สถานการณ์สแกมเมอร์ “จีนเทา” รอบด้านไทย เมียนมาลุยปราบระเบิดเคเคปาร์ค กัมพูชาย้ายฐานหนีกวาดล้าง จับตาลาวขยายฐานแก๊งคอลฯ-บัญชีม้า
ประเด็นปัญหาสแกมเมอร์ อาชญากรรมออนไลน์ หลอกลวงเอาทรัพย์สินเหยื่อรวมถึงการค้ามนุษย์ เป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยหนึ่งในศูนย์กลางสแกมเมอร์ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในภูมิภาคอาเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือในประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ไทย ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกลุ่มนักลงทุนสีเทาโดยเฉพาะ “จีนเทา” เข้าไปดำเนินธุรกิจ ขยายอาณาจักรอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศมีความพยายามในการปราบสแกมเมอร์ที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การสหรัฐฯ ได้มีการคว่ำบาตรผู้ที่เกี่ยวข้อง อายัดทรัพย์สิน ขณะที่เกาหลีใต้ได้เข้ามาประสานช่วยเหลือพลเมืองที่ตกเป็นเหยื่อ หรือแม้แต่ล่าสุดที่รัฐบาลทหารเมียนมา ได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์ในเคเคปาร์ค มีการทิ้งระเบิดใส่หลายพื้นที่ จนคนจำนวนมากต่างหนีตายทะลักเข้าไทย ลาว แต่ก็ยังมีคำครหาว่าอาจเป็นเพียงการสร้างภาพ?
ล่าสุด 3 พ.ย. 68 เป็นอย่างไร ไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
...
เมียนมา
ฐานสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ริมชายแดนไทย แห่งแรกคือ “ชเวโก๊กโก่” เริ่มก่อสร้างเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในปี 2560 โดยนายแส จิ้นเจียง ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Yatai IHG ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังในไทย ร่วมมือกับ พ.อ.ชิต ตู่ ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (Karen Border Guard Force-Karen-BGF)
อีกแห่งคือ “เคเคปาร์ค” (KK-Park) เริ่มก่อสร้างในปี 2563 อยู่ในพื้นที่การดูแลคาบเกี่ยวของกลุ่มสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union - KNU) และกองกำลังกะเหรี่ยง BGF โดยเชื่อมโยงกับนายหวัน ค็อกคอย หรือ “ไอ้ฟันหลอ” หนึ่งในบอสแก๊ง 14K แก๊งอาชญากรจีนเทาขนาดใหญ่ระดับโลก
นอกจากสองแหล่งนี้ ยังมีศูนย์สแกมเมอร์ในเมืองไท่ฉาง ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งพื้นที่นี้อยู่ใต้การดูแลของกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย ( Democratic Karen Buddhist Army: DKBA) โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางการไทยได้มีการปราบปรามโดยการตัดไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่พบว่ามีการปั่นไฟใช้เองรวมถึงหาสัญญาณสื่อสารจากแหล่งอื่น
ต่อมาวันที่ 8 ก.ย.สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรเครือข่ายสแกมเมอร์หลายแห่งในชเวโก๊กโก่ จ.เมียวดี เมียนมาโดยมีชื่อของแส จิ้นเจียงและ พ.อ.ชิต ตู่และลูก ขณะที่นายหวัน ค็อกคอย ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไปแล้วตั้งแต่ปี 2563
ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมา ได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งขบวนการสแกมเมอร์และเข้าควบคุมพื้นที่เคเคปาร์ค (KK-Park) ทำให้มีแรงงานแก๊งสแกมเมอร์หลายสัญชาติหนีตายมายังประเทศไทยจำนวนมาก รวมถึงมีการระเบิดทำลายรอาคารรวมมากกว่า 20 ครั้งและยึดอุปกรณ์ 30 ชุด ที่ใช้เชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ซึ่งมีมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ เป็น เจ้าของ ทำให้สเปซเอ็กซ์ได้ออกมาชี้แจงว่าได้ตัดการเชื่อมต่อของสตาร์ลิงก์กับอุปกรณ์มากกว่า 2,500 เครื่อง ที่ถูกใช้ในขบวนการสแกมเมอร์ในเมียนมาแล้ว
สถานการณ์ล่าสุด 3 พ.ย. ทางรัฐบาลทหารเมียนมายังมีการระเบิดทำลายอาคารในเคเคปาร์คอย่างต่อเนื่อง มีแรงงานสแกมเมอร์หนีเข้าไทยแล้วมากกว่า 1,500 คน แรงสั่นสะเทือนและเศษซากจากระเบิดยังสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนในฝั่งไทยอย่างน้อย 16 หลังคาเรือน ทหารไทยทำหนังสือประท้วงแล้ว แต่ทางการเมียนมาไม่ตอบกลับ
อย่างไรก็ดีมีข้อครหาว่า บรรดาหัวหน้าชาวจีนได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยหนีเข้าไปในเมียวดี ชเวโก๊กโก่ รวมถึงประเทศไทย และส่วนหนึ่งอาจเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาว่าจริงจังในการปราบสแกมเมอร์และสร้างความชอบธรรมก่อนการเลือกตั้ง
พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ และอดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สนง.ปลัดกระทรวงกลาโหม มองว่า ในการนำของมิน อ่อง หล่าย ใกล้การเลือกตั้งก็ต้องแสดงให้ทั้งโลกเห็นว่า เมียนมาไม่ได้สนับสนุนพวกสแกมเมอร์ ถ้าปล่อยให้มีการตั้งฐานอยู่ที่เมียวดี ภาพพจน์ก็จะไม่ดี ทำให้มีการระเบิดเคเค ปาร์ค
...
กัมพูชา
สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ประกาศเปิดแคมเปญระดับชาติปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ในการจับกุมดำเนินคดีเครือข่ายสแกมเมอร์ครั้งใหญ่ที่สุดของปี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา แม้มีข้อครหาเสมอมาว่าเครือข่ายสแกมเมอร์มีความใกล้ชิดกับตระกูลฮุน
ต่อมาเมื่อมีเหตุพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ กับ จารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ พบว่า บรรดาแก๊งสแกมเมอร์ที่อยู่ในปอยเปต ได้ขนย้ายคนไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกลชายแดนไทย เช่น สีหนุวิลล์ จ.สวายเรียง จ.กันดาล จ.กัมปอด ที่อยู่ติดกับประเทศเวียดนามแทน ซึ่งพื้นที่แถบนั้นเป็นอีกฐานสำคัญของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้ว
เรื่องราวของสแกมเมอร์กัมพูชา กลายมาเป็นข่าวใหญ่ในหน้าสื่อทั่วโลก เมื่อ 14 ต.ค. สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ประกาศคว่ำบาตรและยึดทรัพย์ “เฉิน จื้อ” ประธานบริษัทปรินซ์กรุ๊ป และอายัดทรัพย์บิตคอยน์มูลค่า 4.9 แสนล้านบาท รวมถึงอายัดบ้านหรูหลายแห่งในกรุงลอนดอน ในขณะเดียวกันก็ได้คว่ำบาตรอีกหลายเป้าหมาย เช่น ฮุน โต หลานชายสมเด็จฮุน เซน ผู้บริหาร Huione Group, ยิม เลียก, ก๊ก อาน เป็นต้น
...
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เกาหลีใต้ ได้ส่งทีมพิเศษเข้าไปหารือกับนายกฯ ฮุน มาเน็ต และทางการกัมพูชาในการปราบสแกมเมอร์และช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกไปทำงาน หลังเกิดกรณีนักศึกษาวัย 20 ปี ถูกหลอกไปทำงานสแกมเมอร์และถูกทรมานจนเสียชีวิต ขณะที่จำนวนเหยื่อชาวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยทางการยังเตือนประชาชนงดการเดินทางไปกัมพูชาและระวังการรับสมัครงานที่น่าสงสัย ขณะเดียวกันก็ดำเนินการในประเทศ เช่น ตรวจสอบสำนักงานปรินซ์กรุ๊ปในกรุงโซล, จับผู้ต้องสงสัยเอี่ยวชาวเกาหลีและชาวต่างชาติเอี่ยวเครือข่ายสแกมเมอร์ เป็นต้น
วันที่ 16 ต.ค.68 กัมพูชา แถลงผลปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์ทั่วประเทศ ที่ดำเนินระหว่างวันที่ 27 มิ.ย. - 14 ต.ค. ว่าได้มีการบุกตรวจค้นและปิดล้อม 92 จุดใน 18 จังหวัดและนครหลวงพนมเปญ จับกุมผู้ต้องสงสัยได้รวม 3,455 คน จาก 20 สัญชาติ ส่งตัวดำเนินคดี ในจำนวนนี้มี 10 คดีสำคัญผู้ต้องหาหลักรวม 75 คน ถือเป็นหนึ่งในการดำเนินคดีครั้งใหญ่สุดของปีนี้ โดยยืนยันว่ากัมพูชาเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของอาชญากรรมนี้เช่นกัน
...
จากแรงกดดันและการกวาดล้าง ทำให้เครือข่ายสแกมเมอร์ย้ายฐาน-หนีไปกบดานยังต่างประเทศและพื้นที่อื่นๆ ในกัมพูชา ซึ่งหลายจุดอยู่ตามชายแดนประเทศไทย เช่น ที่ตึกกาสิโนสร้างใหม่ ตรงข้ามด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยอาคารเหล่านี้รองรับได้ถึงหมื่นคน
วันที่ 21 ต.ค. 68 พ.ต.อ.คำพล โนนุช ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง เปิดเผยว่า บริเวณใกล้ด่านชายแดนถาวรช่องจอม มีบ่อนการพนันอยู่สองแห่งล่าสุดจากการติดตามความเคลื่อนไหวสแกมเมอร์ พบมีการมาเช่าอาคารของบ่อนพนันที่เพิ่งสร้างเสร็จหลายคูหา จำนวนคนคาดการณ์น่าจะหลักพันขึ้นไปจนถึงหมื่นคน มีพนักงานหลากหลายสัญชาติ มีการดูแลแน่นหนา
ลาว
ประเทศลาวไม่ได้มีอาณาจักรสแกมเมอร์ที่ใหญ่โตเหมือนกัมพูชาและเมียนมา แต่มี "คิงส์โรมัน" กาสิโนริมชายแดนบนพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งมีรายงานว่าถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน-ที่พักให้กลุ่มสแกมเมอร์มายาวนาน ล่าสุดในพื้นที่ไม่ไกลจากคิงส์โรมัน กลายเป็นรังของแก๊งบัญชีม้าฝั่งลาว ที่หลอกเหยื่อชาวไทยไปทำงานเปิดบัญชี-สแกนหน้าจำนวนมาก
ทีมข่าว SEE TRUE ไทยรัฐออนไลน์ ได้ลงพื้นที่สำรวจรอบๆ คิงส์โรมัน พบว่ารอบเมือง มีตึกขนาดใหญ่กว่า 30 ชั้น ลักษณะเหมือนคอนโด กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายตึก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ป้ายข้อความต่างๆ ส่วนใหญ่ ระบุเป็นภาษาลาวและภาษาจีน
ผศ.ดร.ณัฐกร วิทิตานนท์ จากคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเคยวิจัยเรื่องกาสิโนชายแดน เปิดเผยว่า คิงส์โรมันคือ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำก่อตั้งขึ้นในปี 2550 โดย กลุ่มดอกงิ้วคำ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจีนที่มี นายจ้าว เหว่ย เป็นประธานใหญ่ โครงการนี้ได้เช่าพื้นที่ 99 ปี ต่อมามีการเติบโตเชื้อเชิญนักลงทุนเข้ามาทำธุรกิจ ซึ่งบางครั้งนักลงทุนที่เข้ามาไม่ได้ใช้พื้นที่ไปตามวัตถุประสงค์ของการลงทุน จนทำให้บางพื้นที่กลายเป็นแหล่งรวมของอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเริ่มย้ายเข้ามามากในช่วงการระบาดโควิด-19
ทีมข่าว SEE TRUE ได้ข้อมูลมาว่าขบวนการเปิดบัญชีม้ามีทั้งคนไทยและคนลาว โดยมีบอสใหญ่คือกลุ่มนายทุนจีนเทา ที่ไปเช่าตึกเพื่อเปิดเป็นสแกมเมอร์และหลอกเหยื่อทำบัญชีม้า โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในพื้นที่
เยาวชนกลุ่มหนึ่ง เปิดเผยว่า ถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชีม้า โดยถูกชักชวนให้ไปทำงานพิเศษ อ้างว่าจะพาไปขายของออนไลน์ แต่ต้องไปเปิดบัญชีเพื่อให้มีการโอนเงินเข้ามา จากนั้นก็หลอกล่อให้ข้ามไปฝั่งลาว กักขังไว้ เพื่อรอสแกนหน้ารับเงิน
ขณะที่ รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปิดเผยว่า ขณะนี้ในลาวพอมีฐานสแกมเมอร์อยู่บ้างแต่ยังไม่ชัดเจน บริเวณใกล้เคียงกับกาสิโนคิงส์โรมัน ซึ่งเป็นการขยายฐานของกลุ่มจีนเทาร่วมมือกับ “ว้าแดง” จากรัฐฉาน เมียนมา เข้ามาทางลาวเหนือ ต่างจากทางชเวโก๊กหรือเคเคปาร์คที่เป็นกะเหรี่ยง ซึ่งต้องจับตาดูต่อไป
ไทย ยกเป็นวาระแห่งชาติ
ขณะที่ล่าสุด 3 พ.ย.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยืนยันว่ารัฐบาลยกการปราบสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไขอยู่ มีวงเงินที่อายัดไว้กว่า 20,000 ล้านบาท และเริ่มทยอยฟ้องผู้กระทำความผิด แต่บางครั้งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
นอกจากนี้ยังมีการหารือกับ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. เสนอให้ทำบันทึกความร่วมมือ กับ 4 หน่วยงานหลัก คือ ปปง. กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ทั้งหมดนี้มาช่วยกันทำงานปราบปรามการฟอกเงิน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี