เปิดผลวิจัยยาแพง ทำผู้ป่วยเสียโอกาส แนะ สปสช. จัดสรรงบตั้งกองทุนยาราคาแพง อัดงบ 500 ล้านบาท/ปี ช่วง 3 ปีแรก
ข้อมูลจากรายงาน การพัฒนาทางเลือกเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเบิกจ่าย สำหรับมาตรการที่มีราคาแพงในระบบสุขภาพ ภาครัฐของไทย ที่นำเสนอผลวิจัยเมื่อ กุมภาพันธ์ 2567 โดยได้รับทุนวิจัยจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
ยาราคาแพง หมายถึง ยาที่มีราคาต่อผู้ป่วยต่อคนหรือต่อปีสูง ซึ่งผู้ป่วยอาจเข้าไม่ถึงยา หากต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง
ยาที่มีผลกระทบต่องบประมาณสูง หมายถึง ยาที่มีผลกระทบต่องบประมาณต่อรายการยาต่อปีสูง ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสถานะการเงินของโรงพยาบาล หากไม่มีการสนับสนุนจากระบบหลักประกันสุขภาพ
...
สรุปข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของกระบวนการพิจารณานวัตกรรมรักษาโรคขั้นสูงที่มีราคาแพง ดังนี้
1. สปสช. ควรจัดสรร "กองทุนยาราคาแพง (high-cost drug fund (HCDF)) หรือบัญชียา จ(3)" ด้วยกรอบวงเงินสำหรับสนับสนุนที่ 500 ล้านบาทต่อปีในช่วงสามปีแรก โดยทำเป็นโครงการนำร่อง
2. เนื่องจากทรัพยากรด้านสุขภาพมีจำกัด จึงควรกำหนดเพดาน ICER สูงสุดที่ยอมรับได้สำหรับยาที่มีความจำเป็นและไม่คุ้มค่า สำหรับบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ
3. สปสช. ควรนำกระบวนการพิจารณายาของบัญชียาหลักแห่งชาติมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลไกการตัดสินใจสำหรับ HCDF และควรมีกระบวนการที่ชัดเจนภายใต้การพัฒนาของบัญชียาหลักในการเสนอชื่อรายการยาราคาแพง ซึ่งแตกต่างจากยาบัญชีย่อยอื่น ๆ ของบัญชียาหลักฯ
...
4. ควรมีการติดตามและประเมินผลอย่างใกล้ชิดด้านผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบของ HCDF เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาการดำเนินงานในอนาคต
5. หากประเทศไทยต้องการเพิ่มการเข้าถึงยาราคาแพงโดยใช้ MEA ควรนำ MEA มาปรับใช้หลังจากการประเมินความคุ้มค่าร่วมกับเกณฑ์การพิจารณาอื่น ๆ
...