
เครื่องฟอกอากาศนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหลายบ้านให้ความสำคัญ เนื่องจากปัญหาเรื่องมลภาวะทางอากาศ อย่างฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรงได้ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ หลายคนจึงเกิดความกังวลใจ บทความนี้ไทยรัฐช็อปปิ้งจึงได้คัดเลือก เครื่องฟอกอากาศ มาแนะนำ มีรุ่นไหนบ้าง ติดตามได้ที่นี่
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Air Purifier 4 รุ่นยอดนิยม มาพร้อมระบบการกรอง 3 ชั้น ช่วยกรองได้ทั้งฝุ่นละออง ขนสัตว์เลี้ยง ละอองเกสร หมอกควัน และยังมีแผ่นกรองถ่านกัมมันต์ ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นอับกลิ่นควันทำอาหาร หรือกลิ่นสัตว์เลี้ยงได้ สามารถกรองฝุ่นได้รอบทิศทางแบบ 360° ไม่ว่าจะวางตัวเครื่องไว้มุมไหนของห้อง ก็สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังหน้าจอแสดงผลแบบ LED บอกค่าปริมาณฝุ่น, อุณหภูมิ, และความชื้นในห้องได้อย่างละเอียด
เครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่นนี้โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการปล่อยพลาสม่าคลัสเตอร์ได้ทั้งประจุบวกและประจุลบ จึงมีส่วนช่วยกำจัดเชื้อโรคหรือเชื้อราที่กระจายตัวอยู่ในอากาศได้ มี HEPA Filter ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยลดกลิ่นอับ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้เบาบางลงได้อีกด้วย
*มีจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น
เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นนี้โดดเด่นด้วยระบบกรอง 2 ชั้นที่ผสานเทคโนโลยี NanoProtect HEPA ช่วยดักจับฝุ่นขนาดเล็กถึง 0.003 ไมครอนได้ และยังปล่อยประจุไฟฟ้าสถิต เพื่อช่วยดูดมลพิษต่างๆ ที่กระจายอยู่ในอากาศ สำหรับโหมดนอนหลับ ทำงานเงียบเพียง 19 dB และยังไม่มีแสงหน้าจอรบกวน ทำให้ไม่รบกวนการพักผ่อน ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด มีความสูงเพียง 34 ซม. จึงสามารถวางบนชั้นหรือบนโต๊ะได้
เครื่องฟอกอากาศ PuriCare 360 ช่วยกรองฝุ่นด้วยระบบกรอง 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นพรีฟิลเตอร์, ชั้น HEPA Filter และชั้นฟิลเตอร์ฟอกก๊าซอันตราย ช่วยดักจับฝุ่นได้อนุภาคใหญ่ PM10 และฝุ่นอนุภาคเล็กอย่าง PM 2.5 และ PM1.0 ได้ และยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด และยังทำงานเงียบเพียง 25 dB จึงไม่รบกวนการนอนหลับ และยังสั่งการใช้งานผ่านแอป LG ThinQ™ ได้อีกด้วย
เครื่องฟอกอากาศ Levoit รุ่น Core 200S อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม มาพร้อมฟิลเตอร์ HEPA H13 ช่วยดักจับฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์เลี้ยง รวมถึงเชื้อโรคต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ในอากาศ มี Sleep Mode สำหรับเปิดใช้งานตอนกลางคืน ทำงานเงียบเพียง 24dB และยังมีแสงไฟสีเหลืองนวล ส่องสว่างในเวลากลางคืน ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในขณะพักผ่อน สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย Amazon Alexa, Google Assistant หรือตั้งค่าการทำงานต่างๆ ผ่านแอป VeSync ได้
เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้จาก TOSHIBA โดดเด่นด้วยระบบกรองถึง 4 ชั้น มีฟิลเตอร์ HEPA พร้อมปล่อยประจุลบ Ionizer เพื่อดักจับฝุ่นและเชื้อโรคในอากาศ ถ้าหากมีฝุ่นปริมาณมาก เครื่องจะเร่งการทำงานอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น พร้อมช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นเหม็นอับภายในห้องได้ สามารถปรับความแรงได้ 3 ระดับ มาพร้อมหน้าจอแสดงผล ที่บอกค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างชัดเจน
เครื่องฟอกอากาศ Hitachi รุ่นนี้มีแรงลมที่ทรงพลังและไส้กรอง HEPA H13 ที่ช่วยดักจับฝุ่นขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมแผ่นกรองแอคทีฟคาร์บอน ช่วยลดกลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์อื่นๆ ช่วยให้อากาศในบ้านสะอาดสดชื่นขึ้น ตัวเครื่องมีหน้าจอ LED แสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ มีโหมดการทำงานให้เลือก 3 โหมด คือ โหมดอัตโนมัติ, โหมดเทอร์โบ และโหมดนอนหลับ ที่ทำงานเงียบเพียง 35 dB
เครื่องฟอกอากาศ Bwell เป็นอีกรุ่นแนะนำสำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ มาพร้อมระบบการกรอง 3 ขั้นตอน ได้แก่ แผ่นกรอง Activated Carbon Pre-filter ช่วยจับฝุ่นละอองขนาดใหญ่ เช่น ขนสัตว์ เส้นผม ละอองเกสร, แผ่นกรอง HEPA ช่วยจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก และแผ่นกรอง Charcoal ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผล Pollution Sensor หรือค่าฝุ่น PM 2.5 โดยแสดงผลเป็นสี และยังมีเซนเซอร์ตรวจจับมลพิษ และปรับการทำงานอัตโนมัติเมื่อพบว่ามีค่าฝุ่นสูง
เครื่องฟอกอากาศ Electrolux รุ่นนี้โดดเด่นด้วยระบบกรอง PureProtect 5 ขั้นตอน และยังมี UVC ช่วยดักจับฝุ่นและเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้ภายในบ้านมีอากาศสะอาดและสดชื่น นอกจากนี้ยังมีระบบ AirSurround ช่วยควบคุมการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องแบบหมุนเกลียว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองอากาศ มีหน้าจอแสดงโหมดการใช้งาน และแสดงค่าฝุ่นละออง ทำงานเงียบเพียง 20 dB สามารถเปิดใช้งานตอนกลางคืนได้ โดยไม่รบกวนการนอนพักผ่อน
เครื่องฟอกอากาศ Masterkool ช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศด้วยระบบการกรอง 4 ขั้นตอน โดยใช้แผ่นกรอง HEPA พร้อมด้วยเทคโนโลยี Anion ปล่อยประจุไอออนลบ เพื่อดักจับฝุ่น และมี Cold Catalyst Activated Carbon ช่วยดูดซับและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นควัน กลิ่นอาหาร และกลิ่นสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมี UVC ช่วยขจัดเชื้อโรคในอากาศได้อีกด้วย ตัวเครื่องมีไฟแสดงค่าฝุ่นละออง ใช้งานง่าย และสามารถควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรลได้
ช่วงปลายปีนี้ถ้าหากใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ สำหรับใช้งานในบ้านหรือในห้องนอน สามารถเลือกดูจาก 10 รุ่นด้านบนที่ไทยรัฐช็อปปิ้งคัดเลือกมาให้ได้เลย แต่ละรุ่นมาพร้อมแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ได้ และยังมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ เช่น เทคโนโลยีปล่อยประจุลบ ช่วยดักจับฝุ่น, แผ่นกรองคาร์บอน ช่วยลดกลิ่น หรือ UVC ช่วยขจัดเชื้อโรค ซึ่งมีส่วนช่วยให้อากาศภายในสะอาดและสดชื่นขึ้น
(ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนสั่งซื้อ)