแฟนไม่มีคนคุย รู้สึกว่าเรายังไม่พร้อม รู้สึกว่ายังไม่อยากมีตอนนี้ ตรงนี้คนสำคัญในชีวิตเราเยอะมากแล้ว ทั้งครอบครัว แฟนคลับ เพื่อน ผมเลยรู้สึกว่าเทกชันตรงนี้ให้ดีที่สุด”

เลิกเพราะสถานการณ์โควิดเหรอ

“ตอนนั้นจริงๆอยู่ในสถานะคุยๆกัน แต่แปลนรู้สึกเองว่าเรายังไม่พร้อมจริงๆ แฟนคลับบางคนไม่ได้อยาก ไม่ได้พร้อมให้เรามีแฟนด้วย ยังหวงอยู่ แฟนคลับอยู่กับเรามานาน 2-3 ปี ยังไงเราก็ต้องให้ความสำคัญกับเค้าก่อน”

วันนึงเกิดเราเจอคนที่ถูกใจอยากมีแฟนล่ะ

“ตอนนี้ก็ยังปิดกั้นตัวเองอยู่ก็ไม่น่าจะยังไม่เจอคนที่ถูกใจ จะบอกตัวเองเรายังไม่พร้อม ล่าสุดคุยกับที่บ้านแล้วว่าอาจจะไม่มีลูกนะ ไม่มีแฟน ขอดูแลพ่อแม่ให้ถึงที่สุดไปก่อน”

เป็นคนขี้เบื่อมีส่วนทำให้รักไม่ได้ไปต่อ

“อาจจะมีส่วนด้วยครับ แค่เรายังไม่อยากมีแฟน ติดครอบครัว ติดแฟนคลับ ผมอยากให้เวลากับตรงนี้มากที่สุดก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว ถามว่าเหงามั้ย บางครั้งบางครา อาจจะมีแวบๆบ้างอยากมีแฟน”

จริงๆเป็นคนมีแฟนมาตลอดมั้ย

“ไม่ครับ มีคนคุยน้อยมากเรื่องความรักเป็นคนกลัวด้วยล่ะ กลัวความผิดหวัง กลัวการแยกย้าย กลัวการบอกรัก แล้วผมเป็นคนติดเพื่อนมากกว่า แต่เพื่อนๆเริ่มแต่งงานกันหมด แต่ยังเลือกเพื่อนก่อน”

แสดงว่าแปลนรักสันโดษ สามารถอยู่กับตัวเองได้

“ใช่ๆ เหมือนเราอยู่บ้านกับพ่อแม่ ถ้าเราเหงาแค่ลงไปหาพ่อแม่ เล่นกับแมว”

ที่บ้านว่าไงที่เราบอกไม่อยากมีแฟน

...

“เค้าก็อยากให้มีแฟน เพราะถ้าวันนึงเค้าไม่อยู่แล้วจะได้สบายใจ เรายังมีคนโน่นนี่นั่น แต่เราเลือกที่จะไม่มีและดูแลท่านให้ดีที่สุด”

มุมมองความรักยังเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นสีชมพูอยู่มั้ย

“ยังเป็นสีชมพูอยู่ครับ มันคือสิ่งที่สวยงาม ต่อให้เลิกรากันไปก็ยังมีช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทำให้เบ่งบานในชีวิต เหมือนเป็นกูรูนะแต่ไม่เคยลงสนาม มีอะไรเพื่อนโทร.มาปรึกษา เป็นโค้ชให้แต่ไม่เคยลงสนามเป็นโค้ชเค้าจะไม่ลงไปเล่นเองเพราะไม่อยากจะกลายเป็นหมาตัวนึง เราอยู่แบบโค้ชดีแล้ว มองดูความรัก ทฤษฎีแน่น ปฏิบัติศูนย์ (หัวเราะ) คือกลัวผิดหวัง บวกกับโกลในชีวิตเรายังไม่ได้เรื่องความรักแต่เป็นครอบครัวมากกว่า เป้าหมายในชีวิตของผมจริงๆ คนรอบข้างของผมต้องสบาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อน แฟนคลับทุกคนสบาย เรื่องตัวเองไว้ทีหลังเลยครับ”.