ตอนที่ 1
ณ คลองภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
ชาวบ้านริมคลองสองฟากฝั่ง ต่างวุ่นอยู่กับกิจวัตรประจำวันของตัวเอง เด็กๆสนุกสนานกับการเล่นน้ำ เด็กหญิงนุ่งผ้าถุงผืนน้อย เด็กชายเอามือกุมจำปีน้อยกระโดดน้ำกันตูมตาม สนุกประสาเด็กริมคลอง
ที่กลางลำคลอง มีเรือยนต์แบบเรือข้ามฟากขับมาไม่เร็วนัก บนเรือมีคำแก้ว เด็กสาววัยขบเผาะนั่งมองสองฟากฝั่งคลองที่แปลกตาจากบ้านเกิดของตนทางเหนือ ข้างตัวมีกระเป๋าหวายวางอยู่ 2 ใบ ข้างหน้าคำแก้วคืออาจิวทนายหน้าหอของเจ้าสัวเชงสือเกียงในวัย 60 เศษ อาจิวหันบอกคำแก้วว่า
"อีกไม่ไกก็จะถึงคฤหาสน์เจ้าสัวเลี้ยว วังนี้เป็นวังไหว้ เจ้าโหงวเหว่ยโจ่ย"
"แปลว่าอะไร" คำแก้วถามงงๆ
"เป็งเทดสะกางไหว้ขนมบะจ่าง"
คำแก้วทวนว่า "ขนมจ่าง" ด้วยเสียงพิศวง อาจิวย้ำว่า "บะจ่าง...ขนมบะจ่าง"
คำแก้วยังทวนชื่อขนมอย่างไม่เข้าใจ สองมือจับหูกระเป๋าหวายไว้แน่นเหมือนหาที่ยึดเหนี่ยว
ooooooo
ภายในคฤหาสน์เจ้าสัว บรรดาคนใช้พ่อครัวแม่ครัว ต่างเตรียมข้าวของสำหรับไหว้เจ้าโหงวเหว่ยโจ่ย กันตามหน้าที่
อาหลีกุ๊กใหญ่กับอาย้งผู้ช่วย กำลังนึ่งบะจ่างและกีจ่าง กันควันโขมง
ป้าพุ่มแม่ครัวไทยกับเป้าผู้ช่วย ต้มไก่ หมู 3 ชั้น เป็ดพะโล้ ปลาต้ม ตับหมูต้มชิ้นใหญ่ ต้มแล้วเอามาวางเรียง เอากระดาษแดงวางบนของไหว้ ที่ปากเป็ดและไก่ยังมีพู่แดงห้อยอยู่ด้วย
เมื่อเตรียมของไหว้เสร็จ ก็ยกตามกันไปตามลำดับ อาอึ้มในวัย 60 เศษเดินนำหน้า ตามด้วยป้าพุ่มและเป้า ต่อด้วยเจ็กหลีและอาย้งโดยเจ็กหลีถือถาดบะจ่างอาย้งถือถาดกีจ่าง
ทั้งหมดเดินตามอาอึ้มเข้าไปในห้องโถงแล้วเลี้ยวเข้าไป ทางห้องบรรพบุรุษที่ตั้งโต๊ะไหว้เจ้า
เจ้าสัวเชงสือเกียงในวัย 60 เศษเดินออกจากห้องรับแขกท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แม้วัยจะล่วงเลยเข้า 60 เศษแล้ว แต่เจ้าสัวดูมาดมีอำนาจ น่าเกรงขาม เข้ม และหล่อ...
เจ้าสัวมีคุณนาย 3 คนคือ เม่งฮวยที่มาจากเมืองจีน เยนหลิง และเหม่เกว่ หรือโรส นางเอกงิ้ว
ที่ ประตูห้องเม่งฮวยผู้เป็นคุณนายใหญ่เปิดออก อาฮุ้ง คนรับใช้ประจำตัวคุณนายใหญ่เป็นคนเปิดประตูให้ คุณนายใหญ่ เดินหน้าเชิดคอแข็งออกจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม พลันก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงประตูอีกห้องเปิด หันมอง เห็นอาเง็กคนรับใช้คุณนายสองเปิดประตูให้เยนหลิง
คุณนายสองเดินหน้านิ่งออกมา
เยนหลิงในมาดผู้ดีค้อมศีรษะนิดๆให้เม่งฮวยเป็นการเชิญคุณนายใหญ่ลงไปก่อน เม่งฮวยสะบัดหน้าเดินเชิดผ่านเยนหลิงไป คุณนายใหญ่และคุณนายสองเดินลงบันไดตามกันลงมา โดยมีอาฮุ้งกับอาเง็กเดินตามลงมาตามลำดับ
พอคุณนายที่หนึ่งและที่สองเดินลงมาถึงห้องโถงชั้นล่าง เจ้าสัวเห็นยังไม่ครบก็ถามอย่างตำหนิว่า
"เหม่เกว่ล่ะ ยังไม่มาตามเคย"
"มาเลี้ยววว" เสียงแหลมใสของโรสหรือเหม่เกว่ แจ๊ดเข้ามาก่อนตัวจะนวยนาดลงบันไดมาในมาดนางเอกงิ้ว โดยมีอาจูเดินตามหลังห่างๆ เมื่อลงมาถึงก็ยืนส่งยิ้มหวานให้เจ้าสัว
เม่งฮวยกับเยนหลิงมองโรสอย่างไม่พอใจ เจ้าสัวถามเสียงเข้มว่า "ฮ้อบ่วย" โรสตอบเสียงใสแหลมตามเคยว่า "ฮ้อเลี้ยว..."
เมื่อทุกคนพร้อมเจ้าสัวลุกนำไป เม่งฮวย เยนหลิง และเหม่เกว่หรือโรสก็เดินเรียงตามลำดับ เดินตามเจ้าสัวเข้าไปในห้องบรรพบุรุษ
ภายในห้อง อาอึ้มคอยเป็นผู้ช่วยในการทำพิธี เจ้าสัวกับคุณนายทั้งสามต่างยกธูปพนมมือไหว้ ทุกคนอธิษฐานเสร็จแล้วลุกขึ้นยืน อาอึ้มรับธูปจากทีละคนไปปักในกระถาง เจ้าสัวบอกบรรดาคุณนายว่า
"เสร็จแล้ว" แต่พอคุณนายจะพากันออกจากห้องเจ้าสัวก็เอ่ยขึ้นอีกว่า "เหลียว...เลามีอาไลจาบอกทุกคน" คุณนายทั้งสามต่างหันมองเจ้าสัวพร้อมกัน
ooooooo
ที่ท่าน้ำบ้านเจ้าสัว คำแก้วมาถึงแล้วแต่ยังนั่งนิ่งอยู่ในเรือ อาจิวบอกว่าตนจะไปเรียนเจ้าสัวว่ามาถึงแล้วพลางลุกจากเรือไป
สิ่งที่เจ้าสัวบอกแก่คุณนายทั้งสามคือ "วันนี้คุณนายสี่ จะมาถึง"
คุณนายทั้งสามร้องเป็นเสียงเดียวกัน "อะไรนะ" แล้วโรสก็ร้องเสียงแหลมยาว "ไอ้หยาาา"
"ตกจายอาไลกันนักหนา พวกลื่อเป็นเมียหนึ่ง...เมียสอง...เมียสามล่าย ทำมายคำแก้วจามาเป็นเมียสี่ม่ายล่าย" เจ้าสัวถาม
เมียทั้งสามแย่งกันพูดในอารมณ์เดียวกันว่าไหนเฮียบอกว่าจะพอแล้วไง ไหนบอกว่าจะไม่มีอีกและต่อด้วยเสียงสุดท้ายของโรสเหมือนตะโกนอยู่บนเวทีงิ้ว ว่า
"หนายบอกว่าจามีอั๊วคงสุกท้ายไง"
เจ้าสัวทำเสียงดุว่า นั่นพูดไว้ปีที่แล้ว โรสโต้ว่าเจ้าสัวสัญญากับตนแล้วทำไมไม่รักษาสัญญา เยนหลิงเลยศอกกลับเอาว่าให้นึกถึงตอนที่ตัวเองมาเป็นคุณนายสามทั้งๆที่นายมีคุณนายสองอย่างตนอยู่แล้วบ้าง ถูกโรสแหวกลับมาว่า
"ม่ายนึก" แล้วหันไปอ้อนเจ้าสัว "นายทำมายต้องมีสี่ สามม่ายพอเหรอ"
"งั้นอั๊วถามมั่งว่าทำมายต้องมีสอง...สาม...สี่ หนึ่งม่ายพอเหรองาย" เม่งฮวยเอาบ้าง
โรส ค้อนใส่บอกว่าหนึ่งอย่างคุณนายใหญ่ไม่พออยู่แล้ว เม่งฮวยหันไปต่อว่าเจ้าสัวว่าไหนบอกว่าไม่ให้มันเถียงตน เยนหลิงที่นิ่งอยู่นานถามเจ้าสัวว่า
"นายคะ นายไม่กลัวคนว่าหรือคะ สี่คนมันมากไปนะคะ"
"หยุด! ทุกคนหยุด เงียบ ม่ายต้องพูด อีกำลังมา" เจ้าสัวสั่งเข้ม ทุกคนหุบปากเงียบทันที
ooooooo
ที่ท่าน้ำบ้านเจ้าสัว...คำแก้วหิ้วกระเป๋าหวาย 2 ใบขึ้นจากเรือมายืนที่ท่าน้ำ มองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจกับที่อยู่ใหม่ แล้วจึงค่อยๆเดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านจนมาถึงลานซักผ้า มีกิมลั้งเด็กสาวจีนที่แก่นแก้วไม่กลัวใครและหมายสูง กับผินและอ่อนนั่งซักผ้ากันอยู่ พอเห็นคำแก้วหิ้วกระเป๋าหวายสองใบเดินมา ก็ทำกร่างลุกไปลอยหน้าถามว่ามาหาใคร
คำแก้วมองบรรดาสาวใช้แล้วเดินเข้าหาด้วยสีหน้าเป็นมิตร ผินมองอย่างเย็นชามีแต่อ่อนที่มองคำแก้วด้วยสายตาเป็นมิตร แต่พอคำแก้วได้ยินกิมลั้งกระชากเสียงถามเช่นนั้นก็หุบยิ้มหน้านิ่งทันที ความรู้สึกเครียดเริ่มเกาะกุมความรู้สึก
กิมลั้งเห็นคำแก้วทำเฉยก็ได้ใจ พูดยั่ว หัวเราะเยาะเย้ยเห็นคำแก้วไม่โต้ตอบก็ล้อว่าเป็นใบ้แบะๆ ถามว่าจะมาสมัครเป็นคนใช้ที่นี่หรือ เขาไม่รับแล้ว ไปข้างหน้าเถอะ พูดแล้วหัวเราะเยาะ ผินผสมโรงด้วย
"ขำอะไร" คำแก้วถามเสียงดัง กิมลั้งกับผินหยุดหัวเราะ คำแก้วถาม "หรือว่าเป็นบ้า"
กิมลั้งหัวเราะอีกพูดเยาะเย้ยตามเคยว่าสารรูปเหมือนขุดมาจากหลุม ดูหน้าก็รู้ว่าสติไม่ดีพูดยั่วยุเหยียดหยามจนคำแก้วสั่งให้หยุด กิมลั้งยังไม่หยุดซ้ำยั่วหนักกว่าเดิม
อาจิวเข้าไปรายงานเจ้าสัวว่าคำแก้วมาถึงแล้ว เจ้าสัวอนุญาตให้พาเข้ามาที่ห้องบรรพบุรุษนี่เลย อาจิวโค้งรับคำแล้วรีบเดินย้อนกลับไป
ooooooo
ที่ลานซักผ้า บรรยากาศยังคุกรุ่น เมื่อถูกกิมลั้งเยาะเย้ยเหยียดหยันอย่างคะนองปาก คำแก้วสั่งเสียงดังให้หยุดหัวเราะและมายกกระเป๋าขึ้นบ้าน กิมลั้งย้อนเยาะว่า "ใหญ่จังเจ๊"
แต่กิมลั้งยังคะนองไม่เลิกทำท่าล้อเลียน คำแก้วพรวดเข้าผลักกิมลั้งจนล้มก้นจ้ำเบ้า คราวนี้เลยหยุดหัวเราะอุทานหน้าเสีย "เฮ้ย! อะไรกันวะ"
คำแก้วไม่สนใจหิ้วกระเป๋าสองใบเดินเชิดไปทางตึก แต่ไปไม่กี่ก้าวก็หันมองกิมลั้งด้วยสายตาคมกริบ พูดให้สำเหนียกว่า "ใหญ่ไม่ใหญ่อีกหน่อยก็รู้เอง!"
กิมลั้งยังไม่สะดุดใจ ยังกร่างบอกผินกับอ่อนว่าจะตามไปถามดูว่า "มันเป็นใคร"
ผิน ยุให้ไปเลย แต่อ่อนทักท้วงว่าให้ดูไปก่อน เพราะเขารู้ว่าเราเป็นแค่คนใช้ แสดงว่าเขาไม่ใช่คนใช้ กิมลั้งจึงฉุกคิดยิ้มลึกๆ ในหน้าพึมพำ "ไม่ใช่คนใช้แล้วมันเป็นใครล่ะ?" พลางเดินตามไป
ooooooo
ที่ห้องบรรพบุรุษ คุณนายทั้งสามยังรุมกันตัดพ้อต่อว่าเจ้าสัวไม่หยุด เม่งฮวยถามว่าทำไมเพิ่งมาบอก เยนหลิงบอกว่าเราไม่ทันตั้งตัวเลย ส่วนโรสเสียงแหลมว่าสามคนพอแล้วมีทำไมตั้งสี่คน
เยนหลิงฉุกคิดได้ถามว่านายเพิ่งกลับจากเมืองเหนือคนนี้มาจากเมืองเหนือใช่ไหม เป็นลูกสาวของลูกหนี้นายใช่ไหม
"พวกลื้อปายพักผ่อนกันล่ายเลี้ยว" เจ้าสัวตัดบท เห็นทั้งสามทำท่าหูทวนลมเลยเสียงดังให้ไปกันทั้งหมดไม่ต้องคอย เยนหลิงบอกว่าอยากอยู่รับด้วยตนจะเอาเมล็ดแตงโมจากเมืองจีนมาต้อนรับคุณนายที่สี่ เจ้าสัวบอกว่า "อาเยนหลิงลื้อกลับปายแทะเมล็ดแตงโมที่ห้องลื้อเถอะ" เยนหลิงเลยจำต้องออกไป
เจ้าสัวสั่งทุกคนให้ออกไปให้หมดยกเว้นอาอึ้ม พอคุณนายทั้งสามออกไปอาจิวก็พาคำแก้วเข้ามา อาอึ้มมองแวบหนึ่งกระซิบถามเจ้าสัวว่ายังเป็นนักเรียนหรือ เจ้าสัวบอกว่าเรียนจบแล้ว พลางเรียกคำแก้ว
"คำแก้ว นี่อาอึ้ม อาอึ้มเป็นแม่บ้านอยู่มานานเลี้ยว อีจาเป็นคนพาไปห้อง"
เมื่อคำแก้วรับคำเจ้าสัวสั่งอาอึ้มให้พาคุณนายที่สี่ไปห้อง กิมลั้งสาระแนตามมาแอบฟังถึงกับตะลึงอึ้งเมื่อรู้ความจริงว่าคำแก้วเป็น คุณนายที่สี่
ooooooo
ห้องที่จัดให้คำแก้วนั้นแต่งแบบทางเหนือกลายๆ อาอึ้มหิ้วกระเป๋าจะจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้ คำแก้วรีบเดินมาดึงกระเป๋าส่ายหน้าทำนองว่าไม่ต้อง อาอึ้มเลยเดินออกจากห้องไป คำแก้วจึงเปิดกระเป๋าออกมองดูชุดสวยที่ตัดด้วยผ้าไหมสีชมพูวางอยู่ ทำให้คิดถึงที่มาของชุดนี้...
เวลานั้นคำแก้วอายุเพิ่งจะย่างสิบขวบ แม่ยกผ้าไหมสีชมพูให้คำแก้วดู คำแก้วชมว่างามแต้ๆ
"แม่ทอเสร็จวันนี้ ฮื่อแก้วใส่วันแต่งงาน" แม่บอกอย่างภูมิใจ
"ลูกสาวงามต้องแต่งให้งามใช่ก่อเจ้า" คำแก้วถามแม่
"งามอย่างเดียวบ่ปอนะลูก ต้องเป็นคนดีโตย"
คำแก้วนึกถึงคำของแม่แล้วน้ำตาหยดเผาะลงบนชุด บอกแม่ผ่านชุดแห่งความหวังว่า
"แม่...แก้วบ่ได้เป็นคนดีของแม่อีกต่อไป..." แล้วร้องไห้เสียใจกับความจริงวันนี้
ooooooo
คุณนายทั้งสามต่างกลับไปนั่งคิดคุมแค้นที่ห้องตัวเอง คุณนายใหญ่กระแทกถ้วยน้ำชาจนกระฉอกพึมพำ "เจ๊กอั้ก...บาปกรรมจริงๆ"
อาฮุ้ง สาวใช้ประจำตัวบอกว่าวันนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับคุณนายที่สี่ เม่งฮวยบอกว่าไม่อยากไป เมื่อเฮียทำอะไรไม่เกรงใจกันตนก็ไม่อยากร่วมโต๊ะด้วย ปล่อยให้อีนังเยนหลิงไปต้อนรับคนเดียว
ส่วนที่ห้องเยนหลิง เง็กสาวใช้ประจำตัวลอยหน้าเล่าว่าเจ้าสัวสั่งอาจิวให้จัดงานเลี้ยงอย่างใหญ่โตหรูหราเต็มที่เลย เยนหลิงสะบัดพัดหุบอย่างเร็วตบลงที่ตักอย่างแรงด้วยความไม่พอใจ
ส่วน โรสหรือเหม่เกว่คุณนายที่สามนางเอกงิ้วที่ถือว่าตัวเองสวยและสดกว่าใครๆ ฟังอาจูสาวใช้ประจำตัวรายงานว่า ท่านเจ้าสัวให้จัดเลี้ยงเป็นการภายใน เชิญเฉพาะเถ้าแก่โรงงานใหญ่ที่สนิทๆกับภรรยาเท่านั้น
ฟังแล้วโรสยิ้มเหยียดคิดว่าอย่างไรเสียคุณนายที่สี่ก็สวยสู้ตนไม่ได้แน่ มือจับแพรพรรณสะบัดอย่างนางเอกงิ้ว พูดอย่างไม่แยแสว่า "เลี้ยงล่ายเลี้ยงปาย"
แต่ที่แน่ๆคือ คุณนายทั้งสามต่างก็ถามสาวใช้ของตัวเองว่าเห็นหน้าคุณนายที่สี่หรือยัง สวยไหม อาเง็กตอบเอาใจเยนหลิงว่าขาวจั๊วะ ขาวจนซีด
ส่วนโรสบ่นอาจู ที่ยังไม่ได้ไปดูหน้าคุณนายที่สี่ว่า "ม่ายล่ายหลั่งใจเลย" ขู่ว่าจะเปลี่ยนเอากิมลั้งมาแทนดีกว่า แต่บอกอาจูว่าถ้าคุณนายที่สี่มาหา อย่าเปิดประตูเด็ดขาด
ooooooo
เจ้าสัวพาคำแก้วในชุดเดิมไปคารวะคุณนายทั้งสามบอกว่านี่เป็นประเพณี ที่เมียหลังต้องหาเมียก่อนแล้วพาคำแก้วไปที่ห้องเม่งฮวยตามลำดับอาวุโส
อาฮุ้งเปิดประตูห้องรับบอกว่าอาตั่วไน่สวดมนต์อยู่
เม่งฮวยนั่งอยู่หน้าพระพุทธรูป พึมพำ "เจ๊กอั้กเจ๊กอั้ก" เจ้าสัวพาคำแก้วเดินเข้ามาแนะนำว่า
"นั่นเมียคนแลกของเลา ชื่อเม่งฮวยเป็นเมียเมืองจีน"
เม่งฮวยลืมตาดู ตวัดสายตาเล็กหยีคมกริบจ้องหน้าคำแก้ว จนเธอต้องหลบไปอยู่หลังเจ้าสัว เม่งฮวยลุกขึ้นอย่างเร็วจนสายลูกประคำศักดิ์สิทธิ์ขาด ลูกประคำร่วงกราว เม่งฮวยอุทาน"
"ไอ้หยา บาปกรรม...บาปกรรมจิงๆ เวรกรรมแท้ๆ" ตวัดตามองคำแก้ว "ตัวซวย...ตัวซวยจิงๆ" คำแก้วจะเข้าช่วยเก็บก็ถูกผลักจนเซ ตวาดใส่ "ไม่ต้องยุ่ง"
เจ้าสัวถามเสียงเข้มว่าทำไมทำอย่างนี้ ตนพาคำแก้วมาคารวะแท้ๆ คำแก้วรีบยกมือไหว้ เม่งฮวยเมินไม่รับไหว้ ปากก็ยังพึมพำ "บาปกรรม...แก่แล้วม่ายเจียมตัว" แต่พอเจ้าสัวถลึงตาใส่เม่งฮวยก็หลบตา เจ้าสัวพูดอย่างรำคาญว่า "อั๊วไปก่อนล่ะ...เฮ้อ..."
เม่งฮวยถามเจ้าสัวว่าบอกคำแก้วหรือยังว่า ตนดูแลกิจการของบ้านนี้ เจ้าสัวตอบห้วนๆ "เออ..." แล้วพาคำแก้วออกไป เม่งฮวยหันมาถามอาฮุ้งว่าเห็นไหม หน้าขาวเหมือนปิศาจ น่าเกลียด!
คำแก้วใจไม่ดีจับแขนเจ้าสัวไว้ เจ้าสัวปลดมือเธอออกบอกว่าเดี๋ยวใครเห็น ถามว่าเมื่อกี้รู้ไหมว่าเม่งฮวยพูดอะไร คำแก้วบอกว่า "คุณนายดูแลกิจการของบ้านนี้ค่ะ" เจ้าสัวพยักหน้าพูดอย่างพอใจว่า ดีไหม ใครไม่ทำก็ไม่ต้องเหนื่อย แล้วพาไปคารวะคุณนายที่สองต่อไป
ooooooo
มาถึงห้องเยนหลิงคุณนายที่สอง คำแก้วยกมือไหว้เยนหลิงอย่างนอบน้อม เยนหลิงเชยคางคำแก้วขึ้นดูอย่างเมตตา ชมว่าสวย สวยมาก ชมเจ้าสัวว่าตาแหลม ติว่าทำไมถึงแต่งชุดนักเรียนอย่างนี้ กรีดนิ้วคีบแขนเสื้อคำแก้วแล้วถามว่ามีเสื้อผ้าไหมมาเอาของตนก็ได้
แล้วเยนหลิงก็ไล้ไปตามแขนคำแก้วชมว่าผิวขาวสวยจริงๆ จากนั้นสั่งอาเง็กให้เอาจานเมล็ดแตงโมมา เจ้าสัวลงมือสอนให้คำแก้วขบเมล็ดแตงโมเอง
เยนหลิงมองเจ้าสัวที่สอนคำแก้วขบเมล็ดแตงโมกระหนุงกระหนิงด้วยแววตาล้ำลึกคมกริบ เจ้าสัวชมเยนหลิงว่าเมล็ดแตงโมจากเมืองจีนนี่ดีสมกับที่จัดมาให้จริงๆ
เยนหลิงสบตาเจ้าสัวแย้มยิ้มเชิญชวน ขอให้อยู่อีกประเดี๋ยว เจ้าสัวดูนาฬิกาบอกว่าเย็นนี้มีงานเลี้ยง แต่ทนเสียงออดอ้อนเย้ายวนของเยนหลิงไม่ได้ หันไปบอกคำแก้วแบบให้ไปเองว่า
"คำแก้ว ห้องคุงนายสามอยู่ชั้นเดียวกับห้องลื้อ ลื้อไปคารวะซะ"
คำแก้วรับคำแล้วไปตามที่เจ้าสัวบอก แต่ไม่ได้เข้าไปคารวะเพราะอาจูเปิดประตูมาบอกว่าคุณนายสามไม่สบาย คำแก้วจึงขอโทษแล้วกลับไป อาจูปิดประตูไว้ตามเดิมด้วยความรู้สึกไม่สบายใจที่โกหกคำแก้ว
ขณะคำแก้วเดินกลับไปนั้น เจออาอึ้มถามว่าคำแก้ว เจอหมดทั้งสามคนแล้วหรือยัง พอคำแก้วบอกว่าคุณนายสามไม่สบายเลยยังไม่ได้เจอ อาอึ้มก็ทำหน้าหน่ายถอนใจแล้วเดินไปเงียบๆ ทำให้คำแก้วยิ่งอยากเห็นหน้าคุณนายสามมาก ตัดสินใจเดินไปตามระเบียงจนถึงหน้าต่างห้องคุณนายสาม
คำแก้วลอบมอง เข้าไปในห้อง เห็นคุณนายสามนั่งลูบไล้แป้งบนใบหน้า ปากก็ถามอาจูว่าคำแก้วไปแล้วหรือยัง พอรู้ว่าไปแล้วก็คาดว่าคงไปฟ้องนายแล้ว ถามว่านายอยู่ในห้องคำแก้วใช่ไหม อาจูตอบส่งเดชว่าคงใช่ โรสคาดว่าเดี๋ยวเจ้าสัวคงพาคำแก้วมาที่นี่ ถามอาจูอีกว่าแล้วหน้าตามันสวยไหม
"สวยค่ะ" อาจูตอบทันทีหน้ายิ้มๆแต่โรสทำเสียง "ชิ!" อย่างไม่สบอารมณ์ลุกพรวดไปที่หน้าต่างแหวกม่านอย่างแรง เป็นจังหวะที่คำแก้วชะโงกมาดูพอดี เห็นหน้าขาววอกของโรสจังๆ ต่างฝ่ายต่างตกใจ คำแก้วร้องกรี๊ดแล้ววิ่งลงบันไดไป
เจ้าสัวกับเยนหลิงได้ยินเสียงกรีดร้องพากันออกมาดู เจ้าสัวถามคำแก้วว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไร คำแก้วหลับตาส่ายหน้าอย่างไม่หายกลัว เจ้าสัวเงยหน้าดูเห็นโรสชะโงกหน้าขาววอกลงมาดู เจ้าสัวหันมาถามคำแก้วอีกว่าใครทำอะไร
เม่งฮวยคุณนายที่หนึ่งที่เดิน ออกมาดูทนเห็นเจ้าสัวแสดงความห่วงใยคำแก้วไม่ได้เดินกลับเข้าห้องพร้อมกับ พึมพำ "บาปกรรม แก่เลี้ยวม่ายเจียมตัว"
"เหม่เกว่ ลื้อทำอาลายอีเหรอป่าว" เจ้าสัวตะโกนถามโรสที่ยืนอยู่ชั้นบน
โรสหมั่นไส้เดินกลับเข้าห้องกระแทกประตูปิดปัง! อาจูเข้าไม่ทันเลยชนประตูจนผงะ
เจ้าสัวปลอบประโลมจนคำแก้วบอกว่าเห็นผู้หญิงในห้องคุณนายที่สาม พลางมองขึ้นไปทำหน้าสยอง เจ้าสัวหัวเราะนึกออกว่าคำแก้วเห็นอะไร พูดขำๆว่า
"อ๋อ...เห็น เหม่เกว่เหรอ อีทาหน้าขาวล่ะสิ ม่ายต้องตกใจ อีเคยเป็นนางงิ้ว ไปล้างหน้าล้างตาแต่งตัวให้สวยๆ" พลางเจ้าสัวประคองคำแก้วขึ้นชั้นบน
ooooooo
คุณนายทั้งสามกลับเข้าห้องตัวเอง เตรียมแต่งตัวไปงานเลี้ยงรับคุณนายที่สี่
เม่งฮวยบอกอาฮุ้งว่าเอาเสื้ออะไรก็ได้ไม่ต้องสวยเพราะ "อีนั่นหยั่งกะศพ"
เยนหลิงกระชากชุดสวยสีสดใสที่อาเง็กเตรียมให้โยนไปบนเตียงแล้วหยิบชุดสีดำมาทาบตัว
ส่วนโรสยังไม่หายเคืองที่คำแก้วตกใจที่เห็นหน้าตน เดินสบถ
"หน็อย อีหน้าทารก ตกใจเพาะอั๊ว" หันไปเห็นอาจู
ถือชุดสวยมาก็ไม่เอา เดินไปหยิบชุดงิ้วสีขาวบอกว่า "อั๊วจาใส่ชุดนี้" อาจูทักท้วงว่าจะดีเหรอ โรสตอบเสียงสูงว่า "ลีซี่..."
เมื่อพากันลงไปที่ห้องโถงซึ่งเจ้าสัวนั่งเจียะเต๊อยู่กับเพื่อนๆ เจ้าสัวถามทั้งสามว่ายังไม่แต่งตัวกันอีกหรือ เม่งฮวยทำเสียง "ฮึ!" แล้วเมินไปทางอื่น โรสสะบัดแขนให้ชายแขนเสื้อปลิว ลอยหน้าบอกว่า "แต่งเลี้ยวค่านาย"
"ลื้อสามคนกลับปายแต่งตัวกันใหม่เหลียวนี้" เจ้าสัวสั่ง เม่งฮวยปฏิเสธทันทีว่า "ม่ายแต่ง" ส่วนโรสทำเฉไฉเข้าไปทักเพื่อนเจ้าสัวเสียงใส "ฮาโหลเถ้าแก่หยง หนีเห่า"
เจ้าสัวหันไปทางเยนหลิง เจ้าตัวรีบบอกว่าตนไม่อยากแต่งข่มคุณนายที่สี่ นี่ก็เตรียมเสื้อผ้าไว้แต่เธอไม่เอา คิดว่าเธออาจชอบใส่ชุดแบบเด็กๆ บอกเจ้าสัวว่า "เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูให้นะคะนาย"
แต่เยนหลิงไม่ทันขยับ คำแก้วในสุดสีชมพูหวานใส ก็เดินลงมาจากข้างบน ทุกคนมองตะลึง เจ้าสัวรีบบอกว่าให้มารู้จักเพื่อนสนิทของตน หันไปบอกเพื่อนว่า "นี่คำแก้ว เมียคนที่สี่ของอั๊ว"
"เหงี่ยเงี่ย...สวย...สวยจิงๆ" เพื่อนเจ้าสัวชม เจ้าสัวยิ้มอย่างภูมิใจมาก
ooooooo
ที่โต๊ะอาหาร บรรดาคุณนายทั้งสามนั่งเรียงกันตามลำดับ คำแก้วนั่งติดกับเจ้าสัว
เม่งฮวยคุณนายที่หนึ่งตั้งหน้าตั้งตากินเอ๊า...กินเอา
เยนหลิงยิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยกับเพื่อนๆเจ้าสัวด้วยมาดเถ้าแก่เนี้ยผู้ดี
โรสนั่งหน้าบอกบุญไม่รับ จ้องมองคำแก้วตาคมกริบ
เจ้าสัวไม่สนใจคุณนายเก่าทั้งสาม เอาอกเอาใจแต่คำแก้ว คีบโน่นคีบนี่ให้ คำแก้วใช้ช้อนตักกินเพราะยังใช้ตะเกียบไม่เป็น
กินเลี้ยงเสร็จ เจ้าสัวและคุณนายทั้งสี่เดินตามกันมาส่งแขกที่หน้าตึก เพื่อนๆต่างอวยพรเจ้าสัวให้มีความสุขมากๆและที่สำคัญขอให้มีลูกชายหลายๆคน ถูกใจเจ้าสัวจนขอบใจแล้วขอบใจอีก
ส่งแขกแล้วเจ้าสัวหันมองหาเจออาอึ้มพอดีเข้าไปกระซิบว่า "เตรียมตัวเจ้าสาวของอั๊วไว้" อาอึ้มรับคำเบาๆแล้วเดินไปหลังตึก เจ้าสัวยิ้มกริ่ม ในขณะที่คำแก้วทำหน้างงๆว่าเขาให้เตรียมตัวอะไรกัน
เมื่อคุณนายเก่าทั้งสามเข้าห้องตัวเองแล้ว ต่างจินตนาการด้วยความริษยาร้อนแรง
เม่งฮวย ที่ไหว้พระสวดมนต์เป็นอาจิณ อดถามอาฮุ้งไม่ได้ว่าใครขึ้นไปเตรียมตัวเจ้าสาว พออาฮุ้งบอกว่าเห็นอาอึ้มกับแม่ครัวพุ่มถือโคมไฟขึ้นไป เม่งฮวยก็พึมพำ
"เจ๊กอั้ก...บาปกรรมจริงๆ"
เวลาเดียวกันนั้น อาอึ้มเดินนำหน้าถือชุดเจ้าสาวสีแดง และผ้าแพรอีกมือหนึ่ง ป้าพุ่มถือโคมแดงเดินตาม ส่วนเป้าที่เป็นผู้ช่วยถืออุปกรณ์นวดเดินรั้งท้าย ทั้งสามเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน พอถึงหน้าห้องคำแก้วอาอึ้มพยักหน้าให้ป้าพุ่มแขวนโคมแดงไว้หน้าห้อง อาอึ้มเองเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปป้าพุ่มกับเป้าเดินตามอาอึ้มเข้าไปอย่างรู้หน้าที่
ooooooo
คำแก้วถูกจับนั่งเอาเท้าแช่น้ำอุ่นแล้ว ป้าพุ่มก็นวดเท้าให้จนคำแก้วรู้สึกผ่อนคลายหลับตาลงอย่างรู้สึกสบาย ครู่หนึ่งป้าพุ่มหยุดนวด อาอึ้มพยักหน้าให้ป้าพุ่ม บอกว่า
"ต่อไปนวดตัว...นวดให้ตัวแดงทั้งตัว"
ที่ โถงบันได เจ้าสัวในชุดแต่งงานสีดำเดินออกจากห้องส่วนตัวมาที่โถงบันไดขึ้นมาที่ห้องคำแก้ว ส่วนคำแก้วที่อยู่ในห้องเปลี่ยนเป็นชุดเจ้าสาวสีแดงนั่งพับชุดผ้าไหมสีชมพู ที่แม่ทอและตัดเย็บให้ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
เจ้าสัวเข้ามาในห้อง ตระกองกอดคำแก้วไปยังเตียงนอนด้วยท่าทีอ่อนโยนนุ่มนวล ที่เตียงกางมุ้งไว้แล้ว ไฟหัวเตียงที่ส่องแสงสลัวทำให้มองเห็นภาพในมุ้งเพียงเลือนราง คำแก้วเกร็งจนตัวแข็งทื่อ เจ้าสัวตระกองกอดแนบชิดเรียกเบาๆอย่างสุดกระสัน "แก้ว...คำแก้ว..."
ooooooo
โรสร้อนรนกระวนกระวาย สะบัดผ้ากรุยกรายทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ อาจูมองอย่างเห็นใจ ครู่หนึ่งเรียกอาจูเข้าไปหาแววตาเจ้าเล่ห์
เจ้าสัวโลมเล้าคำแก้วอย่างนุ่มนวล แต่คำแก้วมิได้รู้รสแห่งความนุ่มนวลนั้นเลย กลับเกร็งเจ็บปวดใจจนน้ำตาหยดหนึ่งย้อยที่หางตา...
คำแก้วนึกถึงอดีต เวลานั้นเธอเพิ่งแรกรุ่นอยู่กับพ่อที่ไร่ส้ม เธอถักทอกิ่งส้มให้เป็นรูปมงกุฎ คุยกับพ่ออย่างร่าเริงเสียงใสว่า
"ป้อเจ้า แม่ชีที่โฮงเฮียนเปิ้นอู้ว่า เจ้าสาวฝรั่งแต่งชุดขาวไปในวันแต่งงาน เปิ้นใส่มงกุฎ แหม มงกุฎดอกส้มด้วยกะเจ้า" พูดจบถักทอมงกุฎเสร็จพอดี เธอเอามงกุฎดอกส้มสวมหัวตัวเองยิ้มแฉ่งอวดพ่อ "ป้อ...แก้วจะแต่งงานใส่มงกุฎดอกส้ม"
แต่ชั่วครู่ต่อมาคำแก้วก็ได้ยินเสียงปืนลั่นขึ้น เธอร้องสุดเสียง "ป้อ!"
คิดถึงอดีตแล้วคำแก้วเผลออุทานเรียกพ่อออกมา จนเจ้าสัวถามว่าอะไรหรือ เธอบอกว่าคิดถึงพ่อ เจ้าสัวลูบแขนปลอบโยนแล้วซุกไซ้คำแก้วต่อ เธอได้แต่นอนนิ่งด้วยสีหน้าปวดร้าวใจ...
ooooooo
ดึกแล้ว อาจูมาเคาะประตูห้องคำแก้ว เจ้าสัวพึมพำอย่างไม่พอใจ "คายวะ!" พอลุกไปดูอาจูบอกว่าคุณนายสามไม่สบายเรียกหาท่านเจ้าสัว
"โกหก นังนี่มารยาอีกเลี้ยว ไป๊...ไปบอกว่าเลานอนหลับ" เจ้าสัวปิดประตูกลับไปที่เตียง
แต่เพียงครู่เดียวอาจูก็มาเคาะประตูเรียกอีก คราวนี้บอกว่าคุณนายสามไม่สบายมากจริงๆขอให้ท่านเจ้าสัวไปดูหน่อย คำแก้วได้ยินจึงเอ่ยกับเจ้าสัวเพราะใจอยากให้เจ้าสัวไปอยู่แล้วว่า
"นายไปดูก่อนดีกว่าค่ะ เธออาจป่วยมากจริงๆก็ได้"
เมื่อเจ้าสัวเดินหงุดหงิดออกไป คำแก้วนอนลืมตาโพลงมือกำผ้าห่มแน่นกับความรู้สึกที่สูญเสียนอนพลิกไปพลิกมาอยู่นานเจ้าสัวก็ยังไม่มา
จนกระทั่งเช้า คำแก้วลุกขึ้นมองรอยที่ผ้าปูที่นอนพลันก็ลุกขึ้นกระชากออกเอาไปใส่ตะกร้าผ้า ซักรวมกับเสื้อผ้าชุดที่ใส่เดินทางมา เดินไปดูตัวเองที่กระจก ใบหน้าที่สวยใส บัดนี้ผิวหน้าดวงตากลับแห้งผากขอบตาเขียวคล้ำ คำแก้วแตะเบาๆที่ขอบตาที่มีน้ำตารื้นขึ้นปริ่มดวงตา...
ooooooo
คำแก้วเปิดประตูโผล่ออกมาดูที่ห้องโรสด้วยความเป็นห่วง เห็นเจ้าสัวเพิ่งเดินออกมาแต่ไม่ทันพ้นประตูดีก็ถูกมือของโรสเอื้อมมาดึง กลับเข้าไปอีก จนเจ้าสัวต้องบอกว่าเช้าแล้ว โรสจึงยอมปล่อยออกมา
เจ้าสัวออกมาเห็นคำแก้วยืนดูอยู่ก็ตกใจ แก้วถามด้วยความห่วงใยว่าคุณนายสามหายดีหรือยัง เป็นอะไรมากหรือเปล่า
เจ้าสัวถามว่าเป็นห่วงอีเหรอ คำแก้วพยักหน้าซื่อๆเจ้าสัวบอกว่าไม่มากหรอก ถามว่าแล้วคำแก้วตื่นนานหรือยัง เธอบอกว่ายังไม่นาน ได้ยินเสียงนกกาเหว่าร้องเว้า...เว้า...เลยตื่น
"บ้านที่เชียงดาวคงมีนกเยอะใช่ไหม" เจ้าสัวถาม
คำแก้วหน้าสลดลง เจ้าสัวมองซ้ายมองขวาก่อนว่ามีใครหรือเปล่าแล้วจึงโอบคำแก้วปลอบใจ พอเห็นคำแก้วน้ำตาคลอก็ปลอบว่าอย่าร้อง นิ่งเสียแล้วพาเข้าห้องปิดประตู
อาจูถือถาดใส่กาน้ำชาเดินขึ้นบันไดมาเห็นก่อนแล้ว แต่พอเจ้าสัวพาคำแก้วเข้าห้องอาจูก็ทำหน้าปกติยกถาดกาน้ำชาเข้าไปห้องโรส
เช้านี้โรสอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่แย่งตัวเจ้าสัวมาค้างคืนกับตนได้ ฮัมเพลงอย่างมีความสุข พออาจูเข้ามาก็ถามว่าเห็นเจ้าสัวเดินลงไปไหม อาจูนิ่งไปนานกว่าจะบอกว่าไม่เห็นค่ะ
ooooooo
ถึงเวลา 08.00 น. ที่โต๊ะอาหารเช้ามีข้าวต้มและกับพร้อมแล้วมากมาย เม่งฮวยนั่งอยู่ก่อนแล้วเหลือบดูนาฬิกาเห็นตรงเวลาแปดโมงเช้าก็สั่งอาย้งให้ ตักข้าวทันที
เจ้าสัวลงมาทักว่าเจี๊ยะแล้วหรือ เม่งฮวยตอบห้วนๆว่าแปดโมงห้านาที เจ้าสัวพึมพำว่าแค่ห้านาทีแล้วลงนั่งที่หัวโต๊ะ
คน ที่ลงตามกันมาคือเยนหลิงกับโรส เม่งฮวยอบรมทันทีว่าอย่าช้าบ่อยๆคนเขาต้องมานั่งรอเสียเวลา โรสถามว่าใครรอ เม่งฮวยไม่ตอบแต่บ่นว่าไม่ตรงเวลาแล้วยังไม่ขอโทษไม่มีมารยาท ด่าตบท้ายว่า "เฮงซวยจิงๆ" เลยถูกโรสย้อนเอาว่าเจี๊ยะก่อนก็ไม่มีมารยาทเหมือนกัน พลางนั่งประจำที่ของตัวเอง
เม่งฮวยกระแทกตะเกียบลงอย่างแรงพูดเสียงดัง
"อั๊ว บอกหลายหนแล้วว่าบ้านนี้มีกดลาเบียบ อาหารเช้าแปดโมง กลางวันเที่ยง เย็นหกโมง ต้องเจี๊ยะให้กงเวลา วันๆม่ายทำอาไลได้แต่ผัดหน้าขาวร้องเพง จามาเจี๊ยะให้กงเวลามันจาตายเหรอยางงาย"
โรสทำไม่รู้ไม่ชี้ลงมือกิน อ้อนถามเจ้าสัวว่า นี่อะลาย...โน่นอาลาย...ถูกเจ้าสัวตัดบทอย่างรำคาญว่าเจี๊ยะๆเถอะอย่าพูดมาก โรสทำเป็พูดเยาะเย้ยคนอื่นกลางโต๊ะว่าวันนี้ไม่รู้เป็นอะไรหิวจังเลย เม่งฮวยชำเลืองค้อนขวับ พึมพำเบาๆ "คนเฮงซวย!"
เยนหลิงคอยจังหวะอยู่นาน ถามว่าแล้วคำแก้วล่ะ ทำไมยังไม่มา พูดจบก็ชำเลืองทางเม่งฮวย ได้เรื่องจริงๆ เพราะเม่งฮวยพูดอย่างไม่พอใจว่า
"เหลียวเหอะ...เหลียวมันมาจาโดนดี"
เจ้า สัวบอกว่าวันนี้วันแรก ถึงมาผิดเวลาก็อย่าเพิ่งดุอีเลย ก็พอดีคำแก้วเดินมาแบบไม่เร่งรีบนัก โดนเม่งฮวยว่าทันทีว่า "นี่ ลื้อมาป่างนี้จามาเก็บจานเหรอไง" เจ้าสัวเรียกปรามแต่หยุดเม่งฮวยไม่ได้ยังคงเถียงว่า "ต้องว่าอี...ม่ายงั้นอีก็ม่ายลู้"
เยนหลิงพูดหน้าตาเฉยว่าตนบอกแล้ว ว่าอาหารเช้าแปดโมง คุณนายใหญ่ไม่ชอบผิดเวลา ทำเอาคำแก้วงงว่าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ พอถาม เยนหลิงยืนยันว่าบอกเธอคงไม่ได้ยินเอง เม่งฮวยยังจะเอาเรื่องต่อ เจ้าสัวเลยขัดขึ้นว่าเอาเถอะ คำแก้วมาแล้วก็นั่งลงเสีย พอคำแก้วนั่งลงข้างๆ เจ้าสัวตักโน่นตักนี่ ให้พลางเตือนย้ำเสียงอ่อนๆว่า
"ลีบๆเจี๊ยะซะ คำแก้ว พุ่งนี้อย่ามาสายอีก ทุกมื้อ อย่าสายจำไว้นา" เจ้าสัวเหลือบมองเยนหลิงแล้วพูดเอาใจ "คุงนาย ที่สองบอกแล้วนี่นา ลื้อต้องเชื่อนะ"
คำแก้วมองเยนหลิงอีกที ฝ่ายนั้นยิ้มให้อย่างหวานสุดๆ คำแก้วได้แต่งงว่าเยนหลิงบอกตนตอนไหน...
ooooooo










