ไม่หวั่นปัญหา...เชื่อยิ่งคบยิ่งเจอสิ่งดีๆฉีกกฎความเป็น “พระเอก” กลายเป็น ลูกไล่ให้นางเอกจับมาทรมาน แฟนๆ เลยเทคะแนนสงสารตามเชียร์ ธันวา สุริยะจักร พระเอกหนุ่มจากละคร “ดอกหญ้าในพายุ” ทางช่อง 7 ประกบสาว แคท ซอนย่า กลายเป็นเคมีที่ลงตัว ยิ่งหนุ่มธันวาถอดเสื้อโชว์ผิว โอโม่เล่นเอาใจรัวๆกันเป็นแถว เสน่ห์บาดใจ สาวน้อยๆ สาวใหญ่ขนาดนี้ก็ต้องคว้ามาเปลือยใจกันเสียหน่อย พร้อมอัปเดตหัวใจ กับ กรีน อัษฎาพร นางเอก ร่วมวิกสี 7 โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพูใน “คนดังนั่งคุย”งานละครหายไปนานเหมือนกัน“หายไปถ่ายละคร ทำ ธุรกิจที่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ปิด กล้องไป 2 เรื่องแล้ว และกำลังถ่ายเรื่องใหม่อยู่ ซึ่งละครผมมี 3 เรื่อง” กับละครดอกหญ้าในพายุเป็นยังไงบ้าง “กับละครเรื่องนี้ อย่างชื่อเรื่องดอกหญ้าในพายุ เปรียบนางเอกเป็นคนที่มีความฝันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ต่อให้เค้าไม่มีแต้มต่อ ในสังคม แต่เค้าสู้เพื่อคนที่เค้ารัก แล้วตัวผมก็เป็นหมากตัวนึงในเรื่องที่เค้าแก้แค้นครอบครัวเค้าโดยใช้ผม พูดง่ายๆผมซวย เป็นผู้ถูกกระทำ กำลังจะแต่งงานกับน้องสาวนางเอกพอดี โดนนางเอกจับตัวไป เค้ากะแก้แค้นฝั่งครอบครัวพ่อเค้า” ตอนเล่นเป็นยังไง เพราะต้องเป็นผู้ชายที่โดนกระทำ “ต้องเล่นเป็นบอบบาง เหมือนทำอะไรไม่เป็น คุณหนูมาก ไม่เคยเข้าป่า ทำอะไรไม่เป็น”เจอบทแบบนี้ขัดแย้งกับตัวตนเราขนาดไหน“จริงๆ แล้วมีเหตุผลของมัน ขัดมั้ยก็นิดนึง พอเราเข้าใจเป็นตัวละครไม่ใช่เราก็ปรับความเข้าใจได้ เรื่องนี้ส่วนใหญ่จะถ่ายในป่า” ต้องอยู่ในป่าห้องน้ำกับแมลงอันไหนใช้ชีวิตยากลำบากกว่ากัน “ห้องน้ำครับ ทำอะไรลำบาก” เป็นผู้ชายก็ได้เปรียบนะ ไปส่องที่ไหนก็ได้ “ใช่ๆ แต่ว่าที่อยู่โน่นนั่นนี่ไม่ได้อำนวยความสะดวก ผู้กำกับอยากได้ป่าไม่ซ้ำเรื่องอื่น ไม่ได้เป็นป่าที่สร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายละคร เป็นป่าจริงๆ เลยยากในการตั้งเต็นท์ ตั้งยูโอบี เดี๋ยวก็ฝนตก อุปสรรคเยอะ แล้วค่อนข้างใช้เวลานานในการถ่ายทำ กลางคืนแทบจะถ่ายไม่ได้เลยเพราะว่าไฟธรรมชาติน้อยมาก” โลเกชันเรื่องนี้สาหัสมากสิ “ใช่ครับ แต่ก็สนุกดี มันเหมือนเราได้เล่นแอ็กติ้ง เหมือนได้เรียนรู้การเล่นแอ็กติ้ง ค่อยๆเล่น ผมยกตัวอย่าง ทอม แฮงค์ ติดเกาะ เรามองอะไรสามารถทำได้เป็นอีกแอ็กติ้งนึงที่ผมไม่เคยเล่นมาก่อน ทำให้ผมมีความรู้สึกท้าทายดี มีความแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ จะเป็นเรื่องจังหวะของการเล่นมากกว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้ผมค่อนข้างที่จะซัพพอร์ตนางเอก นางเอกจะเป็นคนนำมากกว่า มันก็ไม่ซีเรียสมาก เค้าจะวางให้ผมไปทิศทางไหน เป็นไปตามบทอยู่แล้ว”การร่วมงานกับแคท ซอนย่า เป็นอย่างไรบ้าง“ร่วมงานเป็นเรื่องแรก น้องเป็นนางเอกหลังข่าวเป็นเรื่องแรก น้องเป็นคนที่ตั้งใจเล่นมากและทำการบ้านมาค่อนข้างเป๊ะในเรื่องของบท ในเรื่องของสถานการณ์ต่างๆ น้องเค้าถือว่าเป็นคนนึงที่ตั้งใจมากในการทำงาน” ต่างคนต่างเกร็งมั้ยเพราะไม่เคยร่วมงาน “ผมไม่เกร็งอยู่แล้ว เป็นคนที่เหมือนชอบอะไรคล้ายๆกัน คุยกันปรึกษาเรื่องหุ้น เรื่องธุรกิจต่างๆ น้องเค้าเก่งแล้ว เราคุยกันตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว เลยมีความ รู้สึกทำงานไปมันก็ราบรื่นบรรยากาศในกองก็สนุกสนาน เลยไม่เกร็ง” มีฉากหวานๆ กุ๊กกิ๊ก “ไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะแนวเถียงกัน ตีกัน”คนมองว่าป๋าดันให้แคทหรือเปล่า“ไม่ถึงขนาดนั้น มีความรู้สึกเราทำตามหน้าที่ ทุกคนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง ผมนึกย้อนกลับไปวันแรก ที่ผมเล่นละคร มันไม่มีใครเป็นป๋าดันเราหรอกครับ วันนั้นเราตั้งใจและทำเต็มที่มากน้อยแค่ไหน” ทุกวันนี้มีไปเรียนการแสดงมั้ย “ไม่ได้ เรียนครับ ผมใช้วิธีดูหนัง และศึกษาพฤติกรรมของคนอื่น ของคนที่มีอาชีพต่างจากเรา อย่างเช่นนักดนตรี มือกีตาร์ มือกลอง หมอ ตำรวจ พยายามดูคาแรกเตอร์ ของเค้า” มีเวลาดูหนังแบบนี้ด้วยเหรอเพราะดูกิจกรรมแน่นออก “จริงๆแล้ว มันจัดสรรได้ แล้วถ้าเรามีความรู้สึกสนุก มันก็มีแรงที่จะทำมัน ถ้ารู้สึกเป็นหน้าที่จะรู้สึกเหนื่อย เราทำมันก็จะดาวน์”เห็นไปดูสถานที่เล็งทำธุรกิจอะไร“วางแผนการลงทุนธุรกิจกับกรีนที่ลาวเพิ่มเพราะเรามีความรู้สึกว่า ผมเป็นคนลาวอยู่แล้ว ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับ บ้าน เจอครอบครัวผมเลยมีความรู้สึกอยากทำบางสิ่งบางอย่างเพิ่มเติม ลงทุนเพิ่ม มองไว้หลายด้าน ร้านอาหาร อาจจะเพิ่ม มีเป็นธุรกิจที่เราทำกับครอบครัวแต่ยังไม่ได้เสร็จ ตอนนี้กำลังวางแผน” ดูธันวาเป็นคนมีโปรเจกต์ในหัวเต็มไปหมดเลยนะ “ผมมีความสุข ที่ได้ทำเพราะว่าผมมองในเรื่องครอบครัว ผมอยากให้ครอบครัวผมสบาย ให้พ่อแม่ปลอดภัย อยากให้เค้ามีความสุขได้ไปเที่ยว ได้อยู่ด้วยกัน ได้กินของดีๆ” จะทำธุรกิจร่วมกับกรีนตั้งใจเปิดร้านอาหารหรือเปล่า “เราเป็นหุ้นส่วนกัน เวลาทำอะไรเราแชร์กัน เรามองว่าเป็นโอกาส ถ้าเค้าไม่เห็นด้วยก็โน” หลายคนคบกันเป็นแฟนไม่อยากทำธุรกิจร่วมกันเพราะกลัวจะมีปัญหา “ไม่กลัวครับ เพราะว่าเรียนรู้และรู้จักกันมากพอ เราไว้ใจซึ่งกันและกันมากๆ มันช่วยเหลือกันมากกว่า ทุกวันนี้ต่างคนต่างช่วยเหลือกันนำพากันไปเจอแต่เรื่องดีๆ ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เรามีความรู้สึกว่าพอเรียนรู้ รู้จักกันมากขึ้น มันได้ปรับจูนบางสิ่งบางอย่าง มีตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้างจนเข้าใจกัน ความกลัวก็หายไป มันเกิดจากความเข้าใจที่มากขึ้น”กรีนบอกตั้งแต่คบธันวาทัศนคติการใช้เงินจะเปลี่ยนไป ตัวเราล่ะสิ่งที่เปลี่ยนแปลง“สำหรับผมคือเรื่องอารมณ์ กรีนเป็นคนใจเย็นและมีเหตุผล ส่วนผมเป็นคนค่อนข้างใจร้อน ดุเดือด เป็นสายบวกครับ (ยิ้ม) ทุกครั้งที่เราได้อยู่กับกรีนมากขึ้น มันทำให้เรามีจิตใจอ่อนโยนมากขึ้นและใจเย็นมากขึ้นและที่ดีขึ้น เป็นเรื่องการแบ่งปันการให้เพราะกรีนจะมีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคน ชอบให้โอกาสคน ผมจะได้สิ่งนั้นไปด้วย ทำให้เรามีความสุข ทุกวันที่เราอยู่จะไม่ได้นึกถึงตัวเอง มีคุณค่ามากกว่าที่ผ่านมา เราจะทำให้ตัวเอง การใช้ชีวิต การทำงาน การเจอสังคมต่างๆ เราจะมานึกถึงครอบครัวอย่างเดียวไม่ได้ ต้องนึกถึงเพื่อนร่วมงานหรือคนในสังคม สิ่งที่มันได้มันมากกว่านั้น ผมได้เรียนรู้จากเค้าการแบ่งปัน การให้โอกาสคนอื่น”กรีนชื่นชมธันวาออกสื่อแล้วเค้าเคยชมเราต่อหน้าบ้างมั้ย“ก็ไม่นะ ส่วนใหญ่เราคุย กันใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ปรับจูนเสมอ ผมโชคดีที่เราสองคนเหมือนกัน ถ้าอะไรที่มันเวิร์ก เป็นโอกาส พวกเราสองคนทำตัวเป็นเหมือนไม้อ่อนเราพยายามปรับตัวทุกๆวัน เรียนรู้ทุกๆวัน อะไรที่ไม่ดีเราปรับ ช่วยกันแนะนำ เราไม่มีคำว่าดีอยู่แล้ว ถ้าบอกดีอยู่แล้วเราจะไม่เจอสิ่งที่มันดีกว่า เราพยายามปรับไปเรื่อยๆ เราไม่รู้หรอกว่า พรุ่งนี้หรืออนาคตเจออะไร แต่เราเชื่อว่าเราพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ด้วยความเป็นตัวเราสองคน เราพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ๆ เราเข้ากับคนอื่นได้ ผมเชื่อว่าวันนึงเราจะเจอ เราจะได้ความฝันที่เราคุยกัน” เท่าที่คบกันมีทะเลาะกันแบบจริงๆจังๆ “มีครับแต่ไม่แรง เราสองคนไม่ได้เป็นคนเลวร้าย ไม่ได้ทำอะไรผิด เรามีความรู้สึกทะเลาะกันแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” เวลากรีนแต่งตัวเซ็กซี่ออกงานเราแอบห่วงแอบหวงมั้ย “ไม่นะครับ ผมมีความรู้สึกเราสองคนมีพื้นที่ในการทำงานของกันและกันอยู่แล้ว เราจะเข้าใจเป็นงาน ละครก็เหมือนกัน เรารู้อะไรคืองาน และรู้อะไรควรหรือไม่ควร ผมเชื่อว่าเค้ารู้อยู่แล้วอะไรที่มันพอดี อะไรที่มันมากเกินไป”เห็นเดินขากะเผลกไปโดนอะไรมา“ผมลื่นครับ โดนที่เดิมที่เคยผ่ามาเป็นเอ็นขาด มันต้องรักษาการผ่าตัด ตอนนี้คุยกับหมอตลอด ดูผลเป็นยังไงบ้างต้องอัปเดต” ยังไงต้องผ่าเลยเหรอ “ต้องดูอาการ ถ้าไม่เป็นอะไรก็ไม่ต้องผ่า ถ้าเรารู้สึกเข่าหลวม เราก็ต้องผ่า ทำให้ผมเครียดมาก” พอขาเจ็บส่งผลต่อการใช้ชีวิตขับรถอะไรบ้างมั้ย “ผมว่าคงกลับไปออกกำลังกายหนักๆ เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว แต่ว่าในเรื่องการใช้ชีวิตปกติไม่มีผลอะไร” กรีนว่ายังไงบ้าง “เค้าก็ให้กำลังใจผมตลอด แต่ผมไม่อยากผ่า เพราะเคยผ่ามาแล้วมันเจ็บ ช่วงพักฟื้น มันน่ากลัวมาก ผมไม่เตะบอลแล้วตลอดชีวิต”อนาคตอยากกลับไปอยู่บ้านแล้วงานวงการเราวางแผนยังไง“ผมยังรักการแสดงอยู่ ผมก็ไม่ทิ้งการแสดงอยู่แล้วคงทำไปเรื่อยๆ คือก็มีแฟนๆ รอติดตามละครเรา เค้ามีความสนุกดูเราแสดงเราก็คงทิ้งไม่ได้” ถึงแม้ใจจริงคิดถึงบ้านที่ลาว “คิดถึงครอบครัวครับ” ปีนึงได้เจอครอบครัวบ่อยมั้ย “ปีที่แล้วเจอบ่อยแต่ปีนี้ลดน้อยลง เพราะผมทำงานหนัก ผมต้องกลับมาถ่ายละครอย่างบ้าคลั่ง” เป้าหมายในชีวิตที่วาดฝัน “ผมอยากกลับบ้าน (ลาว) อยากอยู่กับครอบครัว เป็นความฝันของผม อยากสร้างบ้านให้แม่ อยากมีรถดีๆให้แม่ขับ อยากใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านที่ปากเซ” สิ่งที่ทำให้ตัวเองล่ะ ฝันไกลถึงการโกอินเตอร์บ้างมั้ย “ไม่ครับ อยากรวยครับ (ยิ้ม)”หล่อ ขยัน อบอุ่นๆ แบบนี้ ชักอิจฉา สาวกรีน จริงจริ๊ง!!