สมาชิก

วังนางโหง

ตอนที่ 1

ooooooo

ดานุสะดุ้งตื่นผุดลุกจากเตียงอย่างเหนื่อยหอบ กวาดตามองไปทั่วจึงรู้ตัวว่าอยู่ในห้องนอน เขาก้มลงมองตัวเองที่สวมชุดนอนทำให้แปลกใจมากว่ากลับมาห้องนอนได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไร แล้วทำไมความฝันถึงเหมือนความจริงเหลือเกิน

ดานุลงมาหน้าบ้านพบนายยงกับนายคำเถียงกันเรื่องรถทุกคันสตาร์ตไม่ติดเมื่อคืน แต่ตอนนี้กลับเป็นปกติ นายคำบอกดานุว่าเป็นฝีมือผี ดานุไม่เชื่อ บอกนายคำให้เอารถไปเช็กอย่างละเอียดแล้วหันมาซักนายยงว่าเมื่อคืนเขาลงไปพายเรือหรือไม่ นายยงตอบปฏิเสธ ดานุยังไม่ทันหายสงสัย นางพันก็วิ่งมาตามนายยงให้ไปพบคุณทับที่ห้องนอนดาเรศ ดานุจึงตามไปด้วย

เมื่อเข้าไปในห้องนอนดาเรศ ดานุเห็นเจ้าของห้องกำลังกินข้าวต้มปลาที่ผู้เป็นแม่ป้อนอย่างอร่อย

คุณทับกับคุณดวงพอใจมากที่เห็นลูกสาวดีขึ้น คุณทับสั่งนายยงให้ไปตามหาพิกุลให้เจอ นายยงออกไปทันที แต่ดารายังเชื่อมั่นว่าพิกุลเป็นพวกต้มตุ๋นจนทะเลาะกับพ่อแม่ก่อนผลุนผลันออกไปทำงาน

ดานุอาสาพาดาเรศไปโรงพยาบาล เธอไม่ยอมเพราะจะรอหมอพิกุลคนเดียว คุณทับกับคุณดวงตามใจทำให้ดานุเซ็งมาก

เมื่อเขาลงไปปรับทุกข์กับแม่ ดาริกาบอกให้ดานุปล่อยผ่านเพราะคนบ้านนี้เชื่อไสยศาสตร์มานานแล้ว ชายหนุ่มขัดใจ แต่ดาริกาชอบใจ เพราะถ้าดาเรศหายป่วยจะทำให้คุณทับอารมณ์ดี สิ่งที่เธอหวังจะง่ายขึ้น ดานุไม่เข้าใจคำพูดของแม่ แต่เขาไม่ทันได้ถามมากกว่านี้ เพราะจิรวัฒน์โทร.มาตื๊อให้เขาไปช่วยงาน ดานุห่วงหน้าพะวงหลัง ดาริกาบอกลูกชายให้รีบไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะโทร.ตามเอง

ดานุมาถึงบริษัทพบวิทย์หรือวีร่า นักออกแบบเสื้อผ้าชายใจหญิง วิทย์พาดานุไปพบจิรวัฒน์ที่อยู่ในห้องประชุม ทำให้ดานุรู้ว่าจิรวัฒน์ต้องการให้เขามาเจรจากับโต นักกีฬาผู้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทที่กำลังตีรวน ดานุใช้ทั้งลูกขู่ลูกปลอบปราบโตจนอยู่หมัด จิรวัฒน์ขอร้องให้เขาอยู่ช่วยงาน แต่ดานุยังไม่ให้คำตอบเพราะเขาวางแผนว่าจะอยู่เมืองไทยชั่วคราวก่อนบินไปหาพรรวีหรือพอลลี่ แฟนสาวที่สิงคโปร์

ช่วงเวลาเดียวกัน นายยงพายเรือที่บรรทุกข้าวของจนเต็มกลับจากตลาด เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่บนท่าน้ำบ้านธนารักษ์ก็นึกว่าลูกสาวตน จึงรีบพายหวังให้ช่วยถือของ แต่หญิงสาวกลับหันหลังเดินเข้าบ้าน เมื่อนายยงหิ้วของพะรุงพะรังเดินมาถึงครัว เขาต่อว่าลูกสาว พันปฏิเสธเพราะตนทำกับข้าวอยู่ในครัวตลอดวัน นายยงแปลกใจแต่ไม่ต่อความยาวกับลูกสาวที่กลัวผีขึ้นสมอง เดินเข้าไปพบคุณทับที่ห้องพระ ทันเห็นนางพัวกำลังแอบฟังเจ้านายคุยกันอยู่

คุณทับสวดมนต์อยู่ในห้องพระ ดาริกามาพบเพื่อคุยเรื่องขายบ้านเรือนไทยของต้นตระกูลที่ระยอง คุณทับโกรธมากที่ดาริกาทำเหมือนจำคำสั่งของตนเรื่องอาถรรพณ์บ้านเรือนไทยไม่ได้ แต่ดาริกายืนกรานจะขายให้ได้

“คุณพ่อยังเชื่อเรื่องอาถรรพณ์อยู่อีกหรือคะ ถ้าเรือนนั้นมันเป็นอัปมงคล เราขายให้เขารื้อทิ้งไปซะ ไม่แน่ ยายเรศอาจจะหายขาดเลยก็ได้นะคะ”

“หยุดได้แล้วดาริกา มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันเล่นๆ พ่อขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย อย่ายุ่งกับเรือนหลังนั้นเด็ดขาด เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดาริกาชะงัก คุณทับเปิดประตูรับนายยง ดาริกาจึงเดินออกจากห้องอย่างหงุดหงิด นายยงเข้ามารายงานว่าไม่พบเบาะแสของแม่หมอลึกลับผู้นั้นเลย คุณทับประหลาดใจมาก

ooooooo

ช่วงค่ำในห้องนอนดานุที่บ้านดาริกา ดานุนั่งหลับตาอยู่บนเก้าอี้หลังจากอ่านเอกสารของจิรวัฒน์ เขาได้ยินเสียงเพลงลอยมาแผ่วเบา ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นทั้งๆที่หลับตา เดินไปเปิดประตูห้องและก้าวออกไป

ดานุเดินมาถึงท่าน้ำแล้วลืมตามองออกไป เขาเห็นเรือมาดลำหนึ่งลอยมาตามแม่น้ำ บนเรือลำนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร่ายรำตามบทกลอน ดานุก้าวเข้าใกล้เพื่อจะมองหน้าหญิงสาวที่มีผมหลุดลุ่ยปิดอยู่ให้ชัด แต่แล้วหญิงสาวคนนั้นก็ดึงปิ่นออกจากมวยผม จ้วงแทงลำคอตัวเองก่อนทิ้งร่างลงสู่สายน้ำ ดานุที่กำลังจะก้าวลงน้ำสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

ดานุสะดุ้งสุดตัวได้สติ เขามองไปรอบตัวด้วยความงุนงงและเห็นเท้าตัวเองยืนหมิ่นเหม่อยู่ขอบสระว่ายน้ำในบ้าน เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยังดังไม่หยุด เขาหยิบขึ้นมาดูจึงเห็นชื่อพรรวี แฟนสาวของเขาโทร.มาจากสิงคโปร์

ดานุสไกป์มาคุยกับพรรวีซึ่งกำลังงอนเต็มที่เพราะเขาบินไปหาที่สิงคโปร์ตามแผนไม่ได้ เธอประชดดานุโดยเล่าว่าเจอผู้ชายที่เคยตามตื๊อและกำลังจะออกไปดื่มกัน แต่ดานุไม่ใส่ใจ ระหว่างที่พรรวีตัดพ้อเขาด้วยความน้อยใจ จู่ๆมีลมพัดเข้ามาในห้องดานุ เอกสารปลิวว่อนทำให้เขาต้องไล่คว้าจนแจกันล้มน้ำหกเลอะเอกสาร ดานุตัดบทขอวางสาย พรรวีไม่พอใจมาก แต่ด้วยแรงยุของเพื่อนซี้อย่างเพียงฟ้าและจอมขวัญ เธอจึงออกไปดื่มอย่างไม่แยแส

ดานุจับแจกันตั้ง สะบัดน้ำออกจากเอกสารแล้วรีบวิ่งไปปิดหน้าต่างเพื่อไม่ให้ลมพัดเข้ามา แต่ประตูหน้าต่างปิดอยู่เพราะเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ ดานุงงมากว่าลมพัดเข้ามาได้อย่างไร พลันเขาก็นึกถึงพิกุลและคำพูดแฝงนัยของเธอเมื่อคืน ดานุสะบัดหัวเหมือนจะสลัดความคิดรบกวนนั้นทิ้งเพื่อตั้งใจทำงานแต่ก็ทำไม่ได้ภาพ และคำพูดของพิกุลผุดขึ้นมาในหัวตลอด เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเป็นเวลาห้าทุ่ม

ooooooo

ช่วงเวลาใกล้เที่ยงคืนที่บ้านธนารักษ์ คุณทับ นายยงและนายคำชะเง้อรอพิกุลอยู่ที่ท่าน้ำ นายคำแสดงอาการกลัวผีอย่างเห็นได้ชัดจนนายยงพ่อตาต้องออกปากปราม ส่วนคุณทับออกอาการกังวลจากการยกนาฬิกาพกขึ้นดูเวลาบ่อยๆ

เมื่อเห็นว่าในบ้านปลอดคน นางพัวจึงไปเคาะห้องนอนดาราผู้เป็นนายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ดาริกาเข้าไปคุยกับคุณทับเมื่อบ่ายเรื่องขายบ้านเรือนไทยของต้นตระกูลที่ระยอง ทำให้ดาราไม่พอใจมาก

ส่วนดาริกานั่งดูภาพถ่ายเรือนไทยที่ระยองที่ถ่ายเก็บไว้ในแท็บเล็ตอย่างคิดไม่ตก เธอเดินไปหาคุณดวงที่ห้องดาเรศ พบผู้เป็นแม่กำลังจะไปเตรียมอาหารให้น้องสาวพอดี ดาริกาจึงพาคุณดวงมาขอร้องให้คุณดวงช่วยพูดกับคุณทับเรื่องขายบ้านเรือนไทยที่ระยอง คุณดวงปฏิเสธเพราะกลัวอาถรรพณ์แม้ดาริกาจะบอกแม่ว่าที่ดินตรงนั้นมีราคาสูงมาก

“ตกลงไอ้อาถรรพณ์ที่ว่ามันคืออะไรกันแน่คะ แค่คุณทวด อาทวนกับอาทันจมน้ำตายเหมือนกันแค่นั้นเหรอคะ ทำไมคุณแม่ไม่คิดบ้างว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรืออุบัติเหตุ”

“คุณทวดกับอาทวน อาทัน ไม่ได้จมน้ำตาย”

ดาราเดินเข้ามาพอดี สองพี่น้องทะเลาะกันรุนแรง ช่วงเวลาเดียวกันดาเรศตื่นขึ้นเห็นคุณดวงนั่งหันหลังให้จึงขยับตัวไปหาหมายจะถามถึงหมอพิกุล แต่ใบหน้าที่หันกลับมาแสยะยิ้มให้กลับไม่ใช่คุณดวง ดาเรศกรีดร้องสุดเสียงพร้อมกับไฟฟ้าที่ดับลง คุณดวง ดาริกาและดาราเมื่อได้ยินเสียงหวีดร้องของดาเรศจึงวิ่งไปที่ห้องนอนดาเรศทันที

ทางท่าน้ำ คุณทับผุดลุกผุดนั่งดูนาฬิกาสลับกับมองไปทางแม่น้ำ นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนแล้วแต่พิกุลก็ยังไม่มา คุณทับได้ยินเสียงร้องของดาเรศดังมาแว่วๆ จึงหันไปดูทางเรือนเห็นไฟดับมืด ด้านนายคำที่มองไปทางแม่น้ำก็เห็นแสงตะเกียงวับแวมมาจากเรือพิกุลพอดี คุณทับยิ้มออก วิ่งไปรับพิกุลที่บันไดท่าน้ำพาไปหาดาเรศทันที

ที่ห้องนอนดาเรศ ดาราถือไฟฉายเปิดประตูเข้าไป ดาริกาประคองคุณดวงตามมา แต่ไม่พบดาเรศบนเตียง ทุกคนตกใจช่วยกันหาดาเรศ ดาริกาพบน้องสาวปิดหน้าตัวสั่นซุกอยู่ข้างเตียง คุณดวงเดินไปหา ดาเรศหลอนคิดว่าคุณดวงเป็นผีจึงกรีดร้องคลานหนีไปชนขาพิกุลที่ก้าวเข้ามาในห้องพอดี เธอเงยหน้ามองเห็นว่าเป็นพิกุลที่กำลังยิ้มให้จึงโผกอดด้วยความดีใจ

พิกุลพาดาเรศไปนอนบนเตียงโดยมีคุณดวงนั่งประกบอยู่อีกข้าง ดาเรศเล่าเหตุการณ์ที่เข้าใจคิดว่าผีเป็นแม่ให้พิกุลฟัง ดาราฟังแล้วเบ้ปากหันไปใส่อารมณ์กับพิกุลว่าเป็นแก๊งต้มตุ๋นหลอกผี พิกุลไม่ใส่ใจยังคงอธิบายต่อด้วย น้ำเสียงเย็นว่าเธอได้ขอให้พวกผีออกไปจากเรือนแล้ว แต่พวกเขายังออกไปไม่ได้ ดาริกาขำ อดแย้งไม่ได้ พิกุลอธิบายต่อเรื่อยๆว่าพวกเขาจะยังไม่ไปไหนจนกว่าคนที่ทำร้ายพวกเขาจะได้รับโทษอย่างสาสม

คุณทับกับคุณดวงตกใจ คุณดวงแย้งว่าดาเรศเป็นคนใจบุญ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำร้ายใครแม้แต่มดซักตัว

พิกุลอธิบายต่อ “แน่ใจเหรอคะว่าเราจดจำทุกการกระทำของเราได้ ในเมื่อเราแต่ละคนเดินทางกันมา ไกลมากและยังคงต้องเดินทางต่อไป...ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง พอๆกับที่เราเองก็ไม่รู้ว่า เคยทำอะไรกับใครมาบ้าง”

คุณทับเครียดเพราะรู้ดีว่าบรรพบุรุษทำอะไรไว้จึงขอความช่วยเหลือจากพิกุล ดาราไม่เชื่อ ท้าให้พิกุลเรียกผีมาเจรจาจบเรื่องราว พิกุลหันขวับมองดารา ทันใดดาราก็ทรุดลงเหมือนโดนผลัก เธอพยายามลุกแต่ลุกไม่ขึ้น มีเพียงพิกุลกับดาเรศเที่เห็นผีไอ้ทองกดไหล่ดาราอยู่ พิกุลยิ้มมุมปากให้ดาราแต่ดาเรศร้องเอะอะว่ามีผีกำลังทำร้ายพี่สาว

ผีไอ้ทองยกโซ่ที่ล่ามข้อมือมันขึ้นมารัดคอดาราจนตาเหลือก คุณทับจะไปช่วยแต่พิกุลห้ามและเดินเข้าไปแทน เธอจ้องตาผีไอ้ทองพลางท่องบทแผ่เมตตาอยู่สักครู่ ผีไอ้ทองหายวับไป ดารารีบลุกขึ้น มองพิกุลอย่างหวาดกลัว ไฟฟ้ากลับสว่างขึ้นอีกครั้ง

ดาราวิ่งกลับไปที่ห้องนอนเพื่อค้นหาพระเครื่องมาสวมคอกันผี เล่าให้นางพัวฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน สองนายบ่าวหวาดกลัวมาก ช่วงเวลาเดียวกันดานุมาถึงบ้านธนารักษ์ เขาถามอาการดาเรศจากนายยงที่มาเปิดประตูรั้วให้ นายยงอึกอัก เขาจึงรีบเดินไปท่าน้ำทันคุณทับที่เดินไปส่งพิกุลพอดี

ooooooo

คุณทับเดินมาส่งพิกุลที่ท่าน้ำ เขาขอโทษพิกุลแทนดาราและพยายามขอร้องเธอให้ช่วยดาเรศจนสำเร็จ คุณทับถามพิกุลอย่างหวาดกลัวว่าวิญญาณร้ายจะกลับ มาอีก พิกุลตอบว่าพวกมันจะไม่ไปไหนจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ

“แต่แม่หนูยังไม่ได้บอกว่าพวกเขาต้องการอะไร”

“ท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้ว หนี้บางอย่างถึงจะ ผัดผ่อนได้ก็เพียงระยะหนึ่ง ไม่ใช่ตลอดไป และบางทีอาจจะถูกคิดดอกเบี้ยทบต้นก็ได้”

คุณทับตกใจกลัวจนหมดแรงทรุดนั่ง ดานุเดินเข้ามาทันประคองพอดี คุณทับยังไม่ละความพยายาม ถามพิกุลว่าจะขออโหสิกรรมจากวิญญาณร้ายพวกนั้นได้ไหม พิกุลตัดบทว่าดึกแล้วไว้คุยกันวันหลังดีกว่า

คุณทับส่งเงินให้พิกุลก้อนหนึ่ง เธอยกมือไหว้ขอบคุณแต่ปฏิเสธรับเงิน ดานุไม่พอใจ คุณทับสั่งนายยงให้ส่งพิกุล แต่ดานุบอกว่าจะส่งพิกุลเอง หันไปบอกนายยงให้พาคุณทับขึ้นบ้าน และหันกลับไปหาพิกุลปรากฏว่าเธอหายไปแล้ว ดานุมองหา เห็นพิกุลยืนยิ้มให้อยู่ด้านหลัง เขายิ่งไม่พอใจที่ถูกยั่วโมโห

คุณทับกลับขึ้นเรือนเข้าห้องพระ เขาไปยืนเกาะผนังหมดแรงมองรูปถ่ายและโกศกระดูกที่ตั้งเรียงราย อธิษฐานขอให้บรรพบุรุษช่วยคุ้มครองลูกหลานตระกูลธนารักษ์ราชภักดีด้วยเถิด

ทางท่าน้ำ พิกุลก้าวลงไปนั่งที่บันไดท่าน้ำ ดานุตามติด เธอเปิดโอกาสให้เขาซักถามได้ตามใจ ดานุใส่อารมณ์เต็มที่เพราะเขาไม่เชื่อเรื่องผีและบาปกรรมตามที่เธอพูด เขาเตือนว่าอย่าให้ความหวังลมๆแล้งๆกับคนที่กำลังทุกข์หนัก

พิกุลย้อนถามดานุ “คุณเข้าใจเรื่องบาปกรรมแค่ไหนคะ”

“กรรมก็คือการกระทำ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น มันไม่ใช่ว่าจะมาแก้กันง่ายๆด้วยเวทมนตร์คาถา หรือใช้เงินซื้อ แบบที่คุณทำอยู่”

“ก็ถูกนะคะ แล้วคุณคิดว่าจะแก้ได้ด้วยอะไร”

“เราไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขสิ่งที่แล้วมาได้ แต่เราแก้ที่ปัจจุบันได้”

“หมายความว่าคุณยอมรับความผิดและเต็มใจชดใช้”

“ถ้าเป็นผม ผมยอมรับและก็จะรับผิดชอบการกระทำทุกๆอย่าง แต่มันต้องเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่าผมทำจริงๆ ไม่ใช่จะมาสร้างจินตนาการเรื่องเวรกรรมตั้งแต่ชาติภพที่แล้วให้ผมเชื่อ”

“สรุปแล้ว คุณก็จะเชื่อเฉพาะสิ่งที่คุณเห็น...สัมผัสได้ และจดจำได้”

“ใช่ เพราะฉะนั้น....ผมขอพูดตรงๆเลยนะ ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีการรักษาของคุณ แล้วถ้าผมเห็นว่า คุณแนะนำให้ครอบครัวผมทำอะไรที่ไร้เหตุผล ผมคงอยู่เฉยไม่ได้”

พิกุลยิ้มเยาะ “ฉันนึกว่าที่คุณอยู่เฉยไม่ได้ ต้องรีบมาพบฉันเพราะคุณเจอเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้เสียอีก”

ดานุอึ้ง พิกุลลุกขึ้นหยิบตะเกียงลงเรือแล้วหันมาพูดกับเขาว่า “เอาเป็นว่าเรามาพิสูจน์กันว่าสิ่งที่ฉันกับคุณเชื่อ ฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะ”

พิกุลพายเรือออกไป จู่ๆฟ้าแลบและร้องอยู่ไกลๆ ลมพัดแรง ดานุชะเง้อมอง แสงฟ้าวาบทาบไปที่ตัวพิกุลจนหายไปในความมืด เมื่อฟ้าแลบอีกครั้ง ปรากฏร่างผีไอ้ทองกับผีอีแก้วอยู่ด้านหลังดานุ จ้องมองเขาด้วยสายตาเกลียดชัง

ooooooo

วังนางโหง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด