เจินกวนศก 13 (ค.ศ.638) เว่ยเจิง เสนาบดีฝ่ายคัดค้าน ทนเห็น ถางไท่จงฮ่องเต้ ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เสพสำราญตามอำเภอใจ ต่อไปไม่ไหว จึงทำฎีกาถวายคำทักท้วง(เจินกวนเจิ้งเย่า ยอดกุศโลบายจีน อู๋จิง เขียน อธิคม สวัสดิญาณ แปล เต๋าประยุกต์ พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2552)เว่ยเจิงรู้ชะตากรรมตัวเองดี ทิ้งท้ายว่า “ผู้น้อยบังอาจยกตัวอย่างข้อบกพร่องสิบประการของฝ่าบาท โดยหวังว่าฝ่าบาทจะทรงรับฟัง ซึ่งถึงผู้น้อยต้องตายก็คงเหมือนได้เกิดใหม่ จึงยินดีรับโทษประหาร”ตัวอย่างบางข้อ ของคำทักท้วง ลองอ่านกันดูฝ่าพระบาทพยายามรั้งคลื่นคลั่ง สงบแผ่นดิน บุกเบิกสร้างอาณาจักรตั้งแต่มีพระชนม์ไม่ถึง 20 ในวัยฉกรรจ์ รู้จักข่มกิเลสตัณหา ส่งเสริมการประหยัดมัธยัสถ์ ชาติบ้านเมืองจึงมั่งคั่งไพบูลย์มีเสถียรภาพ ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขในแง่การสร้างคุณูปการ กษัตริย์ราชทัง และอู่ ยังเทียบไม่ได้ ในแง่การบำเพ็ญขัตติยธรรมเมธีกษัตริย์เหยา และซุ่นก็ไม่เหนือกว่าในอดีต จักรพรรดิฮั่นเหวินตี้ ปฏิเสธอาชาพันลี้ ที่มีคนถวายให้ จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้เผาเสื้อกันหนาวที่ถักทอจากขนหัวไก่ฟ้า ซึ่งไม่ต้องตามขนบจารีตแต่เวลานี้ฝ่าบาทส่งคนไปซื้ออาชาสง่ายังแดนไกลนับหมื่นลี้ ไปซื้ออัญมณีล้ำค่ายังต่างแดน กระทั่งเป็นที่เย้ยหยันของคนเดินทาง เป็นที่หยามหมิ่นของคนต่างเผ่านี่คือตัวอย่างการไม่ยืนหยัดอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ประการหนึ่งสาเหตุอยู่ที่อะไรหรือ?อยู่ที่จักรพรรดิในฐานะองค์พระประมุข ครอบครองอาณาจักรอันไพศาล ทรงตรัสสิ่งใดไม่มีใครคัดค้าน ทำอะไร ทุกคนต้องทำตาม ความยุติธรรม ถูกแทนที่ด้วยความพอใจส่วนตัว ขนบจารีตถูกกิเลสตัณหาทำลายวาทะโบราณว่า เข้าใจเหตุผลเป็นเรื่องไม่ยาก นำไปปฏิบัติสิยาก นำไปปฏิบัติสิไม่ยาก ยืนหยัดให้ถึงที่สุดสิยากทั้งสิบข้อในฎีกา เว่ยเจิงเลือกใช้ภาษาสุภาพ แต่เนื้อหาเหมือนภาษาชาวบ้านว่า ด่าสาดเสียเทเสียองค์จักรพรรดิถางไท่จง ทรงอ่านแล้วอ่านอีก ทบทวนเป็นสิบเที่ยว ทรงเห็นว่าเหตุผลถูกต้อง แทนที่จะพิโรธสั่งประหาร กลับสั่งให้บันทึกไว้ในจดหมายเหตุประวัติศาสตร์ เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังแล้วทรงพระราชทานทองคำ 10 ชั่ง และอาชา 2 ตัวให้เป็นรางวัล แก่เว่ยจิงเสนาบดีที่ทรงรู้ดีว่าฐานะยากจนจื๊อกุงถามขงจื๊อ หลักการปกครองที่ดี มีอะไร (นิทานปรัชญาเต๋า เสฐียรพงษ์ วรรณปก)“ข้อแรก จงปกครองให้ประชาชนมีอาหารบริโภคอุดมสมบูรณ์ ข้อสอง ประเทศชาติมีกองทัพที่เข้มแข็ง และข้อสาม ประชาชนมีความเชื่อถือรัฐบาล” ขงจื๊อตอบ“ถ้าหากจำเป็นต้องตัดออกข้อหนึ่ง “ตัดกองทัพออก” “ถ้าจำเป็นต้องตัดอีกหนึ่งข้อ จะตัดข้อใด”คำตอบจากขงจื๊อ “ควรตัดอาหารออก เหตุผลเพราะแต่โบราณกาลมา มนุษย์เรามีความตายเป็นธรรมดา แม้ประชาชนจะอดอยากบ้าง แต่ก็ยังดีกว่ามีรัฐบาลอันประชาชนไม่นับถือ”จี้กง ซักย้ำ “หมายความว่า รัฐบาลที่ไม่มีคุณธรรม ประชาชนหมดศรัทธา ร้ายแรงกว่าเรื่องปากท้องหรือ?”“ถูกแล้ว บัณฑิตย่อมเห็นแก่คุณธรรมยิ่งกว่าจะเห็นแก่ปากท้อง” ขงจื๊อตอบผมชอบเรื่องนี้ ชอบที่ขงจื๊อ ให้ราคากองทัพน้อยกว่าปากท้อง และศรัทธาของชาวบ้านนี่ก็หลักปกครองบ้านเมืองที่รุ่งเรืองศิวิไลซ์ ไม่เกี่ยวกับบ้านเมืองกำลังพัฒนาแต่ประการใดเลย.กิเลน ประลองเชิง