หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เล่าเบื้องหลังตามหาหนุ่มหลงป่า ชี้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ เผยคำบอกเล่าของหนุ่มหลงป่า มีอะไรกระแทกอกให้ตื่น.. 

ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องแปลกของวันนี้ (11 ก.ค. 67) กับการพบเจอ หนุ่มที่หลงเข้าไปในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จากนั้นก็หายตัวปริศนา แบบไร้ร่องรอยกว่า 7 วัน กระทั่ง เช้ามืดวันนี้ เขาก็เดินออกมาในสภาพแบบ “หิวโซ” โดยเดินไปที่ร้านอาหารภายในอุทยานฯ

และเมื่อเจ้าของร้านเห็น จึงได้แจ้งกับ นายฟารุต ใจทัศน์กุล นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อสอบถาม ท่ามความดีใจของญาติพี่น้องที่เข้ามาโอบกอด หาข้าวให้กิน 

“เรา” มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายฟารุต หน.อช.ภูสอยดาว เขายืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตอนที่ นายธัญวริช มะทีมา ชาวบ้านมหาสารคาม เข้ามาที่อุทยานฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นั้น มีการลงทะเบียน ลงลายมือ ตามขั้นตอนปกติ ในการเดินทางเที่ยวชมธรรมชาติในอุทยานฯ แต่ก็ไม่ได้เดินทางออก 

“หลังจากนั้น 24 ชั่วโมง ผมก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ ว่ามีคนหาย...” 

...

นาทีพบ “คนหลงป่า” และคำบอกเล่า... 

นายฟารุต เล่าถึงนาทีที่พบนายธัญวริช ว่า ตอนนี้ผู้พลัดหลงยังให้การแบบวนไปวนมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ค. ระหว่างที่กำลังเดินเข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติ ระหว่างนั้น ได้เกิดฝนตกหนัก จึงทิ้งกระเป๋าเป้ และรองเท้า เนื่องจากลื่นมาก เดินลำบาก จึงรีบไปหาที่หลบฝน 

จากนั้น เขาก็บอกว่า หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวเลย กระทั่ง เมื่อคืนที่ผ่านมา...

“ตอนที่รู้สึกขึ้นมา เพราะเหมือนมีอะไรเข้ามากระแทกที่หน้าอก หรืออะไรตกใส่ที่หน้าอก จากนั้นก็เริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ซึ่งเป็นช่วงกลางดึก ทุกอย่างมืดไปหมด สิ่งแรกที่เขารู้สึกคือเขาหิวน้ำมาก จึงค่อยๆ เดินตามเสียงลำธาร ซึ่งมันก็น่าจะอยู่ใกล้ๆ กับห้วย เขาก็ดื่มน้ำตรงนั้น และนั่งรอจนเริ่มเช้า มีแสงสว่าง จึงเดินลงมา ตามเส้นทางธรรมชาติเดิมที่ขึ้นไป” 

เบื้องหลังการหาตัว 7 วัน 7 คืน 

หัวหน้าอุทยานฯ บอกว่า หลังจากที่ทราบแน่ชัดว่า มีนักท่องเที่ยวหลงป่า เราก็มีการระดมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานมาช่วยกันตามหา ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ข้างเคียง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน โดยเป็นการเดินเท้าแบบปูพรม กว่า 100 นาย จนไปเจอจุดทิ้งสัมภาระ และก็หาบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่ง ใช้ เฮลิคอปเตอร์บินหาในวันที่ฟ้าเปิด ก็ยังไม่พบ...

เมื่อถามว่า จุดที่เขาบอก กับการตระเวนค้นหาก่อนหน้านี้ไกลกันหรือไม่ นายฟารุต ยืนยันว่า น่าจะใกล้กัน และไม่คิดว่าจะไกลจากจุดที่เจอสัมภาระ 

แปลกใจหรือไม่ ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้ยินเสียงการค้นหาจากเรา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ยอมรับตรงๆ ว่า ไม่เข้าใจ และสันนิษฐานไปต่างๆ นานา ในทางวิทยาศาสตร์ ว่าเขาอาจจะไม่รู้สึกตัว หรือความวิตกในการกลัวความผิดหรือไม่ หรือ จะทางไสยศาสตร์ ก็ไม่อาจทราบได้ 

เมื่อถามว่า ชาวบ้านลือกัน ในเรื่องเมืองลับแล หัวหน้าอุทยานฯ บอกว่า ตั้งแต่เปิดอุทยานฯ มา ก็ไม่เคยมีใครพลัดหลงป่ามาก่อน นายธัญวริช ถือเป็นคนแรกที่หลงป่าในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เพราะเส้นทางในการเดินทางเที่ยวชมธรรมชาติ มีป้ายบอกเป็นระยะ และชัดเจนมาก 

พื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว นั้นเป็นภูเขา มีทางเดินตามริมห้วย และเส้นทางที่เดินนั้น มีความยาวประมาณ 6.5 กิโลเมตร โดยขึ้นลงจะใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง โดยเส้นทางเป็นระเบียบเรียบร้อย มีป้ายบอกทุกอย่างชัดเจน ยากมากที่จะหาไม่เจอ เพราะมันก็ไม่ได้มีพื้นไหนใช้หลบได้ เจ้าหน้าที่เองก็มีการตระเวนทุกวัน 

...

“ส่วนตัวมองว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะมีคนจะหลงป่าที่นี่ได้ เพราะมันชัดเจนมากจริงๆ” 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะมีมาตรการป้องกันเข้มข้นขึ้น โดยอาจจะมีเจ้าหน้าที่ลูกหาบปิดท้ายเที่ยวสุดท้าย ซึ่งเรื่องนี้ จะมีการวางแผนกันต่อไป 

อ่านบทความ